หลายคนอาจมีความเข้าใจผิดว่าหลังการผ่าตัดควรฟักฟื้นเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ แต่การทำกายภาพบำบัดก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่จะช่วยเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหวของร่างกายหลังการผ่าตัดให้ดีขึ้นเช่นกัน
หลังผ่าตัดร่างกายต้องได้รับการพักฟื้น
เราเชื่อว่ายังมีผู้ป่วยบางรายเข้าใจผิด คิดว่าเมื่อเข้ารับการผ่าตัดแล้วจะสามารถกลับไปลุยงานต่อได้เลยทันที แต่ในความเป็นจริงแล้วร่างกายไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้มากขนาดนั้น ร่างกายยังต้องอาศัยเวลาพักฟื้นเพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้เป็นปกติ เตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ดังนั้นแน่นอนว่าผลการรักษาที่จะบอกได้ว่าประสบความสำเร็จหรือไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองและการทำกายภาพบำบัดอย่างถูกต้องเหมาะสมหลังจากการผ่าตัดด้วยเช่นกัน
รู้จักการทำกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัด (Physical Therapy) คือศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพด้วยการออกกำลังกายและใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น การใช้ความร้อน ความเย็น การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ให้ความร้อนลึก (Short Wave Diathermy) และเครื่องมือทางกายภาพอื่นๆ เช่น Ultrasound , Low Level Laser Therapy , Shockwave เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าระงับปวด เครื่องดึงคอและดึงหลัง เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการใช้การรักษาด้วยมือที่เรียกว่า Manipulation & Mobilization การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching Exercise) การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ รวมทั้งเทคนิคการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างถูกวิธี
เหตุผลสำคัญที่ไม่ควรละเลยในการทำกายภาพบำบัด
จุดประสงค์ของการทำกายภาพบำบัดนั้นก็เพื่อรักษาผู้ป่วยให้กลับมาสมบูรณ์แข็งแรง เคลื่อนไหวได้ตามปกติมากที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าผู้ป่วยบางรายหลังผ่าตัดอาจจะต้องใช้ระยะในการฟื้นฟูนาน โดยขึ้นอยู่กับประเภทและระยะของโรค วิธีการผ่าตัด รวมถึงการดูแลปัจจัยเสี่ยงโรคประจำตัว อายุของผู้ป่วย เป็นต้น โดยเป้าหมายหลักในการทำกายภาพบำบัด แบ่งออกเป็น 3 ข้อใหญ่ๆ คือ
- การลดความเจ็บปวด
คือ การบำบัดอาการปวดและอาการชา หลังจากการผ่าตัดผู้ป่วยเกือบทุกรายมักมีอาการปวด รวมถึงอาการบวม แดง ร้อน ที่มีผลมาจากการไหลเวียนเลือดบริเวณแผลทำได้ไม่ดีนัก จึงเกิดอาการบวมขึ้น การทำกายภาพบำบัดจะสามารถช่วยให้อาการเหล่านี้ลดลงได้ โดยอาจใช้วิธีประคบเย็นบริเวณแผลเพื่อลดอักเสบ การกระตุ้นไฟฟ้าหรือการนวดไล่สารน้ำรอบๆ แผล หรือการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดเพื่อลดปวด ลดการอักเสบ - เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
หลังจากที่ผ่าตัดมาใหม่ๆ ความเจ็บปวดจะยังคงมีอยู่ จนไม่อาจขยับหรือเคลื่อนไหวได้ รวมถึงความจำเป็นที่ต้องให้ร่างกายในส่วนนั้นอยู่นิ่งๆ เพื่อให้แผลยึดติดกันได้ดี ซึ่งแน่นอนว่าการที่เราไม่ขยับร่างกายหรืออวัยวะส่วนใดๆ ส่วนหนึ่งเป็นเวลานานๆ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นฝ่อลีบ ขาดความแข็งแรง อย่างในผู้ป่วยที่ผ่าตัดเข่า ในช่วงแรกผู้ป่วยจะรู้สึกว่าเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็รู้สึกล้าขา รู้สึกเมื่อยขามากกว่าขาข้างที่ไม่ได้ผ่า ดังนั้นการทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากเพื่อให้ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากพอ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติและลดความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มในอนาคต ในทางกลับกันหากเข้ารับการผ่าตัดแล้วไม่ยอมทำกายภาพบำบัด ปล่อยให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณนั้นอ่อนแรงไป ไม่แข็งแรงเพียงพอที่จะพยุงตัวได้ อาจส่งผลให้ผู้ป่วยลุกเดินลำบาก อาจต้องใช้ชีวิตบนรถเข็นนั่ง (wheel chair) ตลอดเวลา ส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลง และเป็นภาระของผู้อื่นตามมา - เพิ่มองศาการเคลื่อนไหวของข้อต่างๆ
ปัญหาข้อยึดติดหลังจากการผ่าตัดไม่สามารถงอหรือเคลื่อนไหวได้ปกติที่พบได้บ่อยนั้น เกิดจากอาการปวดที่ส่งผลให้ผู้ป่วยเลี่ยงที่จะงอ หรือขยับข้อส่วนนั้น เช่นข้อเข่า หรือข้อไหล่ เมื่อไม่ยอมงอหรือเคลื่อนไหวข้อส่วนนั้นติดต่อกันเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดพังผืดอยู่ภายในเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ เกิดการหดรั้ง กระทั่งในที่สุดผู้ป่วยมีภาวะข้อติด ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เสี่ยงต่อการล้มเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายจากการเคลื่อนไหวไม่สะดวก
ดังนั้นการทำกายภาพบำบัดภายหลังการผ่าตัด โดยบริหารเคลื่อนไหวข้อต่อให้ได้มากที่สุดจะช่วยลดปัญหาการเกิดข้อยึดติดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่ค่อยให้ความร่วมมือเนื่องจากความเจ็บปวด แต่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต ผู้ป่วยจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้ารับการทำกายภาพบำบัด