การดูแลตัวเองหลังได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (คีโม)

การดูแลตัวเองหลังได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (คีโม)

คนไข้โรคมะเร็งหลังจากได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดแล้ว ร่างกายจะอยู่ในสภาวะอ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การดูแลตัวเองหลังได้รับยาเคมีบำบัดจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพของคนไข้ ทั้งยังช่วยให้การรักษาโรคมะเร็งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โอกาสหายขาดจากโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น หรืออาจจะเรียกว่า…เป็นหนึ่งในขั้นตอนการรักษาที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการให้ยาก็ว่าได้

 

3 ปัจจัยสำคัญในการดูแลตัวเองหลังรับยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็ง

  • ดูแลเรื่องอาหาร อาหารคือสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลตัวเองหลังการรับเคมีบำบัด เนื่องจากการได้รับสารเคมีจะเกิดการทำลายหรือยับยั้งเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตเร็วในร่างกาย ซึ่งรวมถึงจำนวนเม็ดเลือดขาวที่ช่วยในการกำจัดเชื้อโรค ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง อาหารที่ควรรับประทานและควรเลี่ยงจึงมีดังต่อไปนี้

 

อาหารที่ควรรับประทานหลังได้รับเคมีบำบัด

  • อาหารปรุงสุกใหม่ อาหารที่สุกและสะอาดช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคในระบบทางเดินอาหาร
  • อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา นม และไข่ไก่ต้มสุก เป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายและราคาถูก โปรตีนมีความสำคัญในการเสริมสร้างเซลล์ในร่างกายที่ถูกทำลายไป ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แนะนำปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย
  • รับประทานอาหารจากร้านที่เชื่อได้ว่าปรุงสุกสะอาด ถูกสุขอนามัยเท่านั้น
  • ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ไตขับยาเคมีบำบัดออกจากร่างกายให้มากที่สุด

 

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังได้รับเคมีบำบัด

  • เลี่ยงรับประทานอาหารค้างคืน เพราะมีความเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับเชื้อโรคที่กำลังเพาะตัวในอาหารจานนั้น
  • เลี่ยงรับประทานอาหารหมัก ดอง ดิบ กึ่งสุก กึ่งดิบ เพราะมีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง
  • เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์ หรือเสพสิ่งมึนเมาอื่นๆ ในระหว่างการรักษา ที่อาจกระตุ้นการทำงานของเซลล์มะเร็ง

 

คำแนะนำเพิ่มเติมในการกินอาหารหลังได้รับเคมีบำบัด

พยายามรับประทานอาหารให้เพียงพอ คนไข้ส่วนใหญ่หลังได้รับยาเคมีบำบัด มักจะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน แต่อย่างไรก็ตาม ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ คนไข้อาจจะรับประทานอาหารทีละน้อยโดยแบ่งเป็นมื้อย่อย 5-6 มื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพื่อการฟื้นฟูร่างกายอย่างเพียงพอ และเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดในครั้งต่อไป จนกว่าจะเสร็จสิ้นโปรแกรมการรักษา

 

การระมัดระวังอาการข้างเคียงหลังได้รับเคมีบำบัด

อาการข้างเคียงจากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและลักษณะของการเกิดโรคมะเร็ง เช่น เกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ก็อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง ท้องเสียได้ง่าย หรือโรคมะเร็งในปอด จะมีอาการข้างเคียงคือหายใจลำบาก เหนื่อยง่าย ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการที่เกิดจากตำแหน่งของโรคมะเร็ง

 

ส่วนผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดที่พบบ่อยที่สุดคือ อาการวิงเวียนศีรษะ  คลื่นไส้ อาเจียน อีกทั้งการที่เม็ดเลือดขาวมีปริมาณต่ำจากการให้ยาเคมีบำบัด ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง คนไข้ป่วยง่าย

 

โดยแพทย์จะทำการจ่ายยาป้องกันอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แม้จะช่วยป้องกันไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้คนไข้บรรเทาอาการลงได้  หากรับประทานยาแล้วอาการข้างเคียงไม่ดีขึ้นหรือมีอาการหนักขึ้น ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยต่อไป

 

หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ

หลังการให้ยาเคมีบำบัดควรพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษต่างๆ หรือรับสารพิษที่อาจไปกระตุ้นการทำงานของมะเร็ง เช่น อยู่ในมลภาวะไอเสียรถยนต์ สัมผัสกับสิ่งสกปรก สูบบุหรี่หรือรับควันบุหรี่ ซึ่งมีสารกระตุ้นเซลล์มะเร็ง ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนไข้ที่อยู่ในสภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งอาจทำให้ผลการรักษาไม่เป็นไปตามแผนการรักษาของแพทย์ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนไข้เอง


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...