คนไข้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีดวงขาว สามารถเป็นได้หลายโรค เช่น โรคด่างขาว โรคเรื้อน เกลื้อนน้ำนม เกลื้อนเชื้อรา หรือบางคนอาจจะเพราะฉีดยาบางอย่าง เช่น ยาสเตียรอยด์ หรือทายาบางอย่างแล้วเกิดเป็นดวงขาว และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ผิวหนังบางชนิด เราจึงต้องทำการวินิจฉัยแยกโรคก่อนเพื่อให้แพทย์สามารถทำการรักษาได้ตรงกับสาเหตุ
โรคด่างขาวคืออะไร มีสาเหตุจากอะไร?
โรคด่างขาวคือโรคที่ร่างกายสร้างสารไปทำลายเซลล์ Melanocyte เป็นเซลล์สร้างเม็ดสีที่มีชื่อว่า Melanin ซึ่ง Melanin เป็นตัวกำหนดสีผิว สีตา สีผม เมื่อเซลล์ Melanocyte ถูกทำลาย จึงทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีดวงขาว ส่วนสาเหตุอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ และโรคแพ้ภูมิบางอย่าง เช่น โรค SLE โรคหนังแข็ง โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง เป็นต้น
สังเกตได้อย่างไรว่าเราอาจเสี่ยงโรคด่างขาว ?
การสังเกตโรคด่างขาวเบื้องต้น คือ บริเวณที่เป็นดวงจะค่อนข้างขาว มีขอบเขตค่อนข้างชัดเจน แต่หากไม่แน่ใจว่าเป็นโรคด่างขาวหรือไม่ หรือเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเป็นโรคด่างขาวหรือว่าเป็นโรคอื่น
โรคด่างขาวสามารถติดต่อกันได้หรือไม่ ?
โรคด่างขาวเป็นโรคไม่ติดต่อ คือ ไม่ติดต่อจากคนสู่คนผ่านการสัมผัสผิวหนังบริเวณที่เป็นดวงขาว แต่สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์
รักษาโรคด่างขาวได้ด้วยวิธีใดบ้าง ?
วิธีการรักษาอย่างแรกคือการทายา อย่างต่อมาคือการฉายแสง หรือการรักษาร่วมทั้งทายาและฉายแสง สำหรับการฉายแสงในปัจจุบันได้มีการผลิตเครื่องมือฉายแสงที่เรียกว่า Excimer 308 เป็นการฉายแสงอาทิตย์เทียมด้วยรังสีอัลตร้าไวโอเลตบี คลื่นความถี่ที่ 308 เนื่องจากมีการวิจัยแล้วว่าความยาวคลื่นที่ 308 มีผลการรักษาที่ดี ผลข้างเคียงน้อย โดยเมื่อฉายแสงไปบริเวณที่เป็นรอยโรค จะเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบภูมิคุ้มกัน
ซึ่งเครื่อง Excimer 308 สามารถรักษาได้ทั้งโรคด่างขาว โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังต่างๆ ให้ผลการรักษาบริเวณที่เป็นรอยโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อบริเวณผิวหนังที่เป็นปกติ
ก่อนทำการรักษาด้วยเครื่อง Excimer 308 ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
ก่อนที่จะทำการรักษา ผู้ป่วยจะต้องทำ MED Test (Minimal Erythematous Dose) เพื่อหาระดับพลังงานที่เหมาะสมในการฉายแสง โดยเวลาฉายแสงจะฉายเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยโรค ส่วนบริเวณเนื้อที่เป็นปกติจะมีอุปกรณ์ปิดป้องกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีผลข้างเคียงกับผิวหนังที่เป็นปกติ
เครื่อง Excimer 308 ใช้เวลาการรักษานานแค่ไหน ?
ในการฉายแสงนั้นจะใช้เวลามากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับว่าบริเวณที่เป็นรอยโรคนั้นกว้างมากแค่ไหน โดยช่วงแรกผู้ป่วยจะต้องเข้ามาทำการรักษา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากอาการดีขึ้นก็สามารถเว้นระยะในการรักษาลงได้ตามอาการของผู้ป่วย
โรคด่างขาวสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ ?
สาเหตุของโรคด่างขาวนั้นยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด แต่จากข้อสันนิษฐานโรคด่างขาวเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ หรือโรคแพ้ภูมิ ดังนั้นบางทีโรคด่างขาวอาจจะรักษาไม่หายขาด สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ แต่โดยปกติแล้ว 50% สามารถสงบได้ในระยะยาว ซึ่งถ้าหากกลับมาเป็นซ้ำก็ควรที่จะพบแพทย์เพื่อเริ่มทำการรักษาใหม่
เราควรจะดูแลตัวเองหลังการรักษาโรคด่างขาวอย่างไร ?
หลังการฉายแสงด้วยเครื่อง Excimer 308 จะไม่รู้สึกแสบร้อน สามารถทาครีมกันแดด ไม่ต้องใส่เสื้อปกปิด ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่หากเกิดอาการคัน ผู้ป่วยไม่ควรที่จะแกะเกาบริเวณที่ได้รับการรักษา รวมถึงหลีกเลี่ยงการถูกขีดข่วนด้วย และควรที่จะรักษาสุขอนามัย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ไม่เครียด และที่สำคัญคือ ควรทาครีมกันแดดบริเวณรอยโรค เนื่องจากบริเวณรอยโรคด่างขาว หากถูกแสงแดดจะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ และระมัดระวังเรื่องการโดนแสงแดด
หากเป็นโรคด่างขาวแล้วไม่ได้รับการรักษา จะเสี่ยงโรคอันตรายอะไรหรือไม่ ?
โรคด่างขาวนั้นไม่ได้เป็นอันตรายอะไร เพียงแต่ผิวบริเวณนั้นจะขาวกว่าบริเวณอื่น อาจจะมีผลในแง่ของความสวยงาม ความมั่นใจในตัวเอง แต่ถึงจะไม่เป็นอันตรายอะไรก็ควรที่จะทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดๆ ในบริเวณที่เป็นดวงขาว เพราะอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังได้
ผู้ป่วยกลุ่มใดที่ควรระวังในการรักษา ?
- ผู้ป่วยตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ป่วย SLE, HIV
- ภาวะด่างขาวจากโรค Hyperthyroidism
- ผู้ป่วยที่ใส่เครื่อง Pacemaker
- ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาที่มีความไวแสง
- มีประวัติเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง