ตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย H.pylori สาเหตุหลัก...โรคแผลในกระเพาะอาหาร (Peptic Ulcer)

พญาไท 2

2 นาที

ศ. 27/03/2020

แชร์


Loading...
ตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย H.pylori สาเหตุหลัก...โรคแผลในกระเพาะอาหาร (Peptic Ulcer)

โรคกระเพาะอาหาร เป็นโรคที่พบได้บ่อย และก่อให้เกิดความรำคาญและทุกข์ทรมานจากอาการปวดท้องเป็นๆ หายๆ ในบางรายอาจมีอันตรายจากโรคแทรกซ้อน เช่น การตกเลือดในกระเพาะอาหาร หรือกระเพาะทะลุ และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร โดยบริเวณที่พบอาจเกิดแผลในกระเพาะ (Gastric Ulcer) หรือแผลบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น (Duodenal Ulcer) และด้วยสาเหตุการเกิดโรคที่คล้ายกัน จึงมักจะเรียกรวมๆ กันว่า “โรคแผลในกระเพาะอาหาร” (Peptic Ulcer)

สาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหาร

  1. การติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ไพโรไล (H.pylori) เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 60% ของสาเหตุทั้งหมด
  2. กรดในกระเพาะมากขึ้นทำให้เกิดโรคแผลในกระเพาะอาหารได้ง่าย
  3. การทำลายเยื่อบุกระเพาะ เช่น จากยาแอสไพริน ยาแก้ปวดกระดูก หรือการดื่มสุรา

อาการของโรคแผลในกระเพาะอาหาร

  1. มีอาการปวดท้องบริเวณยอดอกหรือลิ้นปี่
  2. มีอาการจุก เสียด แน่น เจ็บแสบหรือร้อน อาการจะสัมพันธ์กับการกินหรือชนิดของอาหาร บางรายอาจมีอาการปวดท้องตอนกลางคืน
  3. ผู้ป่วยบางรายจะมีอาการโรคแทรกซ้อน เช่า อาเจียนเป็นเลือด

แบคทีเรียร้ายในกระเพาะอาหาร เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobactor pylori)  คืออะไร

  1. เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้มีความทนกรดสูง จึงสามารถอาศัยอยู่ในชั้นผิวเคลือบภายในกระเพาะอาหารได้
  2. สามารถสร้างสารพิษไปทำลายเซลล์เยื่อบุผิวของกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหาร เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
  3. การศึกษาวิจัยจากสมาคมแพทย์และองค์การอนามัยโลกพบว่าเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ เป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogen group1) ทำให้ผู้ป่วยโรคแผลในกระเพาะอาหารมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งของกระเพาะอาหาร มากกว่าคนปกติ 3-6 เท่า

การตรวจหาเชื้อ Helicobactor Pylori สามารถทำได้หลายวิธีดังนี้

  1. โดยวิธีการส่องกล้องเพื่อตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy)
  2. การตรวจหา H. Pylori โดยตรวจสอบจากลมหายใจ
  3. การตรวจเลือด เพื่อหาภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อ

จากการวิจัยขององค์การอาหารและยา พบว่าประสิทธิภาพของการตรวจแต่ละวิธี แตกต่างกันดังนี้

วิธีการตรวจ การส่องกล้อง –ตัดชิ้นเนื้อ การหาภูมิคุ้มกัน การตรวจลมหายใจ
Sensitivity 95.4% 95.7% 98.8%
Specificity 100% 100% 100%
Accuracy 96.6% 91.8% 99.1%

วิธีการรักษาเพื่อกำจัดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร

  1. การรับประทานยายับยั้งการหลั่งกรด นาน 6-8 สัปดาห์ ร่วมกับยาปฎิชีวนะ นานถึง 1-2 สัปดาห์
  2. หลังจากหยุดยา 4 สัปดาห์ ให้ผู้ป่วยกลับมาตรวจหาเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร อีกครั้งหนึ่ง

ขั้นตอนการตรวจ – รักษา โดยรวม

  • หาสาเหตุการเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร
  • ตัดชิ้นเนื้อ →  ตรวจสอบลมหายใจ → หาภูมิคุ้มกัน
  • หากตรวจพบการติดเชื้อ รักษาด้วยยาลดกรดและยาปฎิชีวนะ
  • กลับมาตรวจซ้ำ เพื่อยืนยันการรักษา

หลักการสำคัญของการตรวจเชื้อ H.Pylori ในกระเพาะอาหาร ด้วยการทดสอบลมหายใจ

เชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร (H.Pylori) สามารถผลิตเอนไซม์ Urea ได้ ดังนั้นการวินิจฉัยจึงให้ผู้ป่วยรับประทานยา Urea ที่เคลือบ 13C หากผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อ H.Pylori จะเกิดการย่อยเม็ดยา ได้แอมโมเนีย (NH3) ออกมากับปัสสาวะ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (13CO2) ออกมากับลมหายใจ  โดยโรงพยาบาลจะเก็บตัวอย่างลมหายใจของผู้ป่วยเพื่อนำไปวิเคราะห์ผลต่อไป

การตรวจหาการติดเชื้อ Helicobacter Pylori ในกระเพาะอาหาร  โดยวิธี 13 C-Urea Breath Test

การเตรียมตัวผู้ป่วย

  1. งดอาหารและเครื่องดื่ม ก่อนการตรวจอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อให้กระเพาะอาหารว่าง
  2. งดอาหารที่มีสารยูเรีย (urea) เช่น แอลกอฮอล์ น้ำอ้อย น้ำสับปะรด
  3. งดการสูบบุหรี่
  4. งดยาฆ่าเชื้อ (antibiotics) และ ยาลดการหลั่งกรดกลุ่ม PPI (เช่น omeprazole, esomeprazole , dexlanzoprezole) และยาลดการหลั่งกรดกลุ่ม P-CABs (เช่น vonoprazan) ก่อนการตรวจอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตามคำสั่งแพทย์

ขั้นตอนในการตรวจ13 C-Urea Breath Test

  1. เป่าลมหายใจ ลงในถุงตัวอย่าง (Bag no.1) ก่อนทานเม็ดยา UBiT จนเต็มถุง
  2. กลืนเม็ดยา UBiT (ภายใน5วินาที) พร้อมดื่มน้ำ 1 แก้ว (100 มิลลิลิตร) ห้ามเคี้ยวหรืออมเม็ดยา
  3. นอนตะแคงด้านซ้าย เป็นเวลา 5 นาที
  4. เปลี่ยนเป็นท่านั่ง เป็นเวลา 15 นาที
  5. เมื่อครบ 20 นาที หลังทานเม็ดยา UBiT แล้วเป่าลมหายใจลงในถุงตัวอย่างใบที่2 (Bag no.2) จนเต็ม
  6. เก็บถุงตัวอย่างทั้งสองใบส่งให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล

ข้อดีของการใช้ 13 C-Urea Breath Test

  • ผู้ป่วยไม่เจ็บปวด
  • มีความแม่นยำ 98%
  • เป็นการตรวจหา H.Pylori
  • เม็ดยา Urea ที่เคลือบด้วย 13C ไม่เป็นสารกัมมันตภาพรังสี
  • ปลอดภัยทั้งผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่
  • ไม่เหลือสารตกค้างในร่างกาย
  • ลดการติดเชื้อเนื่องจากถุงเก็บตัวอย่างเป็นชนิด Disposable
  • การวิเคราะห์ผลง่าย และรวดเร็ว 30 นาที สามารถทราบผล

 

ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ 
โรงพยาบาลพญาไท 2 ชั้น 4 อาคารA
โทร 02-617-2444 ต่อ 7401, 7406


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...