รู้ไหม? กายภาพบำบัด..ช่วยลดอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัวได้

พญาไท 2

1 นาที

พ. 25/03/2020

แชร์


Loading...
รู้ไหม? กายภาพบำบัด..ช่วยลดอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัวได้

เคยมั้ย? นั่งทำงานนานๆ แล้วรู้สึกว่า “อาการปวดศีรษะ” ต้องกำเริบทุกที! ซึ่งอาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงเป็นผลมาจากความเครียดในการทำงาน แต่การที่กล้ามเนื้อเกร็งตัวติดต่อกันนานๆ ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยของอาการปวดศีรษะได้เหมือนกัน ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะปวดศีรษะเรื้อรัง…ส่งผลรบกวนการนอนหรือการใช้ชีวิตประจำวันได้

ใช้งานกล้ามเนื้อคอบ่าอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะได้นะ!

แม้ว่าอาการปวดศีรษะจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่หนึ่งในสาเหตุที่พบมากที่สุด ก็คือ อาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว บริเวณต้นคอ บ่า ซึ่งพบได้มากในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเครียดสูง ขาดการออกกำลังกายและการดูแลตัวเอง หรือกลุ่มที่ใช้งานกล้ามเนื้อคอบ่าอย่างหนัก เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะเครียดติดต่อกันเป็นเวลานาน จนส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าว บริเวณกะโหลกศีรษะ อาจมีอาการปวดศีรษะข้างเดียวหรือทั้งศีรษะ ร่วมกับอาการปวดบริเวณเบ้าตา

ซึ่งผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาการปวดอาจรุนแรงขึ้น จนมีอาการปวดร้าวและมีการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ตั้งแต่ต้นคอ บ่า ไหล่ ร่วมด้วย ในบางรายอาจมีชาลงปลายมือ  แม้อาการปวดศีรษะชนิดนี้เป็นอาการที่ไม่ได้ส่งผลรุนแรงต่อผู้ป่วย แต่ก็รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย และยิ่งเพิ่มความรู้สึกเครียดให้กับผู้ป่วยมากขึ้นได้

ขั้นตอนการประเมิน…ค้นหาสาเหตุ “อาการปวดศีรษะ”

หากแพทย์ประเมินว่าอาการปวดศีรษะนั้นไม่ได้มีสาเหตุจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง หรือโรคเวียนหัวบ้านหมุน อีกหนึ่งการวินิจฉัยแยกโรค..คือสอบถามประวัติผู้ป่วยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งทำงานด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม มีการเกร็งกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่อยู่ท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานๆ ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือมีความเครียดจากการทำงาน เพราะปัจจัยเหล่านี้ ล้วนส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะร่วมกับการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ คอ ไหล่ และหลังได้

กายภาพบำบัด! หนึ่งในการรักษาอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว

การรักษาทางกายภาพบำบัด อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะอันมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อคอบ่าเกร็งตัวผิดปกติ เพราะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ ทำให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณคอ บ่าเกิดความสมดุลมากขึ้น อาการปวดศีรษะจึงบรรเทาลง รวมถึงการปรับท่าทาง เพื่อไม่ให้อาการกลับมาเกิดซ้ำหรือรุนแรงเพิ่มขึ้น

ขั้นตอนการรักษาอาการปวดศีรษะด้วยกายภาพบำบัด

การลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด ได้แก่ คลื่นความร้อนลึก หรือเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย หากเทียบกับวิธีการนวดที่ผู้ป่วยคุ้นเคยแล้ว จะมีความแตกต่างกันตรงที่กล้ามเนื้อเกิดความผ่อนคลายได้ตรงจุด โดยไม่มีอาการเจ็บเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อหลังการทำกายภาพบำบัด

หลังจากผ่อนคลายกล้ามเนื้อแล้ว นักกายภาพบำบัดจะทำการยืดกล้ามเนื้อด้วยท่าทางที่เหมาะสมกับกล้ามเนื้อแต่ละมัด เพื่อให้กล้ามเนื้อกลับมาอยู่ในสภาพปกติ เมื่อการไหลเวียนเลือดบริเวณคอ บ่า เกิดความสมดุล อาการปวดศีรษะก็จะบรรเทาลง ซึ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะจากอาการกล้ามเนื้อเกร็งตัวนี้ อาการปวดศีรษะจะดีขึ้นในทันที ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก!  โดยระยะเวลาในการรักษาแต่ละครั้งประมาณ  1 – 1 1/2 ชั่วโมง

หลังจากการรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด ผู้ป่วยจะได้รับการแนะนำท่าบริหารกล้ามเนื้อเพื่อช่วยยืดผ่อนคลาย และการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกำลังกล้ามเนื้อ รวมถึงการปรับท่าทางให้เหมาะสมกับการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะที่อาจเกิดขึ้นซ้ำได้อีกจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่

ผู้ป่วยกลุ่มใดไม่ควรรักษาด้วยวิธีการทำกายภาพบำบัด

แม้ว่าการทำกายภาพบำบัดจะเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับผู้ป่วยในกลุ่มต่อไปนี้…

  1. ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยแยกสาเหตุของอาการปวดศีรษะอย่างถูกต้อง แม้การทำกายภาพบำบัดจะช่วยให้เกิดการผ่อนคลายและลดอาการปวดศีรษะได้บ้าง แต่การรักษาที่ต้นเหตุจะช่วยให้ผู้ป่วยหายจากอาการปวดศีรษะได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
  2. ผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุ มีอาการบาดเจ็บบริเวณไหล่และคอ ร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ ควรได้รับการวินิจฉัยแยกปัญหาว่าเกิดจากภาวะกระดูกหรือกล้ามเนื้อให้ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการรักษาทางกายภาพบำบัดอย่างเหมาะสมและปลอดภัย
  3. ผู้ป่วยที่มีอาการเป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ควรรักษาอาการไข้ให้หายดีเสียก่อน

แชร์

Loading...
Loading...
Loading...