พ่อแม่ควรรู้! ลูกมีอาการแบบไหน...เข้าข่ายโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ

พ่อแม่ควรรู้! ลูกมีอาการแบบไหน...เข้าข่ายโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ

โรคปอดบวม มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ หรือโรคนิวโมเนีย (pneumonia) เป็นโรคติดเชื้อที่ปอด ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังเกิดจากการติดเชื้อโรคชนิดอื่นๆ ได้ เช่น เชื้อไมโคพลาสมา (mycloplasma) และเชื้อรา ซึ่งทำให้เกิดอาการไอ หายใจลำบาก และหอบเหนื่อย

 

โรคปอดบวมในเด็ก…ติดต่อผ่านทางไหนได้บ้าง?

โรคปอดบวมไม่ว่าจะในเด็กหรือในผู้ใหญ่สามารถติดต่อผ่านการหายใจ ซึ่งนำเชื้อโรคเข้าปอดโดยตรงจากการสูดหายใจเอาอากาศที่มีเชื้อปนอยู่ในละอองฝอยขนาดเล็ก โดยเฉพาะบริเวณที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น ห้องเรียน โรงภาพยนตร์ สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์ผู้อพยพ โรงแรม หอพัก กองทหาร หรือในเรือนจำ

ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อได้ สำหรับเด็กที่มีเชื้ออยู่ในร่างกายแต่ไม่มีอาการ ก็สามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อได้ จึงต้องระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะในสถานรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน

 

อาการโรคปอดบวมที่ควรสังเกต 

อาการปอดบวมอาจสังเกตได้จากการมีไข้ ไอ หายใจเร็ว หอบเหนื่อย หายใจลำบาก หายใจแรงจนรูจมูกบาน หรือหายใจแรงมากจนหน้าอกบุ๋ม และถ้าเกิดหลอดลมภายในปอดตีบก็อาจได้เกิดเสียงหายใจวี๊ด (wheeze) รายที่มีอาการรุนแรงมากอาจทำให้ภาวะหัวใจล้มเหลว และถ้าหายใจลำบากอยู่นาน จะทำให้ขาดออกซิเจน ผู้ป่วยอาจซึมลง หรือหมดสติในที่สุด

 

การรักษาโรคปอดบวมโดยทั่วไปจะรักษาด้วยวิธีใด?

  • แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ ในรายที่หอบมากจนรับประทานอาหารไม่ได้ ควรให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และงดรับประทานอาหารทางปากเพื่อป้องกันการสำลัก
  • ให้ออกซิเจน เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณออกซิเจนที่เพียงพอ
  • ให้ยาขยายหลอดลมสำหรับรายที่หลอดลมตีบจนเกิดเสียงหายใจวี๊ด
  • พิจารณาให้ยาขับเสมหะ หรือยาละลายเสมหะในกรณีที่ให้สารน้ำเต็มที่แล้วแต่เสมหะยังเหนียวอยู่  ไม่ควรให้ยาที่ออกฤทธิ์กดการไอ โดยเฉพาะในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี เพราะยาที่กดการไอจะทำให้มีเสมหะคั่งค้างอยู่ภายในถุงลมปอดมากขึ้น ควรให้ผู้ป่วยไออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เสมหะออกมามากที่สุด

 

การรักษาอาการปอดบวมตามชนิดของเชื้อโรค

  • ถ้าเกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยทั่วไปไม่มียารักษาที่เฉพาะ การรักษาส่วนใหญ่จึงเป็นการรักษาตามอาการ รวมถึงการบำบัดรักษาทางระบบหายใจที่เหมาะสม เช่น การเคาะปอด การดูดเสมหะ ในกรณีที่ตรวจพบว่าเกิดจากเชื้อไวรัสที่มียารักษาเฉพาะ เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ร่วมด้วย
  • ถ้าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ควรรักษาด้วยยาปฏิชีวนะให้เร็วที่สุด และเลือกยาปฏิชีวนะที่เหมาะกับเชื้อแบคทีเรียแต่ละชนิด โดยใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาคลินิกในการตัดสินใจเลือกยาปฏิชีวนะนั้น

 

การป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคปอดบวม

  • หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนมาก เช่น ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรนำเด็กเล็กไปในสถานที่ดังกล่าว
  • หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรืออากาศที่หนาวเย็น
  • ไม่ควรให้เด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี และผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรงไปอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย
  • แนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
  • แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอพีดี (IPD) หรือ Invasive Pneumococcal Disease ซึ่งเป็นโรครุนแรงที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “สเตร็พโตค็อกคัส นิวโมเนียอี” (Streptococcus pneumonia) ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบได้ วัคซีนชนิดนี้จะป้องกันการติดเชื้อและช่วยลดความรุนแรงของโรคได้

นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




บทความแนะนำ

PM 2.5  เชื้อไวรัส สาเหตุสำคัญ...ทำลูกน้อยป่วยช่วงหน้าหนาว

พญาไท 2

ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ เป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเฝ้าระวังสุขภาพของลูกน้อยกันให้ดี เพราะเป็นช่วงสภาพอากาศที่เอื้อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย

การตรวจวิเคราะห์โรคหัวใจทารกขณะตั้งครรภ์...สำคัญแค่ไหนนะ?

พญาไท 2

โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่งและ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กเสียชีวิตได้ตั้งแต่ในขณะตั้งครรภ์และหลังคลอด ผลสำรวจพบว่าอัตราการเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดของเด็กคลอดใหม่มีสูงถึง 8:1,000

กล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ พัฒนาการของลูกน้อยที่ไม่ควรมองข้าม

พญาไท 2

คุณพ่อคุณแม่เคยทราบไหมว่าลูกรักของเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกล้ามเนื้ออยู่เสมอ ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ซึ่งกล้ามเนื้อเหล่านี้นั้นมึความสำคัญต่อพัฒนาการของลูกๆ แต่จะมีความสำคั

ลูกมีไข้ ไอเรื้อรัง พ่อแม่ควรระวัง! วัณโรคในเด็ก

พญาไท 2

ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 14 ประเทศ ที่มีการติดเชื้อวัณโรคสูงสุดในโลก ซึ่งเด็กคือช่วงวัยที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรคสูงและมีความรุนแรงมากกว่าในผู้ใหญ่