โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้  ใครไม่เป็นไม่รู้ !!!

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มีอาการอย่างไรบ้าง
<ul>
<li>คันจมูก </li>
<li>คัดจมูก โดยจะแน่นทั้งสองข้างแต่สลับกันไปมา </li>
<li>จาม จะจามติดๆกันเป็นชุดๆ เช่น 5 &ndash; 10 ครั้ง </li>
<li>มีน้ำมูกใสๆ ไหล มากกว่าหรือเท่ากับ 4 วันต่อสัปดาห์ มักมีอาการช่วงตื่นนอนตอนเช้าหรือเวลาที่เจอสิ่งที่แพ้</li>
</ul>
ยังไม่ชัวร์ ใช่หรือไม่ ไปพบแพทย์ หากมีอาการดังกล่าวแล้วยังไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายโรคภูมิแพ้หรือไม่ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายและตรวจโพรงจมูก โดยแพทย์อาจพิจารณาตรวจการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง หรือการเจาะเลือดตรวจภูมิจำเพาะต่อสารก่อภูมิแพ้ร่วมด้วย ซึ่งสารก่อภูมิแพ้ยอดฮิตที่พบมากที่สุดคือเจ้า &ldquo;ไรฝุ่น&rdquo; นั่นเอง
ไรฝุ่น กับ ฝุ่นในบ้าน ใช่อย่างเดียวกันหรือไม่? ไรฝุ่น เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง เป็นตัวไร มี 8 ขา ขนาดลำตัวเพียง 0.1-1 มิลลิเมตร ดำรงชีวิตอยู่โดยการกินรังแค และเศษผิวหนังเป็นอาหาร เจ้าไรฝุ่นจะเติบโตได้ดีในอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส และชื่นชอบอากาศชื้นเป็นพิเศษ ตัวไรฝุ่นทั้งที่ยังมีชีวิต ซากไรฝุ่น และมูลไรฝุ่น ล้วนแต่สามารถกระตุ้นทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ได้ทั้งสิ้น โดยส่วนมากเจ้าไรฝุ่นจะซ่อนตัวอยู่ตามที่นอน หมอน ผ้าห่ม พรม ม่าน โซฟาที่เป็นผ้า รวมไปถึงตุ๊กตาที่เป็นขน ส่วนฝุ่นบริเวณอื่นๆของบ้าน มักล่องลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อฝุ่นรวมตัวกันจนกระทั่งมีขนาดที่ใหญ่พอ หรือเมื่อฝุ่นตกมาเกาะติดตามข้าวของเครื่องใช้แล้วนั่นเอง
รักษาได้ ด้วยวัคซีนภูมิแพ้ (Allergen Immunotherapy) เมื่อใดก็ตามที่อาการภูมิแพ้กำเริบ ย่อมสร้างความรู้สึกทรมานให้กับผู้ที่เป็น การรักษาควบคุมอาการเหล่านั้นให้ทุเลาลง จึงเป็นสิ่งที่ผู้เป็นภูมิแพ้ทุกคนปรารถนา ซึ่งปัจจุบันการรักษาโรคภูมิแพ้ก็ไม่ได้มีเพียงการทานยาเท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาได้ด้วย &ldquo;วัคซีนภูมิแพ้&rdquo;
วัคซีนภูมิแพ้ คือ การนำสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุของอาการโรคภูมิแพ้ของบุคคลนั้นๆ มาเปลี่ยนแปลงรูปแบบกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานภายในร่างกายทีละน้อย จนร่างกายสามารถปรับตัวทนต่อสิ่งที่แพ้และไม่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ในที่สุด ซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3-5 ปี
<h2 style=" color: #008080;">ใครบ้างนะ&hellip;ที่รักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้ได้</h2>
<ul>
<ul>
<li>ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ อันได้แก่ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้, โรคภูมิแพ้ทางตา, โรคหอบหืด และโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ โดยต้องได้รับการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ทางผิวหนัง (skin prick test) หรือตรวจเลือด specific IgE เพื่อให้ทราบชนิดสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุก่อนการรักษา</li>
</ul>
</ul>
<ul>
<ul>
<li>ผู้ที่ยังคงมีอาการของโรคภูมิแพ้อยู่ในระดับปานกลาง ถึงมีอาการมาก ทั้งที่ได้รับการรักษาด้วยยาอย่างเหมาะสม รวมถึงผู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม หรือมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาเพื่อรักษาอาการภูมิแพ้</li>
</ul>
</ul>
*** เพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ป่วยต้องมีความสม่ำเสมอในการมารับวัคซีน เนื่องจากเป็นการรักษาที่ต่อเนื่องและใช้ระยะเวลานาน
<h2 style=" color: #008080;">ชนิดของวัคซีนและวิธีการรักษา</h2>
<table id="customers">
<tbody>
<tr>
<th>ชนิดการรักษา</th>
<th>ข้อดี</th>
<th>ข้อเสีย</th>
</tr>
<tr>
<td valign="top">การรักษา แบบอมใต้ลิ้น (Sublingual Immunotherapy)</td>
<td valign="top">
<ul>
<li>ไม่ต้องฉีดยา</li>
<li>สามารถรับกลับไปใช้ที่บ้านได้ โดยไม่ต้องมาพบแพทย์บ่อย</li>
<li>พบผลข้างเคียงน้อย</li>
</ul>
</td>
<td valign="top">
<ul>
<li>ใช้ปริมาณวัคซีนเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า ราคาโดยรวมจึงสูงกว่า</li>
<li>สามารถใช้สารก่อภูมิแพ้ได้เพียง 1 ชนิด</li>
<li>ผู้รับการรักษาอาจมี อาการลิ้นบวม หรือคันในช่องปาก แต่จะเป็นอาการชั่วคราวที่สามารถรักษาได้ด้วยยาแก้แพ้</li>
<li>หากรักษา 1 ปีแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจพิจารณาเปลี่ยนเป็นวัคซีนแบบฉีดต่อไป</li>
</ul>
</td>
</tr>
<tr>
<td valign="top">การรักษา แบบฉีดเข้าใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Immunotherapy)</td>
<td valign="top">
<ul>
<li>ใช้ปริมาณวัคซีนเฉลี่ยต่อเดือนน้อยกว่า</li>
<li>สามารถฉีดสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุได้มากกว่า 1 ชนิด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ทดสอบแล้วพบว่าแพ้มากกว่า 1 ชนิด</li>
<li>แบบแผนการฉีดเป็นไปตามมาตรฐาน และมีผลการวิจัยสนับสนุนมายาวนาน</li>
</ul>
</td>
<td valign="top">
<ul>
<li>อาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) ได้ เนื่องจากเป็นการฉีดสารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยแพ้เข้าไปในร่างกาย</li>
<li>ต้องมาพบแพทย์ทุก 1 สัปดาห์ในช่วงประมาณ 3 เดือนแรกที่เริ่มรักษา</li>
</ul>
</td>
</tr>
</tbody>
</table>
&nbsp;
&nbsp;
<div style="" align="right">
<div class="doctor-img-circle">[base64_img]</div>
<a href="../../../doctor_detail/A80BA5D8-0777-4264-8A60-CE3D1E1FCCE9/%E0%B8%9E%E0%B8%8D.%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B5_%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A0">พญ.สุวาณี เจริญลาภ</a> คลินิกเด็กสุขภาพดี โรงพยาบาล พญาไท 3 <a href="../../../doctor_detail/A80BA5D8-0777-4264-8A60-CE3D1E1FCCE9/%E0%B8%9E%E0%B8%8D.%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B5_%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A0">นัดหมายแพทย์</a>
</div>
<div class="clearfix">&nbsp;</div>

ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ อันได้แก่ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้, โรคภูมิแพ้ทางตา, โรคหอบหืด และโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ โดยต้องได้รับการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ทางผิวหนัง (skin prick test) หรือตรวจเลือด specific IgE

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ใครไม่เป็นไม่รู้ !!!

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล