ถ้าคุณอายุ 79 ปี คุณจะมีชีวิตและร่างกายแบบใด? หลายคนอาจคิดว่าถ้าอายุขนาดนั้นคงต้องนอนอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเพราะปวดขา ปวดเข่าและเดินได้ลำบาก กลายเป็นผู้สูงอายุคนหนึ่งที่ต้องคอยให้ลูกหลานดูแล แต่สำหรับ ?คุณเฮียง มุกนนท์? แล้วนั้น..การเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพขาแข็งแรง ทำให้เขากลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข แม้จะอยู่ในวัย 79 ปี แล้วก็ตาม

เพราะยังไม่พร้อม ?ผ่าตัด? จึงต้องทนกับอาการปวด..ที่ไม่หายขาด

คุณเฮียง มุกนนท์ วัย 79 ปี เล่าย้อนไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วว่า.. ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเหมือนผู้สูงอายุคนอื่นๆ คือ ปวดหัวเข่าจากข้อเข่าเสื่อม ซึ่งขณะนั้นไปตรวจกับ ?ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช? พอเห็นผลตรวจต่างๆ คุณหมอก็แนะนำให้ผ่าตัด แต่รู้สึกว่าไม่อยากผ่าตัด

เมื่อไม่ผ่าตัดการรักษาบรรเทาปวดก็ต้องหาตัวช่วยอื่น สิ่งแรกที่ง่ายที่สุดก็คือซื้อยาแก้ปวดรับประทานเมื่อมีอาการ นับว่าบรรเทาได้บ้าง แต่พอปวดมากขึ้น ก็เริ่มหาทางเลือกอื่นๆ เช่น การฝังเข็ม การอัลตราซาวด์ การฉีดยาบรรเทาปวด ซึ่งดิฉันไม่ได้ไปรักษาแค่ที่เดียว เพราะใครว่าที่ไหนดีก็ไปรักษา แต่ผลที่ได้คืออาการดีขึ้นเพียงระยะเวลาหนึ่ง..และอาการปวดก็กลับมาอีก

ตัดสินใจ ?ผ่าตัด? เพราะคือทางเลือกที่ดีกว่า

เมื่อความปวดมากขึ้นจนรู้สึกทนไม่ไหวประกอบกับทราบข้อมูลจากญาติหลายๆ คนที่เคยผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมกับ ?ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช? ซึ่งผลการรักษาออกมาดี สามารถเดินได้เหมือนปกติ..และแผลผ่าตัดสวยงาม ทำให้มั่นใจในการผ่าตัดมากขึ้น จึงนำเรื่องการผ่าตัดปรึกษากับลูกๆ ในตอนแรกลูกบางคนคิดว่าจะผ่าตัดเพียงเพราะเห็นคนอื่นเขาผ่ากัน แต่หลังจากคุยถึงอาการที่เกิดขึ้น ลูกจึงศึกษาข้อมูลและพาไปพบแพทย์

ครั้งหนึ่ง..ไปเข้าคิวเพื่อจะรับคำปรึกษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ระหว่างรอเข้าปรึกษามีโอกาสเห็นแผลผ่าตัดของคนไข้ที่มารอตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด จึงบอกลูกว่าไม่ผ่าตัดที่รพ.แห่งนั้น เพราะแผลผ่าตัดใหญ่เหมือนตะขาบ ดูไม่สวยงาม ลูกจึงพามารับการตรวจและรับคำแนะนำกับ ? ศ.นพ. กีรติ เจริญชลวานิช? ที่สถาบันผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม โรงพยาบาลพญาไท 3 เมื่อตัดสินใจผ่าตัด คุณหมอจึงนัดตรวจอย่างละเอียดและนัดผ่าตัดในอีกไม่กี่วันต่อมา

การผ่าตัดเป็นไปอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ นอนพักฟื้นที่รพ.ประมาณ 5 วัน โดยช่วงพักฟื้นจะมีทีมพยาบาลและนักกายภาพบำบัดมาดูแล ฝึกเดิน ฝึกให้ทำกิจวัตรประจำวัน เรียกได้ว่าเดินได้เองตั้งแต่ที่รพ. พอกลับมาบ้านก็ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยพยุง ทำกิจวัตรต่างๆ ได้ด้วยตนเอง และเดินได้ดีกว่าก่อนผ่าตัด เพราะเดินได้ตรงขึ้น ขาไม่งอเช่นเมื่อก่อน

การดูแลตนเองหลังผ่าตัดมีความสำคัญอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่คุณหมอเก่ง พยาบาลดี นักกายภาพบำบัดเก่งเท่านั้น เนื่องจากทีมที่ดูแลจะบอกดิฉันเสมอให้ขยันฝึกออกกำลังกายตามที่แนะนำ เพื่อให้เข่าและขาแข็งแรง สุขภาพโดยรวมดี และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอด้านต่างๆ อย่างเคร่งครัด ทุกวันนี้ผ่านมา 1 ปี กว่าแล้ว ดิฉันก็ยังออกกำลังกาย โดยสามารถออกกำลังกายท่าย่อขานั่งยองๆ ได้สบายๆ เลย

เมื่อพบทางออกที่ใช่..ชีวิตก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง

การผ่าตัดทำให้ทุกๆ อย่างดีขึ้นจริงๆ ต้องขอบคุณการรักษาผ่าตัดของ ?ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช? ที่ทำได้ดีมากๆ คุณหมอน่ารัก พูดจาดี เป็นกันเองกับคนไข้ ขอบคุณคุณหมอจริงๆ ค่ะ และไม่ใช่เฉพาะคุณหมอ เพราะพยาบาล นักกายภาพบำบัด..ทุกคนดูแลดีมาก สิ่งอำนายความสะดวกต่างๆ ภายในโรงพยาบาลก็ครบครัน อาหารอร่อย เรียกได้ว่าดีทุกอย่างเลยทีเดียว

เมื่อผ่าตัดแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามที่ต้องการ อยากไปเที่ยวไหนก็ไปได้ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความปวดอีกแล้ว ทำให้คิดว่า ณ วันนี้ถ้าเข่าขวาปวดเพราะข้อเข่าเสื่อม คงตัดสินใจผ่าได้ทันทีไม่เหมือนกับข้างซ้ายที่กว่าจะตัดสินใจผ่าตัดใช้เวลาเป็นปีทีเดียว

ดังนั้นถ้าใครที่กำลังปวดเข่า แต่ไม่กล้าผ่าตัด ลองเข้ามาปรึกษากับ ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช ที่สถาบันผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม โรงพยาบาลพญาไท 3 ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะถ้าเราไม่ปวด..ก็ไม่ทรมาน อยากทำอะไร จะไปไหนก็ทำได้ตามที่ใจต้องการ ชีวิตก็ย่อมมีความสุข

ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช
ศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อ
โรงพยาบาลพญาไท 3

ผ่าตัดข้อเข่า หมดปัญหาความปวด...ความสุขของการใช้ชีวิต