ช่วงกักตัวหลายเดือนที่ผ่านมาเนี่ย เราเห็นนะ สกิลการทำอาหารในโซเชียลของทุกคน ตื่นเช้าก็มาละเซ็ทเบรคฟาสท์ สลัดผัก ไส้กรอก เบคอนทอด ไข่ดาว ครบเซ็ทอย่างกับนั่งกินที่ร้าน มื้อเที่ยงนี่สารพัดผัด ผัดผัก ผัดกระเพรา ผัดขี้เมามาเต็ม พอตกเย็นมาอีกที มีทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ครบทุกประเภท
ว่าแต่ ทำอาหารกันเก่งขนาดนี้ คำถามคือ…รู้หรือไม่ ว่าน้ำมันพืชแต่ละชนิดเหมาะกับการปรุงอาหารแบบไหนที่ปลอดภัยและได้ประโยชน์?
นั่นเพราะหลาย ๆ คนไม่รู้ว่าการทำอาหารแต่ละประเภทที่ใช้ความร้อนต่างกัน ต้องเลือกใช้น้ำมันต่างชนิดกัน เพราะกรดไขมันในน้ำมันพืชต่างชนิดสามารถทนความร้อนได้ต่างกัน โดยเรามาลองแบ่งน้ำมันพืชที่นิยมใช้ปรุงอาหารกันเป็น 5 ประเภทดังนี้
- น้ำมันปาล์ม : น้ำมันพืชที่นิยมใช้กันมากอันดับต้น ๆ เลย น้ำมันปาล์มมีกรดไขมันอิ่มตัวมากกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ จึงเหมาะกับการใช้ทอดความร้อนสูง หรือทอดอาหารแบบน้ำมันท่วม ๆ เพราะกรดไขมันอิ่มตัวนี้สามารถทนความร้อนได้สูง
- น้ำมันถั่วเหลือง : เป็นน้ำมันพืชที่ใช้กันมากที่สุดในครัวเรือนของเราเลยก็ว่าได้ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในระดับปานกลาง ซึ่งถือเป็นไขมันดีมีประโยชน์ต่อร่างกายไม่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ แต่ก็เพราะกรดไขมันไม่อิ่มตัวนี้ ไม่สามารถทนต่อความร้อนสูง จึงเหมาะกับการผัดหรือปรุงด้วยความร้อนปานกลางเท่านั้น
- น้ำมันรำข้าว : เหมาะสำหรับอาหารผัดและทอด มีสารโอรีซานอล ถือเป็นน้ำมันพืชที่มีสมดุลกรดไขมันที่สมดุลที่สุดคือ มีกรดไขมันอิ่มตัว มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน และเชิงเดี่ยวเทียบได้เป็น 1 ต่อ 1 ต่อ 1 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ร่างกายต้องการ แต่มีราคาค่อนข้างสูงมาก
- น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน : เป็นน้ำมันที่มีประโยชน์มาก เพราะอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว หรือไขมันดีช่วยลดคอเรสเตอรอลในเลือด เป็นน้ำมันที่บางเบาและไร้กลิ่น เหมาะกับอาหารที่ใช้ความร้อนน้อย เหมาะสำหรับการผัด หรือทำน้ำสลัด
- น้ำมันคาโนล่า : เป็นน้ำมันที่สกัดจากต้นคาโนล่าซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศจึงมีราคาค่อนข้างสูง น้ำมันคาโนล่ามีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวอยู่มาก ช่วยลดคอเรสเตอรอล ลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ ลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือด จึงลดโอกาสที่จะทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตัน เหมาะสำหรับอาหารที่ใช้ความร้อนปานกลาง การผัด หรือทำน้ำสลัด
- น้ำมันมะกอก : ใครชอบทำอาหารฝรั่งมักจะใช้น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูงเช่นกัน เหมาะกับการทำเป็นน้ำสลัด หรือปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนต่ำ
จะเห็นได้ว่า น้ำมันพืชแต่ละชนิดนั้นมีจุดเด่น และข้อจำกัดแตกต่างกัน และเพื่อให้เรา ๆ ได้บริโภคน้ำมันพืชโดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย และได้ประโยชน์จากกรดไขมันที่ดีกับหลอดเลือดหัวใจมากที่สุด จึงเกิดเป็นน้ำมันสูตรผสม ที่ผสมน้ำมันพืชในสัดส่วนที่จะเกิดสมดุลกรดไขมันที่ดีที่สุด ลองดูน้ำมันทางเลือก 4 สูตรนี้ น้ำมันผสมสูตรต่าง ๆ ที่คิดค้นมาเพื่อให้ปรุงอาหารแต่ละชนิดได้ปลอดภัยกับสุขภาพที่สุด
- น้ำมันผสม น้ำมันปาล์ม 60 : น้ำมันคาโนล่า 40 สูตร Nutri Blend เหมาะสำหรับการปรุงอาหารทุกประเภท ทั้งผัดและทอด มีสัดส่วนของกรดไขมันที่เหมาะสม การันตีด้วยตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ”
- น้ำมันผสม น้ำมันปาล์ม 35 : น้ำมันถั่วเหลือง 65 สูตร Deep Frying Blend ลดไขมันอิ่มตัวลง 40% เหมาะสำหรับอาหารประเภททอด ที่ใช้ความร้อนสูง และทอดเป็นระยะเวลานาน
- น้ำมันผสม น้ำมันคาโนล่า 70 : น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน 30 สูตร Stir Frying Blend มี Omega 3 บำรุงสมอง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เหมาะสำหรับอาหารประเภทผัด
- น้ำมันผสม น้ำมันคาโนล่า 80 : น้ำมันถั่วเหลือง 20 สูตร Salad Oil Blend มี Omega 9 เพิ่มคอเรสเตอรอลดี เหมาะสำหรับทำน้ำสลัด และอาหารประเภทผัด
ในการปรุงอาหารทานเองนอกจากเราจะเลือกวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพได้แล้ว สิ่งที่เราต้องใส่ใจไม่แพ้กันก็คือการเลือกใช้น้ำมันพืชที่มีสมดุลกรดไขมันที่จะดีกับร่างกายเราที่สุด เลือกใช้กับการปรุงด้วยความร้อนที่เหมาะสมที่สุด เพียงเท่านี้เราก็ลดโอกาสที่ร่างกายจะเกิดโรคต่างๆ เพราะพฤติกรรมการบริโภค คือสาเหตุหลักที่ส่งผลกับสุขภาพของเราโดยตรง