การตรวจมะเร็งในปัจจุบัน ที่เรียกว่าการตรวจแบบ Precision Cancer Medicine นั้น เป็นการตรวจที่ทำให้ได้ข้อมูลมากกว่าเรื่องของชนิด ระยะการเติบโต หรือหน้าตาของมะเร็ง แต่สามารถบอกได้ถึงนิสัยลึกๆ ที่ทำให้เกิดโรค เพราะเป็นการตรวจมะเร็งแบบเจาะจงลงไปในระดับพันธุกรรม (Gene) โดยแพทย์จะทำการเจาะเลือด หรือชื้นเนื้อของผู้ป่วย เพื่อนำไปเพาะในห้องปฏิบัติการ และเปรียบเทียบผลร่วมกับฐานข้อมูลกลางที่สามารถบ่งชี้ถึงกลไกการเกิดโรค ซึ่งมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทำให้แพทย์สามารถเจาะจงใช้ยารักษามะเร็งที่เหมาะสม พร้อมวางแผนหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง (Side Effect) ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรก
ตรวจมะเร็งแบบ Precision Cancer Medicine |
ตรวจมะเร็งแบบทั่วไป | |
---|---|---|
การตรวจ | ตรวจชิ้นเนื้อ หรือ ตรวจผลเลือด | ตรวจชิ้นเนื้อ |
การให้ยารักษา | เจาะจงให้ยารักษาตามเหมาะสม แบบเฉพาะบุคคลอย่างแม่นยำ | ให้ยารักษาตามเหมาะสม ความแม่นยำน้อย |
ประสิทธิภาพ จากการให้ยารักษา | ควบคุมการตอบสนองต่อยารักษาได้ดี (หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น) | ไม่สามารถควบคุมการตอบสนอง ต่อยารักษาได้ดี |
ผลข้างเคียง | หลีกเลี่ยงผลข้างเคียง จากการใช้ยารักษาได้แต่แรก | ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงได้ |
Precision Cancer Medicine จัดยารักษามะเร็งแบบเจาะจง ตรงเป้า!
เพราะภายในเซลล์มะเร็งยังมีอีกประมาณ 10% ที่มีหน้าตาไม่เหมือนกัน ซึ่งหมายความว่าการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพอาจไม่ใช่แค่การตัดก้อนเนื้อทิ้ง แล้วตามด้วยยาเคมีบำบัดอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เมื่อแพทย์ทราบถึงต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งจากการตรวจ Precision Cancer Medicine แล้ว แพทย์จะวางแผนให้ยารักษาแบบเจาะจง (Targeted Therapy) เพื่อให้ตรงกับสาเหตุการเกิดมะเร็งมากที่สุด ทำให้สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งได้โดยตรงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแบ่งวิธีรักษาได้ ดังนี้
- การให้ยาฮอร์โมน (Hormonal Therapy) เป็นการใช้ยาที่มีผลต่อการยับยั้งการเจริญของมะเร็งที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงมะเร็งที่เกิดจากฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen) เช่น มะเร็งเต้านม เป็นต้น
- การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) เป็นการกระตุ้นความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรืออ่อนแอ ให้สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นได้
- การรักษาโดยเซลล์บำบัด (Cell Therapy) โดยการปลูกถ่ายเซลล์เม็ดเลือดขาวให้มีความสามารถในการกำจัดเซลล์เชื้อไวรัส รวมถึงมะเร็งร่วมด้วย
ซึ่งนอกจากการให้ยารักษาแล้ว สำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม แพทย์อาจมีการพิจารณาใช้วิธีรักษาอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การฉายแสง หรือการผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยมีการตอบสนองต่อการรักษาได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์จากรักษามากที่สุด
Precision Cancer Medicine รู้ทันมะเร็ง ยับยั้งการกำเริบซ้ำสอง
ศูนย์ชีวีสุข (Great Life Center) โรงพยาบาลพญาไท 1 มีความตั้งใจในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งทุกระยะ โดยนอกจากการรักษาที่มุ่งเน้นให้ผู้ป่วยเข้าใกล้โอกาสหายมากที่สุดแล้ว การป้องกันการกลับมาของมะเร็ง หรือที่เรียกว่ามะเร็งกำเริบ (Recurrent cancer) นั้น ยังเป็นสิ่งที่แพทย์ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จากการเฝ้าติดตามผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ดังนี้
- ประเมินการรักษาต่อเนื่อง โดยทีมแพทย์เฉพาะทางและสหวิชาชีพด้านมะเร็งกว่า 13 สาขา หรือ MDT Team ร่วมวิเคราะห์ผลการรักษาร่วมกัน ทุกสัปดาห์
- ตรวจทันทีเมื่อมีอาการบ่งชี้การกำเริบของโรค โดยแพทย์จะมีแนวทางการติดตามโรคร่วมกับฐานข้อมูลกลาง เพื่อประเมินความเป็นไปของโรคในช่วงเวลานั้น และปิดโอกาสการกำเริบของโรคให้มากที่สุด
- ติดตามผลต่อเนื่อง (Follow up) โดยผู้ป่วยสามารถติดต่อ หรือปรึกษาเกี่ยวกับวิธีดูแลต่างๆ ผ่านช่องทาง Line Official ศูนย์ชีวีสุข จากแพทย์เจ้าของไข้ได้โดยตรง ตลอดจนบริการให้คำแนะนำจากพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ (Family Nurse)
การตรวจวิเคราะห์มะเร็งแบบ Precision Cancer Medicine อาจเปรียบได้เหมือนการติดกระดุมเม็ดแรก ที่หากเราเริ่มต้นถูกต้องตั้งแต่แรก เสื้อผ้าที่เราใส่ก็จะออกมาดูดีตามที่ควรจะเป็น เช่นเดียวกันกับการตรวจมะเร็งที่ยิ่งมีข้อมูลเชิงลึกและแม่นยำมากเท่าไร ยิ่งทำให้การวินิจฉัย ตลอดจนการออกแบบวิธีรักษามีความปลอดภัยและเข้าใกล้โอกาสหายได้ดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องราวดีๆ ของคนยุคนี้ที่ความก้าวหน้าในการตรวจมะเร็ง ช่วยให้แพทย์และผู้ป่วยได้รู้จักทั้งหน้าตา และนิสัยของมะเร็งมากขึ้น ส่งผลให้ผลการรักษามีแนวโนมดีขึ้นอย่างชัดเจนนั่นเอง