อาการ “ปวดหัว” หรือ “ปวดศีรษะ” ที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากความเครียด ไมเกรน สมองเสื่อม เนื้องอกในสมอง หรือโรคหลอดเลือดสมองก็เป็นได้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า อาการปวดหัวที่เป็น…มีสาเหตุมาจากอะไร “ลักษณะของอาการปวด” นี่แหละที่จะช่วยให้เราประเมินเบื้องต้น เพื่อจะได้บรรเทาอาการปวดด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี
- ปวดหัวรอบศีรษะ…ร่างกายอาจกำลังส่งสัญญาณ “โรคเครียด”
อาการปวดหัวรอบศีรษะพบได้บ่อยที่สุด และมักมีสาเหตุมาจาก “ความเครียด” พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือใช้สายตามากเกินไป จนกระตุ้นให้เกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อรอบศีรษะ ตำแหน่งที่ปวดบริเวณหน้าผากไปจนถึงขมับทั้งสองข้าง และร้าวลามไปจนถึงด้านหลังศีรษะ ต้นคอ บ่าและไหล่ด้วย โดยมักปวดต่อเนื่องตลอดทั้งวันหรือตลอดสัปดาห์
อาการปวดศีรษะจากความเครียด บรรเทาลงได้ด้วยวิธีนี้!!
ควรหยุดพักคิดเรื่องงาน หรือเรื่องที่ทำให้เกิดความเครียด เพื่อให้สมองได้พักผ่อน และลดอาการตึงเกร็งของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้การรับประทานยาแก้ปวดก็จะช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้
- ปวดหัวที่ขมับ ปวดหัวข้างเดียว…ร่างกายอาจกำลังส่งสัญญาณ “ไมเกรน”
ใครๆ ก็อยากลาขาดจาก “ไมเกรน” เพราะเป็นอาการปวดหัวที่ขึ้นชื่อว่าทรมาน เมื่อเป็นแล้วก็ยากที่จะควบคุมได้ ซึ่งลักษณะอาการปวดไมเกรน มักปวดหัวข้างเดียวแบบตุ๊บๆ บริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง อาจปวดสลับข้างซ้ายหรือขวา ปวดร้าวลงมาถึงกระบอกตา คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ และหากได้รับสิ่งกระตุ้น เช่น แสงสว่างจ้า เสียงดัง หรือกลิ่นฉุน ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ปวดหัวรุนแรงมากขึ้นด้วย
อาการปวดศีรษะจากไมเกรน บรรเทาลงได้ด้วยวิธีนี้!!
บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ด้วยการรับประทานยาบรรเทาปวด เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน หรือพาราเซตามอล อย่างไรก็ตาม ไมเกรนเกิดจากความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าสมอง หากมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรังก็ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางด้านสมองและระบบประสาท
- ปวดหัวตรงโหนกแก้ม กลางใบหน้า…ร่างกายอาจกำลังส่งสัญญาณ “ไซนัสอักเสบ”
เพราะเป็นอาการปวดตรง “จุดไซนัส” ซึ่งเกิดจาก “ไซนัสอักเสบ” บริเวณจุดกึ่งกลางของใบหน้า รู้สึกปวดรุนแรงตั้งแต่โหนกแก้ม หน้าผาก รวมถึงปวดบริเวณดั้งจมูก หว่างคิ้ว และหัวตา อาการปวดจากไซนัสอักเสบมักมาพร้อมกับอาการคล้ายหวัดเรื้อรัง หายใจติดขัด ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกสีเขียว เป็นไข้ และอ่อนเพลีย
อาการปวดศีรษะจากไซนัสอักเสบ บรรเทาลงได้ด้วยวิธีนี้!!
ต้นเหตุของอาการปวด มาจากไวรัสหรือแบคทีเรียในโพรงไซนัส ควรหมั่นใช้น้ำเกลือล้างจมูกบ่อยๆ เพื่อทำความสะอาดบริเวณโพรงไซนัส แต่หากพบว่าติดเชื้อจากแบคทีเรีย ก็จำเป็นต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย ซึ่งหากมีอาการเรื้อรังหรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์
- ปวดหัว ปวดใบหู ปวดกราม…ร่างกายอาจกำลังส่งสัญญาณ “โรคข้อต่อขากรรไกรและกล้ามเนื้อบดเคี้ยว”
อาการปวดบริเวณหน้าใบหู ช่วงกราม ขากรรไกร โดยเฉพาะตอนเช้าหลังตื่นนอน อ้าปากไม่ขึ้นหรือเคี้ยวอาหารไม่สะดวก เป็นไปได้ว่าอาจมีการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อบดเคี้ยว ข้อต่อขากรรไกร หรือนอนกัดฟันได้
อาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อบดเคี้ยว บรรเทาลงได้ด้วยวิธีนี้!!
การรักษาเบื้องต้นให้ใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่ปวดนานประมาณ 20 นาที ประคบให้ได้ 3-5 ครั้งต่อวัน รับประทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด ควรรับประทานอาหารอ่อนนิ่ม และหลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือกัดของแข็ง
- ปวดหัวรุนแรง ฉับพลัน…ร่างกายอาจกำลังส่งสัญญาณ “โรคอันตรายทางสมอง”
โปรดระวังอาการปวดหัวข้างเดียวอย่างรุนแรง ปวดรุนแรงบริเวณรอบดวงตา มักเกิดขึ้นฉับพลัน และไม่เคยเป็นมาก่อน การปวดหัวกินเวลานาน หรืออาจเป็นๆ หายๆ มองเห็นไม่ชัดเจน เห็นภาพซ้อน มีอาการชาหรืออ่อนแรง มีไข้ คอแข็ง ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของเยื่อหุ้มสมอง หรือสมองส่วนไฮโบทาลามัส จึงมีความเสี่ยงโรครุนแรงทางสมอง เช่น “เนื้องอกในสมอง” หรือ “โรคหลอดเลือดสมอง” ได้
เมื่อไหร่ที่มีอาการปวดหัวรุนแรงฉับพลัน ไม่ควรชะล่าใจหรือปล่อยไว้ เพราะคิดว่าไม่อันตราย แนะนำว่า ควรรีบพบแพทย์ทันที แม้ว่าอาการปวดศีรษะนั้นจะแสดงอาการปวดเพียงครั้งเดียว เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของระบบประสาทที่กำลังถูกทำลายลง การรีบไปพบแพทย์จะช่วยให้เกิดการวินิจฉัยอาการได้อย่างตรงจุด และเริ่มรักษาได้อย่างทันท่วงที