เมื่อเพศทางร่างกาย และเพศทางจิตใจ ไม่ตรงกัน เราจึงต้องพยายามที่จะให้จิตใจของเราได้รับการตอบสนอง การเทคฮอร์โมน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก และตัวสำคัญที่จะทำให้เราข้ามเพศไปยังเพศที่ต้องการได้
ลักษณะที่เปลี่ยนแปลงหลังเทคฮอร์โมนจากชายไปหญิง
- เสียงเล็ก แหลม
- มีหน้าอก สะโพกผ่าย
- ผิวเนียน
- ขนบริเวณต่างๆ ลดลง
- น้องชาย มีขนาดเล็กลง และแข็งยากขึ้น (สำหรับผู้ที่ยังไม่ผ่าตัด)
ลักษณะที่เปลี่ยนแปลงหลังเทคฮอร์โมนจากหญิงไปชาย
- เสียงใหญ่ ทุ้ม
- โครงหน้าเปลี่ยน
- มีสิว
- กลิ่นตัวแรง
- ผิวมัน และหยาบขึ้น
- มีนวด เครา ขนขึ้นตามที่ต่างๆ
- เริ่มเห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจน (ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ)
ระยะเวลาการเทคฮอร์โมนที่เหมาะสม คือ ต้องเทคฮอร์โมนเป็นประจำไปจนถึงอายุ 60 ปี หรือจนกว่าคุณหมอจะพิจารณาให้หยุด ซึ่งเป็นประจำในที่นี้ เกี่ยวกับลักษณะการเทคฮอร์โมนแต่ละแบบ ดังนี้
- แบบฉีด (นิยมมากสุด)
- แบบระยะสั้น ทรานสแมน แนะนำให้ฉีดทุก 2-4 สัปดาห์ ส่วนทรานสวูแมน แนะนำฉีดทุก 1 สัปดาห์
- แบบระยะยาว ทรานสแมน แนะนำให้ฉีดทุก 3 เดือน ส่วนทรานสวูแมน ยังไม่มีฮอร์โมนแบบฉีดที่ออกฤทธิ์ระยะยาว
- แบบทา ออกฤทธิ์ระยะสั้นเพียง 24 ชั่วโมง จึงต้องทาทุกวัน
- แบบรับประทาน ต้องรับประทานยาต่อเนื่องทุกวัน
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยในการเทคฮอร์โมน ทั้งทรานสแมน และทรานสวูแมน
- เลือดข้น หรือหนืด
- ลิ่มเลือด
- ไขมันในเลือดสูง
- กระดูกบาง หรือพรุน
- มีผลกับหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไต ตับ หลอดเลือดในสมอง เป็นต้น
รู้หรือไม่? ซื้อฮอร์โมนรับประทานเอง อันตราย!
การซื้อฮอร์โมนรับประทานเองเองตามโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต หรือบอกต่อๆ กันในโซเชียลมีเดีย อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ ถ้าไม่ได้ตรวจร่างกายก่อน หรือใช้ปริมาณสูงเกินกว่าที่จำเป็น หรือบางคนอาจมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ เมื่อพอเทคฮอร์โมน ยิ่งไปทำให้ปัญหารุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นการมาพบแพทย์เพื่อได้รับฮอร์โมนที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย และลดผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมนให้น้อยที่สุด
นพ. อติวุทธ กมุทมาศ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศ
ศูนย์สุขภาพเพศ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์