มาทำความรู้จัก “MRI” กันดีกว่า

พญาไท 2

1 นาที

พฤ. 24/11/2022

แชร์


Loading...
มาทำความรู้จัก “MRI” กันดีกว่า

เมื่อคนไข้มีอาการเจ็บป่วยใดๆ มาก็ตาม สิ่งสำคัญคือแพทย์จะต้องทำการวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ซึ่งการวินิจฉัยหรือการตรวจโรคนั้นก็อาจต้องอาศัยหลายๆ วิธีรวมกัน เช่น การซักประวัติ การตรวจเลือด การเอกซเรย์ และหนึ่งในวิธีตรวจที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ ก็คือ การทำ MRI หรือ การตรวจร่างกายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า นั่นเอง

การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า Magnetic Resonance Imaging (MRI) คืออะไร

การทำ MRI หรือการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ก็คือ การตรวจร่างกายโดยเครื่องตรวจที่ใช้คลื่นสนามแม่เหล็กความเข้มข้นสูง และคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุ ในการสร้างภาพเหมือนจริงของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย เพื่อใช้ในการตรวจวินิจฉัยรอยโรคของผู้ป่วย โดยเฉพาะ สมอง หัวใจ กระดูก กล้ามเนื้อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ที่เป็นมะเร็งด้วย

การตรวจแบบ MRI นี้ จะแสดงผลเป็นภาพ ตามระนาบทั้งแนวขวาง แนวยาว และแนวเฉียง เป็นภาพ 3 มิติ ทำให้แพทย์เห็นจุดที่ผิดปกติในร่างกายได้ชัดเจน ที่สำคัญ… ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อผู้เข้ารับการตรวจ

เตรียมตัวอย่างไร…ก่อน MRI

  1. ทำใจให้สงบ นอนให้สบาย ไม่ต้องกังวล เนื่องจากเป็นการตรวจที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด
  2. ผู้เข้ารับการตรวจจะได้รับอุปกรณ์อุดหู เนื่องจากในระหว่างการตรวจ เครื่อง MRI จะส่งเสียงดังเป็นระยะๆ
  3. ขณะที่ตรวจจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลา หากมีปัญหาสามารถแจ้งผ่านไมโครโฟนที่อยู่ภายในเครื่องได้
  4. เนื่องจากเป็นการตรวจที่ละเอียดจึงใช้เวลาค่อนข้างนาน ผู้เข้ารับการตรวจต้องอยู่นิ่งๆ จึงจะได้ภาพที่ชัดเจน เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
  5. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า เนื่องจากเครื่องสำอางบางชนิดอาจมีส่วนผสมของโลหะ ทำให้เกิดภาพบิดเบี้ยวหรือเกิดสิ่งแปลกปลอมในภาพได้
  6. หากผู้เข้ารับการตรวจต้องการให้ญาติเข้าไปด้วยเพื่อคลายความกังวล สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าตรวจได้
  7. เจ้าหน้าที่จะอธิบายอีกครั้งก่อนเข้ารับการตรวจ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ทันที

สิ่งต้องห้าม !!! …ก่อน MRI

ข้อควรระมัดระวังและสิ่งพึงปฏิบัติก่อนเข้ารับการตรวจ MRI

  1. สิ่งที่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่
    • ผู้ที่ใส่เครื่องช่วยกระตุ้นหัวใจ (pacemaker)
    • ผู้ป่วยที่เคยได้รับการผ่าตัด Clips หรือโลหะต่างๆ
    • ผู้ป่วยที่มีสิ่งแปลกปลอมหรือโลหะอยู่ในร่างกาย เช่น มีกระสุนปืนค้างอยู่ในร่างกาย
  2. สิ่งที่ห้ามนำเข้าตรวจหรือให้ฝากญาติ
    • เครื่องประดับต่างๆ เช่น นาฬิกา สร้อย ต่างหู เป็นต้น
    • ฟันปลอม เครื่องช่วยฟังบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม
    • สิ่งของที่เป็นโลหะ เช่น กุญแจ คลิป ปากกา เป็นต้น

บุคคลต้องห้าม !!! …สำหรับ MRI

  • ผู้ที่ผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้เป็นจังหวะ
  • ผู้ที่ผ่าตัดคลิปอุดหลอดโลหิต (aneurysm clips)
  • ผู้ที่ผ่าตัดฝังอวัยวะเทียมภายในหู (ear implants)
  • ผู้ที่มีโลหะต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น ข้อเทียมต่างๆ โลหะดามกระดูก กระสุนปืน เป็นต้น
  • สตรีมีครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์

ฉีด “สาร” ก่อน MRI

สารที่ช่วยในการตรวจ MRI มีชื่อว่า แกโดลิเนียม (Gadolinium) เป็นสารที่เพิ่มความแตกต่างของเนื้อเยื่อ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรายละเอียดของภาพให้ดียิ่งขึ้น ช่วยในการวินิจฉัยโรคได้อย่างชัดเจนมากขึ้น โดยจะทำการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ จากนั้นร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะเกือบหมดภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งการฉีดทุกครั้งต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของรังสีแพทย์เท่านั้น

อาการข้างเคียง…หลังฉีดสาร

สารที่ฉีดนี้จะใช้ในปริมาณที่น้อย ฉะนั้นจะเกิดผลข้างเคียงได้น้อยมาก แต่อาการข้างเคียงขั้นต้นที่อาจพบได้หลังการฉีดสาร ก็คือ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง และอาการคันตามร่างกาย ซึ่งผู้เข้ารับการตรวจไม่ต้องกังวล เพราะรังสีแพทย์และบุคลากรทางรังสีจะคอยดูแลและคอยช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด

บุคคลที่ควรพึงระวัง…ในการตรวจ MRI

  • ผู้ป่วยที่กลัวอยู่ในที่แคบ ไม่สามารถนอนในอุโมงค์ตรวจได้ (claustrophobic)
  • ผู้ที่ใส่ Stent ที่หลอดเลือดหัวใจ
  • ผู้ที่เตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดสมอง ตา หรือหู ซึ่งจะต้องฝังเครื่องมือทางการแพทย์ไว้
  • ผู้ที่ใส่เหล็กดัดฟันต้องถอดเหล็กดัดฟันออกก่อน รวมทั้งผู้ที่สงสัยหรือประกอบอาชีพเกี่ยวข้องกับโลหะ ว่าอาจมีโลหะชิ้นเล็กๆ กระเด็นเข้าลูกตา นอกจากโลหะจะมีผลต่อความชัดของภาพแล้ว เมื่อเหล็กเข้าไปอยู่ในสนามแม่เหล็กอาจมีการเคลื่อนที่ของโลหะชิ้นนั้นซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายได้

การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI เป็นเทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่มีความทันสมัยก็จริง แต่ผู้เข้ารับการตรวจต้องปฏิบัติตามกฎ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลตรวจที่ถูกต้องและแม่นยำที่สุด


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...