เมื่อมีอาการ เวียนหัวบ้านหมุน หูอื้อ มีเสียงรบกวนในหู ปวดหู หรือแม้แต่ ปวดหัว ควรหาสาเหตุให้พบ เพราะอาการต่างๆ เหล่านี้อาจเกิดจากความผิดปกติของหูชั้นกลางกับโพรงหลังจมูกซึ่งเป็นที่อยู่ของท่อปรับแรงดันหู หรือ “ท่อยูสเตรเชียน” ก็เป็นได้ การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้โรคลุกลามและรักษายากขึ้น ดังนั้น เมื่อมีอาการดังกล่าว จึงควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาต่อไป
การรักษาท่อปรับแรงดันหู “ยูสเตเชียน” ทำงานบกพร่อง โดยใช้ Balloon ถ่างขยายท่อปรับแรงดันหู Eustachian tube dysfunction
ท่อยูสเตเชียน คืออะไร ?
ท่อยูสเตเชียน (eustachian tube) คือท่อปรับแรงดันหู ซึ่งเป็นท่อที่เชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางกับโพรงหลังจมูก โดยท่อยูสเตเชียนจะมีหน้าที่หลักๆ ดังนี้
- ปรับความดันของหูชั้นกลาง
- ระบายและหมุนเวียนอากาศในหูชั้นกลาง
- ระบายน้ำจากหูชั้นกลางลงด้านหลังโพรงจมูก
หากเมื่อใดที่ท่อนี้ทำงานผิดปกติไป จะทำให้เกิดอาการหูอื้อ, ปวดหู, ปวดหัว มีเสียงดังในหู หรือถ้าเป็นมากๆ อาจมีอาการเวียนหัวบ้านหมุนได้
สาเหตุที่ทำให้ท่อยูสเตเชียนทำงานผิดปกติ
การที่ท่อยูสเตเชียนเกิดความผิดปกตินั้น อาจเกิดได้ทั้งจากโรคที่เป็น จากสิ่งแวดล้อม และจากการใช้ชีวิตตามปกติ เช่น
- เกิดจากการอักเสบและบวมของจมูก, ไซนัส หรือโพรงหลังจมูก, การอักเสบของต่อมอดีนอยด์, การฉายแสงบริเวณโพรงจมูก ซึ่งจะทำให้เยื่อบุรอบท่อยูสเตเชียนบวมหรือตีบแคบลง ทำให้มีการทำงานผิดปกติได้
- เกิดการเปลี่ยนแปลงความกดดันบรรยากาศอย่างรวดเร็ว หรือในระยะเวลาอันสั้น เช่น ขึ้นหรือลงลิฟต์เร็วๆ, เครื่องบินขึ้นหรือลงเร็ว, ดำน้ำโดยลดระดับเร็วเกินไป
- มีก้อนไปอุดรูเปิดของท่อยูสเตเชียน ทำให้ท่อทำงานผิดปกติ เกิดความดันเป็นลบในหูชั้นกลาง เช่น ต่อมอดีนอยด์ที่มีขนาดโตจนไปอุดรูเปิดของท่อยูสเตเชียน, มะเร็งของโพรงหลังจมูกที่ลามไปที่ท่อยูสเตเชียน ทำให้ท่อนี้ทำงานผิดปกติไป
หากท่อยูสเตเชียนทำงานผิดปกติ อาจทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้
เมื่อคนไข้เข้ามาพบแพทย์ ด้วยอาการที่แพทย์สงสัยว่าอาจเกิดความผิดปกติกับท่อยูสเตเชียน แพทย์จะทำการตรวจเพื่อหาความผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจพบสิ่งเหล่านี้ ได้แก่
- เยื่อบุแก้วหูทึบ ซึ่งอาจมีของเหลวอยู่ภายในหูชั้นกลาง
- เยื่อบุแก้วหูบุ๋มลงไป เนื่องจากมีความดันในหูชั้นกลางที่เป็นลบ บางรายถ้าเป็นมากๆ แก้วหูอาจบุ๋มลงไปจนทะลุได้
- บางรายอาจพบเลือดออกบนเยื่อบุแก้วหู เยื่อบุแก้วหูบางส่วนอาจบวม แดง เนื่องจากมีเลือดคั่งมากกว่าปกติได้
- การได้ยินลดลงมากน้อยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค บางรายอาจได้ยินเสียงดังกึ๊กในหูได้ โดยเฉพาะเวลากลืนน้ำลาย
การรักษาและปฏิบัติตัวเมื่อท่อยูสเตเชียนทำงานบกพร่อง
- การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการอักเสบทางจมูก เช่น รับประทานยาแก้แพ้ (ยาต้านฮิสตะมีน), ยาหดหลอดเลือด (oral decongestant เช่น pseudoephedrine) หรือ พ่นจมูกด้วยยาหดหลอดเลือด (topical decongestant เช่น ephedrine, oxymetazoline) อาจทำร่วมกับการล้างจมูก, การพ่นยาสเตียรอยด์ในจมูก เพื่อทำให้การอักเสบภายในจมูกลดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงท่อยูสเตเชียนลดน้อยลง เยื่อบุรอบรูเปิดท่อยูสเตเชียนยุบบวมลง ทำให้ของเหลวที่คั่งอยู่ในหูชั้นกลางสามารถระบายไหลผ่านท่อยูสเตเชียนได้ดีขึ้น
- การเคี้ยวหมากฝรั่ง จะทำให้มีการเปิดของท่อยูสเตเชียน
- การทำ Valsalva maneuver โดยให้ผู้ป่วยสูดหายใจเข้าเต็มที่ และปิดจมูก ปิดปาก หลังจากนั้นเบ่งลมให้อากาศผ่านทางจมูกที่ปิด อากาศจะผ่านไปที่ท่อยูสเตเชียนเข้าสู่หูชั้นกลาง วิธีนี้ห้ามทำในขณะที่เป็นหวัดหรือไซนัสอักเสบ เพราะจะทำให้เชื้อโรคในจมูกหรือไซนัสเข้าไปสู่หูชั้นกลางได้
- การผ่าตัด จะทำต่อเมื่อรักษาด้วยยาแล้วไม่ดีขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
-
- การเจาะเยื่อบุแก้วหู (myringotomy) เพื่อปรับความดันของหูชั้นกลางให้เท่ากับบรรยากาศภายนอก และ/หรือ ระบายของเหลวภายในหูชั้นกลาง ผู้ป่วยบางรายอาจต้องใส่ท่อ (myringotomy tube) คาไว้ที่เยื่อบุแก้วหู การเจาะเยื่อบุแก้วหูมักทำโดยการใช้ยาชาเฉพาะที่
- การใช้ balloon ถ่างขยายท่อยูสเตเชียน เป็นอีกวิธีหนึ่งในการรักษา วิธีนี้จะทำโดยการส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก หลังจากนั้นใช้ตัว balloon ที่มีลักษณะเฉพาะตัวแบบพิเศษสอดเข้าไปในท่อยูสเตเชียน หลังจากอัดอากาศให้เข้าไปใน balloon ตัว balloon ก็จะขยายตัว พองตัว ทำให้ถ่างขยายท่อยูสเตเชียน เมื่อท่อยูสเตเชียรถูกถ่างขยาย อากาศหรือน้ำที่อยู่ในหูชั้นกลางก็จะไหลออกมาทางท่อยูสเตเชียนลงหลังโพรงจมูก วิธีนี้สามารถทำโดยยาชาเฉพาะที่หรือใช้ยาสลบก็ได้
หลักการทำงานของ balloon ยูสเตเชียน
- การใช้ balloon ยูสเตเชียน สามารถทำโดยยาชาเฉพาะที่หรือการใช้ยาสลบ
- แพทย์จะใช้วิธีส่องกล้องเข้าไปในจมูก เพื่อตรวจดูพยาธิสภาพของจมูก และดูตำแหน่งของท่อยูสเตเชียน
- ใส่เครื่องมือที่เป็น balloon เข้าไปในท่อยูสเตเชียน หลังจากนั้นอัดลมเข้าไปใน balloon เมื่อตัว balloon ขยายพองตัวออกมา จะถ่างให้ท่อยูสเตเชียนขยายตัวและเปิดออก
-
หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง เช่น เครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การเป็นไข้หวัด ไม่สบาย หรือป่วยด้วยโรคจมูกหรือไซนัสอักเสบเรื้อรัง เนื่องจากถ้ามีการอักเสบในโพรงจมูก และ/หรือไซนัส จะส่งผลถึงรูเปิดของท่อยูสเตเชียน ซึ่งอยู่ที่โพรงหลังจมูก ทำให้ท่อยูสเตเชียนทำงานผิดปกติได้