โรคลมพิษ ผื่นแดงนูนคัน อันตรายแค่ไหน

พญาไท 3

1 นาที

จ. 10/05/2021

แชร์


โรคลมพิษ ผื่นแดงนูนคัน อันตรายแค่ไหน

โรคลมพิษ หรืออาการ “ลมพิษ” เป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัยที่หลายคนรู้จักดีหรือเคยเป็นลมพิษกันมาบ้าง โรคลมพิษนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยลักษณะพิเศษเฉพาะที่เห็นได้ชัดของโรค คือ มี ผื่นแดง หรือ ปื้นนูนแดง ที่ชัดเจน และมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งอาการดังกล่าวส่วนมากจะขึ้นทั่วทั้งร่างกาย แต่มีบางรายที่ขึ้นเพียงบางส่วนของร่ายกาย เช่นเดียวกับบางรายมีอาการเพียงระยะเวลาอันสั้นไม่กี่ชั่วโมงก็หาย แต่บางรายก็อาจจะเป็นทุกวันหรือเป็นนานเป็นปี ที่เรียกว่า “ลมพิษชนิดเรื้อรัง”

 

สาเหตุและปัจจัยในการเกิดโรคลมพิษ

โรคลมพิษมีสาเหตุและปัจจัยการเกิดได้จากหลายอย่าง อาจเกิดขึ้นจากการแพ้สารบางชนิดจากการรับประทาน เกิดจากการสัมผัส การสูดดม หรือจากการฉีดเข้าไปในร่างกาย ซึ่งสาเหตุสำคัญๆ ที่ก่อให้เกิดลมพิษแบ่งได้ดังนี้

 

อาหารที่ทำให้เกิดโรคลมพิษ

ประเภทของอาหารที่ทำให้เกิดลมพิษมีมากมาย สามารถพบได้ เช่น

  • อาหารจำพวกโปรตีน เช่น กุ้ง ปลา หอย ไข่ ถั่ว นม หรือแม้แต่ผลไม้
  • สารปรุงแต่งอาหารหรือขนม เช่น สีผสมอาหาร โดยเฉพาะสีเหลืองหรือสีเขียวที่มักใช้สีประเภท Tartrazine จึงพบในพวกสลิ่ม ขนมด้วง ข้าวพอง ฟักเชื่อม ชาจีน ขนมชั้น ถั่วกวน วุ้นหวานกรอบ ครองแครง อมยิ้ม ฝอยทองกรอบ
  • ผักและผลไม้บางอย่างที่มีสารประเภท Salicylate ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดลมพิษได้ เช่น แอปเปิ้ล แตงกวา มันฝรั่ง มะเขือเทศ มะนาว พริกไทย ส้ม เป็นต้น
  • อาหารและเครื่องดื่มที่มียีสต์ เช่น ขนมปัง เหล้า เบียร์

การแพ้จนเป็นลมพิษจากอาหารเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุด ดังนั้นจึงควรสังเกตอย่างละเอียดและหาสาเหตุการแพ้จากการรับประทานอาหารดังกล่าว เพื่อการหลีกเลี่ยง

 

ยาที่ทำให้เกิดโรคลมพิษ

ยาเป็นสาเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการเกิดลมพิษ ซึ่งอาจเกิดทันทีภายหลังได้รับยาชนิดนั้น เช่น

  • ยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะพวก เพนิซีลินซัลฟา
  • ยาแก้ปวด ยานอนหลับ
  • สารทึบแสงที่ใช้ในการตรวจทางเอกซเรย์
  • วิตามินบางชนิด

การแพ้หลังจากฉีดหรือรับประทานยาจะสังเกตได้ง่าย แต่บางรายอาจใช้เวลานานเป็นเวลา 7-10 วัน ซึ่งอาจสังเกตอาการแพ้ได้ยาก

 

แมลงที่ทำให้เกิดโรคลมพิษ

อาจก่อให้เกิดลมพิษได้ทั้งจากการสัมผัสหรือการโดนกัดต่อย เช่น

  • จากการสัมผัส เช่น ไรแมว ไรสุนัข ไรนก และบุ้ง
  • จากการกัดต่อย เช่น ผึ้ง แตน ต่อ หมาร่า มดแดงไฟ มดตะนอย

ซึ่งบางครั้งอาจมีอาการรุนแรง ทั้งลมพิษ และบวมทั้งตัว หรือช็อก บางรายอาจเสียชีวิตในเวลาอันสั้นมากหลังถูกต่อย

 

อากาศที่ทำให้เกิดโรคลมพิษ

  • แสงแดด ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดลมพิษเมื่อถูกแสงแดดบางช่วงของวัน ซึ่งมีความยาวของคลื่นแสงเฉพาะ เมื่อถูกแสงแดดแล้วเกิดผื่นขึ้นมา อาจแก้ไขได้โดยหลีกเลี่ยงการออกแดดในเวลานั้นๆ หรือใช้ครีมกันแดด
  • ความเย็น เช่น เวลาถูกอากาศเย็น อาบน้ำเย็น ผู้ป่วยบางรายรับประทานน้ำแข็งอาจเกิดอาการบวมในบริเวณคอ หายใจลำบาก หรือเกิดจากการมีโรคบางอย่าง เช่น ซิฟิลิส หรือมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง
  • สารในอากาศ เช่น ฝุ่นบ้าน เชื้อราในอากาศ เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ เมื่อสูดสารเหล่านี้เข้าไปมากๆ อาจก่อให้เกิดลมพิษได้

 

ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดโรคลมพิษ

  • เหงื่อ บางคนเกิดลมพิษภายหลังออกกำลังกายมาก หรือเหงื่อออกมาก ลมพิษชนิดนี้มักเป็นเม็ดเล็กๆ เกิดบริเวณแขน ขา มากกว่าบริเวณลำตัว
  • อารมณ์และสภาพจิตใจ ในบางรายเกิดลมพิษภายหลังมีอารมณ์ผิดปกติ จากความโกรธ เครียด กังวล มักเป็นลมพิษชนิดเรื้อรัง
  • การขีดข่วน เกิดจากแรงขูดบนผิวหนัง ผู้ป่วยบางรายมีผิวหนังไวต่อรอยขูดข่วนบนผิวหนัง ทำให้เกิดรอยนูนคันตามบริเวณที่ถูกรอยขูดข่วนภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที การคันและเกาก็ยิ่งเพิ่มรอยและคันมากขึ้น
  • โรคติดเชื้อ สามารถก่อให้เกิดลมพิษได้เช่นกัน
  • พยาธิในลำไส้ เป็นสาเหตุได้บ่อย เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิตัวแบน เชื้อบิด
  • การติดเชื้อในส่วนอื่นของร่างกาย เช่น เชื้อราในช่องคลอด
  • ฟันผุ ก็อาจเป็นสาเหตุของลมพิษได้ การรักษาหรือถอนฟันผุออกก็อาจทำให้อาการลมพิษหายไปในผู้ป่วยบางราย
  • โรคร่วมอื่นๆ โรคบางอย่างทำให้ผู้ป่วยเกิดลมพิษร่วมได้ เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

 

ลมพิษเกิดได้จากมากหมายหลายสาเหตุ อาการมีตั้งแต่ไม่รุนแรง เช่น การแพ้อาหาร ไปจนถึงอาจเป็นอาการร่วมของโรคร้ายบางอย่าง โดยทั่วไปอาการลมพิษจะไม่รุนแรงและอาจหายเอง เมื่อสารที่ก่อให้แพ้นั้นถูกกำจัดออกจากร่างกาย แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังก็ควรจะได้รับการตรวจโดยละเอียด เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งแพทย์จะซักประวัติโดยละเอียด ทำการตรวจร่างกาย ตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ตรวจเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ หรือตรวจสารเคมีในเลือด และบางรายอาจต้องทำการทดสอบการแพ้บริเวณผิวหนังด้วย


แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...