การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง SMBG (Self-Monitoring of Blood Glucose) เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยเบาหวาน เพราะการที่ผู้ป่วยสามารถตรวจระดับน้ำตาลในเลือดได้เองเป็นประจำ ทำให้สามารถปรับการดูแลตนเองได้ทันท่วงที เช่นเมื่อผู้ป่วยเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (หน้ามืด ใจสั่น เหงื่อแตก หิว) ก็จะสามารถนำเครื่องมาตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองได้ทันที และสามารถนำผลน้ำตาลที่วัดได้มาอ้างอิงในการแก้ไขการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์
นอกจากนี้ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองเป็นประจำ จะเป็นตัวชี้วัด สะท้อนผลของยาที่ใช้รักษา และยังรู้ว่าพฤติกรรมการรับประทาน และการออกกำลังกาย มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยรายนั้นๆ อย่างไร ทำให้มีการวางแผนควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด
- เพื่อใช้ในการคัดกรองและวินิจฉัยผู้ที่มีอาการแสดง หรือมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน
- เพื่อใช้ติดตามระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- เพื่อใช้ประเมินผลการรักษา และประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน
- เพื่อช่วยใช้ในการตรวจป้องกัน และแก้ไขอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทันทีเมื่อมีอาการระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ตรวจถี่แค่ไหนจึงเหมาะในแต่ละบุคคลและชนิดของโรค
ความถี่ของการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองควรเป็นไปตามความเหมาะสมตามชนิดของโรคเบาหวาน การรักษาที่ได้รับ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยมีข้อแนะนำโดยทั่วไป ดังนี้
- ผู้ป่วยเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์ ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองก่อนอาหารและหลังอาหาร 1 หรือ 2 ชั่วโมง ทั้ง 3 มื้อ และก่อนนอน (รวมวันละ 7 ครั้ง) แต่อาจลดจำนวนครั้งลงเมื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
- ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ที่ได้รับการรักษาด้วย insulin pump ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง วันละ 4-6 ครั้ง
- ผู้ป่วยเบาหวานที่ฉีดอินซูลิน ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองก่อนอาหาร 3 มื้อ ทุกวัน
- ผู้ป่วยเบาหวานที่ฉีดอินซูลิน วันละ 2 ครั้ง ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองก่อนอาหารเช้าและเย็น เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับยา
- ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนและหลังการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นภาวะที่มีความเสี่ยงในการเกิดระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ภาวะเจ็บป่วย ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง วันละ 4 ครั้ง เพื่อตรวจสอบแนวโน้มที่จะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกินควร
- ในผู้ป่วยเบาหวานที่ฉีดอินซูลินก่อนนอน ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองก่อนอาหารเช้าทุกวัน หรืออย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ทั้งนี้ ผู้ป่วยเบาหวานควรมีความรู้เรื่องเทคนิคการตรวจที่ถูกต้องสำหรับเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพาที่ใช้ อายุของแถบที่ใช้ทดสอบ การเก็บ การดูแลรักษาเครื่อง และแบบทดสอบ ในการตรวจวัดระดับกลูโคสในเลือด
ในกรณีที่ระดับน้ำตาล ≤ 75 มก/ดล. จะให้ผลตรวจที่มีค่าที่แตกต่างจากค่าที่แท้จริง ± 15 มก./ดล.
และในกรณีที่ระดับน้ำตาล ≥ 75 มก./ดล. จะให้ผลตรวจที่มีค่าอยู่ภายในร้อยละ 20 ของค่าที่แท้จริง
ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบความแม่นยำของเครื่อง โดยใช้เครื่องตรวจน้ำตาลปลายนิ้วในขณะเดียวกับการตรวจน้ำตาลจากเส้นเลือดดำทางห้องปฏิบัติการ