ต่อมทอนซิลอักเสบ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่หลายคนคุ้นเคย เพราะเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยแนวทางการรักษาจะมีตั้งแต่การให้ยาไปจนถึงขั้นผ่าตัดต่อมทอนซิลทิ้งไป แต่ทั้งนี้ การตัดสินใจผ่าตัดต่อมทอนซิลนั้น ถือเป็นการพิจารณาขั้นสุดท้าย ที่หากอาการไม่สาหัสจริงๆ การเลือกเก็บต่อมทอนซิลไว้จะถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะการเอาต่อมทอนซิลออกนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาภายหลังได้ ซึ่งผลเสียจะรุนแรงแค่ไหน การทำความรู้จักกับต่อมทอนซิลให้มากขึ้นจะทำให้เรารู้ได้
ต่อมทอนซิลคืออะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร?
ต่อมทอนซิล คือต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ภายในช่องปากของคนเรา มีอยู่ด้วยกัน 2 ต่อม หน้าที่หลักๆ คือ ดักจับและทำลายเชื้อโรคทั้งไวรัสและแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจ เสมือนเป็นปราการด่านแรกไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทางปาก และด้วยเพราะมีหน้าที่ในการดักจับเชื้อโรคนี้เอง จึงทำให้ตัวต่อมทอมซิลมักเกิดการติดเชื้อและแสดงอาการ กลายเป็นโรคต่อมทอนซิลอักเสบที่ทำให้เราปวดเมื่อย เจ็บคอ อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร การที่ต่อมทอนซิลมีประโยชน์เช่นนี้เอง การตัดต่อมทอนซิลทิ้งไปจึงเป็นการเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียตามมาภายหลัง
ผ่าตัดต่อมทอนซิลทิ้งไป ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร?
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ด้านหูคอจมูก JAMA ได้ทำการศึกษาและเก็บข้อมูลจากเด็กกว่า 1 ล้านคนที่ผ่าตัดต่อมทอนซิลทิ้งไป พบว่า ความเสี่ยงที่เกิดจากการผ่าตัดนั้นรุนแรงกว่าภาวะติดเชื้อในหูและลำคอ โดยคนไข้ที่ผ่าตัดต่อมทอนซิลออกไปมีแนวโน้มการเป็นโรคภูมิแพ้และโรคในระบบทางเดินหายใจ อาทิ โรคหอบหืด ปอดบวม และไข้หวัดใหญ่ในภายหลังได้มากกว่าคนปกติถึง 3 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการผ่าตัดต่อมทอนซิลในเด็กนั้น ถือว่าควรเป็นทางเลือกสุดท้าย เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กได้พัฒนาให้เต็มที่มากที่สุด และสามารถต้านทานหรือป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาการรุนแรงแค่ไหน จึงควรใช้การผ่าตัดรักษาทอนซิล?
เนื่องจากต่อมทอนซิลมีหน้าที่สำคัญในการดักและทำลายเชื้อโรค การผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออกไปจึงส่งผลให้เราเสี่ยงติดเชื้อและป่วยได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หากไม่ป่วยรุนแรงจริงๆ แพทย์จะไม่พิจารณาผ่าตัดนำเอาต่อมทอนซิลออก โดยจะพยายามรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ให้ได้นานที่สุด ทั้งนี้ อาการรุนแรงของโรคต่อมทอนซิลที่ถึงเกณฑ์ว่าควรเข้ารับการผ่าตัด ได้แก่
- มีความเสี่ยงว่าอาจลุกลามกลายเป็นมะเร็งต่อมทอนซิล
- ทอนซิลอักเสบเรื้อรังไม่หาย เป็นติดต่อกันหลายครั้งต่อปี และเป็นทุกปี
- ต่อมทอนซิลอักเสบจนมีขนาดใหญ่ไปปิดกั้นทางเดินหายใจ
- มีการอักเสบติดเชื้อรุนแรงจนเกิดฝีหนองบริเวณรอบๆ ต่อมทอนซิล
- มีนิ่วหมักหมมในต่อมทอนซิล มีกลิ่นปาก เจ็บคอบ่อยๆ
ผ่าตัดต่อมทอนซิลปลอดภัย ด้วยการใช้เลเซอร์
ปัจจุบันการผ่าตัดต่อมทอนซิล นอกจากจะใช้วิธีผ่าตัดทิ้งแบบดั้งเดิม ยังมีนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงมากขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น นั่นก็คือการผ่าตัดด้วย “เลเซอร์” ซึ่งถือเป็นวิธีที่ได้ผลดีในการจัดการกับนิ่วทอนซิลอักเสบที่เกิดเรื้อรังด้วย
โดยการผ่าตัด Intracapsular laser vaporization tonsillectomy เป็นการผ่าตัดต่อมทอนซิลด้วยเลเซอร์แบบที่ผู้เข้ารับการผ่าตัดจำเป็นต้องได้รับการดมยาสลบ และจะมีอาการเจ็บบริเวณที่ทำการผ่าตัดเป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด แต่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ วิธีการผ่าตัดนี้คือ Gold Standard Treatment ของการผ่าตัดรักษานิ่วต่อมทอนซิล
การอักเสบเรื้อรังของโรคต่อมทอนซิล อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่าอยากผ่าตัดรักษาให้หายขาดไปเลยให้เร็วที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากอาการยังไม่รุนแรงถึงขั้นที่จะต้องผ่าตัด การพยายามรักษาด้วยการใช้ยาและการปรับพฤติกรรมโดยดูแลตัวเองให้ดีจะถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะหากสูญเสียต่อมทอนซิลซึ่งทำหน้าที่ดักและทำลายเชื้อโรคไปแล้ว ร่างกายของเราก็จะอ่อนแอและเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยที่ง่ายขึ้นในภายหลัง ท้ายที่สุด ในการรักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ดี เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีตความปลอดภัยอีกด้วย