ความดันโลหิตสูง หยุดยาได้ด้วยการออกกำลังกาย

ความดันโลหิตสูง หยุดยาได้ด้วยการออกกำลังกาย

แม้ว่า “ความดันโลหิตสูง” จะเกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีร่างกายปกติโดยไม่ได้เจ็บป่วยหรือเป็นโรคใดๆ เลย แต่เรามักพบว่า… ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตวาย โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบได้สูงกว่าคนทั่วไป

และไม่ว่าคุณจะสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ชอบกินของเค็มๆ หรืออาหารแปรรูปที่มีโซเดียมสูง รวมไปถึงการมีความเครียดสะสมทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว คุณก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นคนอ้วน ซึ่งการออกกำลังกายจะเป็นหนทางหนึ่งในการลดความเสี่ยง และช่วยให้ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหายจากภาวะดีได้…

#ความดันเท่าไหร่ อาการแบบไหนที่ต้องระวัง
หากรู้ตัวว่ามีภาวะความดันโลหิตสูง หรือมักปวดหัว เวียนหัว หรืออ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรพบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนออกกำลังกาย เพราะถ้าความดันสูงเกิน 180/110 มิลลิเมตรปรอท แพทย์มักแนะนำให้งดออกกำลังกายไปก่อน โดยให้กลับไปปรับพฤติกรรมการกิน การนอน หรือจำเป็นต้องกินยาตามที่แพทย์สั่งให้ เพื่อให้ความดันลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถออกกำลังกายได้ ทั้งนี้ยังต้องคำนึงถึงโรคประจำตัวเรื้อรังอื่นๆ ประกอบด้วย

#หลอดเลือดแข็งแรง ไขมันลดก็ปลดล็อก
ขณะออกกำลังกายหัวใจจะสูบฉีดเลือดแรงขึ้น ไขมันสะสมจะค่อยๆ ลดลง ส่งผลให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นไม่แข็งเปราะ เมื่อระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น หัวใจแข็งแรงขึ้น ความดันโลหิตก็จะดีขึ้นด้วย ในด้านจิตใจ… การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียด เพราะสมองจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขโดพามีน (Dopamine) ออกมา ร่างกายจึงรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

#เตรียมแผนและรู้วิธีการออกกำลังกาย
เมื่อแพทย์อนุญาตให้ออกกำลังกายได้ ควรจัดตารางการออกกำลังกายให้ห่างจากมื้ออาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง สวมเสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดี เลือกสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ระวังเรื่องอากาศที่ร้อนจัดหรือการออกกำลังกายกลางแดดจ้า ที่สำคัญต้องค่อยๆ เพิ่มความหนักและเวลา โดยเริ่มจากการอบอุ่นร่างกายอย่างน้อย 10 นาทีเสมอ หากออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านอย่างการยกดัมเบล ไม่ควรกลั้นหายใจ ไม่เกร็งนานเกินไป และต้องเปลี่ยนอิริยาบถอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันความดันตกเฉียบพลัน ทั้งไม่ควรใช้ท่าทางที่ศีรษะต่ำกว่าลำตัวด้วย

#ทำแบบสลับเพื่อปรับความแข็งแรงของหัวใจและกล้ามเนื้อ
ควรออกกำลังกายทั้งแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise) และแบบใช้แรงต้าน (Resistance Exercise) เช่น เต้นรำ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ จ๊อกกิ้ง สลับวันกับการยกดัมเบล วิดพื้น ใช้ยางยืด หรืออุปกรณ์เวทเทรนนิ่งในยิม โดยอาจเริ่มต้นด้วยเวลาเพียง 10-20 นาที และในแต่ละสัปดาห์ให้เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ จนทำติดต่อกันได้ครั้งละ 30-60 นาที ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน และควรทำในเวลาเดิมๆ ของทุกวัน หากมีอาการหน้ามืด เวียนหัว เหนื่อยหอบ ใจเต้นผิดปกติ กล้ามเนื้อล้าในขณะออกกำลังกาย ควรผ่อนแรงช้าๆ แล้วหยุดพัก แต่อย่าหยุดชะงักทันที และควรคูลดาวน์สัก 10 นาที เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายมีเวลาปรับตัวด้วยทุกครั้ง

#บันทึกความดันสำคัญแน่นอน
นอกจากการวัดความดันตามปกติแล้ว ควรจดตัวเลขไว้ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกครั้ง รวมถึงประเภทและเวลาของการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของความดัน ซึ่งแพทย์จะช่วยพิจารณาถึงความเหมาะสมในการออกกำลังกายให้ได้จากสถิติต่างๆ หากมีสมาร์ทวอทช์ที่บันทึกอัตราการเต้นของหัวใจได้ ยิ่งจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยภาพรวมได้ดีขึ้น

#เมื่อไหร่จะได้งด หรือลดยาความดันโลหิต
เมื่อแพทย์พิจารณาเห็นว่าคนไข้มีความดันลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ รวมถึงภาวะทางร่างกายและโรคร่วมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องควบคุมได้ดีแล้ว เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน ปริมาณไขมันในเลือด แพทย์อาจพิจารณาลดยาความดันโลหิตบางอย่างลง จนในที่สุดคนไข้ก็สามารถหยุดยาได้ตามที่แพทย์เห็นสมควร

ท้ายที่สุด… ไม่ว่าคุณจะมีความดันโลหิตสูงหรือต่ำ หรือแม้แต่อยู่ในเกณฑ์ปกติ การออกกำลังกายก็ยังมีประโยชน์กับสุขภาพกายและสุขภาพใจเสมอ แต่การออกกำลังกายควรพิจารณาถึงสุขภาพพื้นฐานร่วมด้วย หากไม่แน่ใจว่ามีปัญหาใดซ่อนอยู่หรือไม่ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์เสียก่อน เพื่อความปลอดภัยไร้กังวล


แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ



บทความแนะนำ

คุณเป็น พาหะธาลัสซีเมีย โดยไม่รู้ตัว อยู่หรือเปล่า

เครือพญาไท

เพราะคุณอาจเป็นพาหะธาลัสซีเมียโดยไม่รู้ตัว พาหะนี้ที่สามารถส่งต่อทางพันธุกรรมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ไม่อยากให้ลูกเสี่ยง… จูงมือกันมาตรวจคัดกรองธาลัสซีเมียก่อนตั้งครรภ์กันดีกว่า

อ่อนเพลีย เครียดง่าย อาจเพราะร่างกายขาดวิตามิน!

เครือพญาไท

เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามินขึ้นได้เอง เราจึงต้องทานวิตามินให้เพียงพอต่อความต้องการ หากมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ผิวหยาบกร้าน เครียดง่าย เป็นหวัดบ่อย นอนไม่หลับ ตาฟาง เหน็บชา อาจเพราะร่างกายขาดวิตามิน ซึ่งเราสามารถรู้ได้ด้วยการตรวจเลือด

อาการเด่นโรคต้อในตาแต่ละแบบ เช็คลิสต์ด่วนคุณเข้าข่ายต้อชนิดไหน

เครือพญาไท

ตามัวเมื่อเจอแสงจ้า ตาแดง ตาอักเสบ มีอาการปวดตาผิดปกติ เช็คอาการเบื้องต้น ความผิดปกตินี้ กำลังบอกว่าเราเป็นโรคอะไรกันแน่

อาการสั่น จากพาร์กินสัน อันตรายหรือไม่?

เครือพญาไท

ที่ “สั่น” แบบนี้เพราะพาร์กินสัน หรือโรคอื่นกันแน่ แยกให้ชัดพาร์กินสันแท้และเทียมต่างกันอย่างไร โรคพาร์กินสันอันตรายหรือไม่ รักษาให้หายขาดได้ไหม รักษาอย่างไร ไปหาคำตอบกัน