เราทุกคนล้วนมีหินปูน (Dental Calculuc) เกาะติดแน่นอยู่ตามขอบฟัน แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาฟันว่าทำได้ดีเพียงไร
คราบหินปูนเป็นส่วนผสมระหว่างเชื้อแบคทีเรียกับโปรตีนและเศษอาหารต่างๆ เมื่อสะสมนานเข้าก็กลายเป็นคราบเหนียวที่เรียกว่าพลัค (Plaque) และเมื่อคราบพลัคสะสมรวมตัวกับแร่ธาตุและน้ำลายก็จะแข็งขึ้นจนมีลักษณะคล้ายหินมาเกาะอยู่ตามซอกฟันและขอบฟัน ซึ่งจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่
แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ตามหินปูนจะปล่อยสารที่เป็นกรดออกมาสร้างปัญหาให้กับผิวฟัน ทำให้ฟันผุ และบริเวณเหงือกก็จะเกิดการอักเสบ กรดที่ออกมาจะค่อยๆ ทำลายกระดูกที่รองรับรากฟันให้ละลายลง ทำให้ฟันขาดฐานที่แข็งแรง สุดท้ายจึงต้องสูญเสียฟันไป
ปัญหาที่เกิดจากคราบหินปูนยังมีอีกหลายอย่าง เช่น ทำให้มีเลือดออกง่ายขณะแปรงฟัน ฟันเหลือง มีกลิ่นปาก เหงือกร่น เป็นโรคปริทันต์ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องให้ทันตแพทย์ขูดหินปูนออกให้ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทุกๆ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปขูดหินปูน
ก่อนเข้ารับการขูดหินปูน จะต้องคำนึงถึงความสะอาดและสุขภาพในช่องปาก รวมถึงสุขภาพด้านอื่นๆ ดังนี้
- เข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันโดยทันตแพทย์ หากมีปัญหาอื่นๆ ในช่องปากหรือฟัน แพทย์อาจจะแนะนำให้รักษาให้หายก่อนขูดหินปูน
- แปรงฟันเบาๆ ไม่ใช้ความรุนแรง บ้วนปาก ก่อนเข้าพบทันตแพทย์
- หากมีโรคประจำตัว เช่น เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือกำลังทานยาละลายลิ่มเลือด ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่และทันตแพทย์เพื่อประเมินสภาพร่างกายก่อนว่าสามารถขูดหินปูได้หรือไม่
ดูแลและทำความสะอาดฟันอย่างไรให้ห่างไกลหินปูน
- แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือเพิ่มการแปรงฟันหลังรับประทานอาหาร หมั่นบ้วนปากหลังดื่มเครื่องดื่ม
- ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
- ควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้ง เพราะการแปรงฟํนอย่างเดียวมักทำความสะอาดซอกฟันได้ไม่ดีพอ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- หลังรับประทานอาหารหรือขนมที่มีแป้ง เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล หากไม่สามารถแปรงฟันได้ ควรบ้วนปากให้สะอาด เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่จะเกิดขึ้นจากสารอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล อันสาเหตุหลักของการเกิดคราบหินปูน