การปรับรูปหน้าและเติมเต็มผิว ด้วยสารเติมเต็มฟิลเลอร์ (Filler Injection)

พญาไท 2

1 นาที

ศ. 25/02/2022

แชร์


Loading...
การปรับรูปหน้าและเติมเต็มผิว ด้วยสารเติมเต็มฟิลเลอร์ (Filler Injection)

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินคำว่า ฟิลเลอร์ (Filler) กันมาก่อน แต่อาจจะยังไม่รู้จักอย่างลึกซึ้งว่าฟิลเลอร์คืออะไร แล้วมีประโยชน์อย่างไร รวมถึงควรฉีดเมื่อไหร่ดี วันนี้เราจึงได้ขอความรู้จาก พญ.ปิยะมาศ สิงห์วาหะนนท์ ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาตจวิทยา (Dermatology) ที่ศูนย์ความงาม โรงพยาบาลพญาไท 2 และนำมาฝากกัน..

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) ก็คือสารเติมเต็มชนิดหนึ่ง โดยเราจะฉีดสารนี้เข้าไปในใต้ผิวหนังเพื่อช่วยเติมเต็มใบหน้าในบริเวณที่มีการพร่องหายหรือสูญเสีย volume ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ในผู้สูงวัย หรือแม้แต่พบในคนที่อายุยังไม่มากแต่มีปัญหาที่โครงหน้าในแบบเฉพาะบุคคล เช่น ขมับตอบ ร่องใต้ตาลึก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ก็จะทำในระดับความลึกที่ต่างกันแล้วแต่ปัญหาที่พบ

นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถฉีดเพื่อปรับแต่งรูปทรงของใบหน้าให้ได้สัดส่วน เช่น ให้คางยาวขึ้น รับกับสัดส่วนใบหน้าโดยรวม ปรับใบหน้าที่ดูแป้นกว้างให้ดูมีมิติแคบเล็กลงได้

หลายรูปแบบของ ฟิลเลอร์ ที่นิยมใช้ ต้องเลือกให้เหมาะ

ฟิลเลอร์แบ่งออกได้เป็นหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมใช้ และผ่านการขึ้นทะเบียนอย.ในประเทศไทยเรา คือสารในกลุ่ม ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีหลายชนิดจากหลายบริษัท โดยปริมาณตัวยา HA (mg/ml) ขั้นตอนการเตรียมฟิลเลอร์ ขนาดโมเลกุล การเชื่อมต่อพันธะ (cross-linked) เพื่อให้ตัวยามีฤทธิ์อยู่ได้นานขึ้นก็จะแตกต่างกันไป ฉะนั้นการเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหา รวมถึงเทคนิคในการฉีดก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษา

หนึ่งในแบรนด์ ที่มีการใช้กันมาอย่างยาวนานและได้รับความนิยมมาก ก็คือ Restylane เพราะมีหลากหลายรุ่นที่สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกส่วนของใบหน้า โดยตัวที่นิยมใช้กัน ได้แก่

  1. Restylane Lyft ใช้ Technology ในการผลิตที่ชื่อว่า NASHA (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid) คุณสมบัติเด่นคือ มีความคงตัวสูง สามารถคงรูปได้ดี ขึ้นรูปได้ชัดเจน เหมาะสำหรับการฉีดชั้นลึกในบริเวณที่กระดูกยุบตัว เช่น ขมับตอบ แก้ม mid-face ในคนที่ผิวไม่บางจนเกินไป ฉีดเสริมโหนกแก้ม ฉีดให้คางขึ้นรูป โดยไม่เกิดการไหลไปบริเวณอื่น
  2. Restylane Skinbooster Vital light เป็นฟิลเลอร์อนุภาคเล็ก มีความนิ่มที่สุดในกลุ่ม สามารถฉีดในชั้นผิวตื้นแบบกระจายทั่วใบหน้า เพื่อทำให้ผิวเนียนชุ่มชื้น แก้ริ้วรอยตื้นๆ ให้ผิวแลดูเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการเปลี่ยนรูปหน้าจนเกินไป สามารถฉีดแก้ร่องใต้ตา หรือริมฝีปากที่แห้งขาดน้ำแตกเป็นร่องให้ดีขึ้น

ขั้นตอนการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์

  1. ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ สามารถใช้ยาชาชนิดทา ทาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อลดอาการเจ็บ อย่างไรก็ตามในตัวฟิลเลอร์เองก็มีส่วนผสมของยาชาอยู่เช่นกัน
  2. ในขั้นตอนการฉีด แพทย์จะพิจารณาเลือกใช้เข็มปลายทู่ (cannula) หรือเข็มปลายแหลม แล้วแต่บริเวณที่ทำการรักษา โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และสามารถลดความเจ็บระหว่างฉีดโดยการฉีดสารทีละน้อยๆ และฉีดอย่างช้าๆ
  3. ภายหลังการฉีด อาจมีการนวดบริเวณที่ฉีดเบาๆ เพื่อลดการจับตัวเป็นก้อนชัดใต้ผิวในบริเวณที่ฉีดเข้าไป

คำแนะนำในการฉีดฟิลเลอร์

  1. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ก่อนทำการรักษา 1 สัปดาห์ เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs หรือยาแอสไพริน, วิตามินE, สารสกัดจากใบแปะก๊วย Ginkgo biloba เป็นต้น
  2. หากมีประวัติเริ่มกลับเป็นซ้ำบ่อย ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทำการรักษา
  3. หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงความร้อน และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดจนเส้นเลือดขยายตัว เช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก ซาวน่า การดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก
  4. อาจพบอาการบวมแดง เขียวช้ำในบริเวณที่ทำการรักษาได้ในช่วงแรก โดยอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
  5. หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ที่ลงผิวชั้นลึกอย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงหลีกเลี่ยงครีมทาผิว เครื่องสำอางที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  6. สามารถทำการฉีดฟิลเลอร์ร่วมกับการฉีด Botulinum toxin A ได้

 

พญ. ปิยะมาศ สิงห์วาหะนนท์

แพทย์สาขาตจวิทยา

ศูนย์ความงาม โรงพยาบาลพญาไท 2


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ



Loading...
Loading...