อย่าปล่อยให้ร่างกายอยู่ใน… “ภาวะขาดน้ำ”

อย่าปล่อยให้ร่างกายอยู่ใน… “ภาวะขาดน้ำ”

แม้ว่าในร่างกายของคนเราจะประกอบด้วย “น้ำ” ถึง 60% ของน้ำหนักตัว แต่ในทุกๆ วันร่างกายก็สูญเสียน้ำออกไปมากเช่นกัน ฉะนั้นเราควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย  เพื่อชดเชยน้ำที่เสียไป เพราะหากเราดื่มน้ำไม่มากพอจะส่งผลให้ร่างกายต้องตกอยู่ใน “ภาวะขาดน้ำ” อย่างแน่นอน

“ภาวะร่างกายขาดน้ำ” คืออะไร??

ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) คือ ภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ได้รับ จึงมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอจนส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเหลวและการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ ไต สมอง ทางเดินอาหาร กล้ามเนื้อ และหากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำมากเกินไปเป็นเวลานาน  อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

จะเป็นอย่างไร?…เมื่อร่างกายขาดน้ำ!

อาการของผู้ที่มีภาวะร่างกายขาดน้ำจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของภาวะ

  • อาการเบื้องต้นที่มีความรุนแรงระดับปานกลาง
    • กระหายน้ำ
    • ตาแห้ง ปากแห้ง ผิวแห้ง
    • เหงื่อออกน้อย
    • ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ
    • ท้องผูก
    • มึนงง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
  • อาการที่ขาดน้ำรุนแรงและเป็นอันตราย
    หากมีอาการเหล่านี้  ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

    • กระหายน้ำอย่างรุนแรง
    • ปัสสาวะน้อยและมีสีเข้ม หรือไม่มีปัสสาวะ
    • อ่อนเพลีย
    • มีไข้
    • หัวใจเต้นแรงและเร็ว หายใจหอบและถี่
    • ช็อก หมดสติ

เพราะอะไร?…จึงเกิดเป็น “ภาวะขาดน้ำ”

“น้ำ” เป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกาย เพราะเป็นส่วนประกอบหลักในระบบไหลเวียนต่างๆ คุณอาจคาดไม่ถึงว่า “แค่ดื่มน้ำน้อย” ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำได้ มาดูกันว่า มีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้คุณเป็น “ภาวะขาดน้ำ”

  • การที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป
    • อาเจียนมาก
    • ท้องเสียอย่างหนัก
    • อยู่ในที่อากาศร้อนเป็นเวลานาน
    • เหงื่ออกมากจากการออกกำลังกายเป็นเวลานาน
    • เหงื่อออกมาในผู้ที่มีไข้สูง หรือมีภาวะติดเชื้อ
    • ปัสสาวะมากผิดปกติในผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่ใช้ยาขับปัสสาวะ ใช้ยาความดันโลหิต รวมถึงผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
  • การที่ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ
    • การดื่มน้ำน้อยเกินไป โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการโคม่า หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
    • ผู้ที่ป่วยเป็นหวัด เจ็บคอ ทำให้เบื่ออาหารและดื่มน้ำน้อยลง
    • ผู้ที่ไม่ชอบดื่มน้ำ และดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือดื่มน้อยกว่า 5 ลิตรต่อวัน

วินิจฉัย…เพื่อหาสาเหตุ

จะเห็นได้ว่า “ภาวะขาดน้ำ” เกิดได้จากหลายสาเหตุ จึงควรให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด

  • การตรวจร่างกาย
    เพื่อหาสัญญาณของภาวะขาดน้ำ เช่น การตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ ชีพจร และความดันโลหิตในขณะที่ผู้ป่วยเปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่ายืน เพราะหากน้ำในเลือดน้อยเกินไปจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น และเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะหรือเป็นลมได้
  • การตรวจปัสสาวะ
    เช่น สีของปัสสาวะ การตรวจพบคีโตนในปัสสาวะ
  • การตรวจเลือด
    เช่น ปริมาณน้ำตาลในเลือด ปริมาณโซเดียมและโพแทสเซียมในเลือด ตรวจความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง

ดูแลตัวเองได้เมื่อ… “ร่างกายขาดน้ำ”

“ภาวะขาดน้ำ” เกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งมีวิธีการดูแลรักษาแตกต่างกัน หากมีอาการไม่รุนแรงมากนัก ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองได้ไม่ยาก

เด็กแรกเกิดและเด็กอายุไม่ถึง 1 ปี

  • ให้ดื่มนม หรือนมแม่บ่อยๆ และรีบมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
  • ในกรณีที่ต้องดื่มผงละลายเกลือแร่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนให้ทารกดื่ม

เด็กอายุ 1-11 ปี

  • พยายามให้เด็กดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อเป็นการชดเชยน้ำในร่างกาย
  • ดื่มผงละลายเกลือแร่
  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือน้ำหวานที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

เด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่

  • หากทำกิจกรรมอยู่ควรหยุดพัก และอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
  • ดื่มน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อเป็นการชดเชยน้ำในร่างกาย

ดูแลตัวเองก่อน “ร่างกายขาดน้ำ”

สิ่งสำคัญที่สุดคือ… การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วย เช่น อาเจียน ท้องเสีย มีไข้ หรือผู้ที่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ รวมทั้งผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักและสูญเสียเหงื่อมากๆ ซึ่งปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อคนทั่วไป คือประมาณ 1.5-2 ลิตร หรือ 8 แก้วต่อวัน แต่หากเป็นผู้ป่วยโรคไต หรือโรคหัวใจ อาจต้องจำกัดปริมาณในการดื่มน้ำ ทั้งนี้ต้องปรึกษาแพทย์เป็นรายบุคคล

ไม่น่าเชื่อว่า “ภาวะขาดน้ำ” จะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้มากอย่างคาดไม่ถึง ฉะนั้นเราควรดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้ดี… แค่ “ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ” เพื่อรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย… วิธีง่ายๆ เท่านี้ก็ทำให้เราห่างไกลจากคำว่า “ภาวะขาดน้ำ” ได้แล้ว

 

นพ. ธิติวุฒิ หู
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชปฏิบัติทั่วไป
ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...