อาการบ่งชี้และสัญญาณเตือนมะเร็ง ที่ผู้หญิงควรสังเกต

พญาไท นวมินทร์

1 นาที

จ. 30/05/2022

แชร์


อาการบ่งชี้และสัญญาณเตือนมะเร็ง ที่ผู้หญิงควรสังเกต

โรคมะเร็ง เป็นโรคที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเพศหญิงที่ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง ค่อนข้างมากและเด่นชัดในแต่ละช่วงวัย อีกทั้งอวัยวะภายในก็มีความซับซ้อนและต้องได้รับการดูแลมากกว่าเพศชาย ซึ่งอาการบางอย่าง เช่น ปวดท้อง ที่ผู้หญิงมักเป็นตอนมีประจำเดือนอยู่แล้ว จึงอาจทำให้คิดไม่ถึงว่า อาการปวดท้องที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งอย่างหนึ่ง

ต้องหมั่นสังเกต…ก่อนเกิดโรค

หลายคนมักคิดว่า “กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคมะเร็ง ก็ต้องเข้าสู่ระยะร้ายแรงและรักษายากแล้ว” ซึ่งไม่จริงเสมอไป! เพราะหากเราหมั่นสังเกตและดูแลร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี ทันทีที่พบความผิดปกติหรือมีอาการน่าสงสัยแล้วรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจ วินิจฉัย ก็จะทำให้สามารถพบรอยโรคในระยะแรกๆ ได้ ซึ่งโอกาสในการรักษาหายก็จะสูงตามไปด้วย

มะเร็งชนิดใด และอาการใดบ้างที่เป็นสัญญาณเตือนโรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง

  • มะเร็งเต้านม
    มะเร็งเต้านม ยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของมะเร็งในสตรี อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่ในระยะแรกๆ จะไม่แสดงอาการใดๆ จนกว่าจะตรวจพบด้วยแมมโมแกรม แต่คุณผู้หญิงอาจสังเกตความผิดปกติต่างๆ ได้ด้วยตัวเองก่อน เช่น
    • คลำพบก้อนบริเวณเต้านม หรือใต้รักแร้
    • เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างเปลี่ยนไป
    • ระคายเคืองบริเวณผิวหน้าอก มีผื่นคันบริเวณเต้านม
    • ผิวหนังที่เต้านมบุ๋มลงไปคล้ายลักยิ้ม
    • มีแผลที่บริเวณหัวนม
    • มีอาการเจ็บที่เต้านม แม้ไม่ใช่ช่วงที่มีประจำเดือน
    • มีของเหลวที่ไม่ใช่น้ำนมไหลออกจากหัวนม
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่
    อาจไม่ค่อยมีใครทราบว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงเช่นกัน อาการของโรคในระยะเริ่มต้นอาจยังไม่แสดงอาการ แต่จะมีความผิดปกติเมื่อโรคพัฒนาขึ้น ดังนี้
    • ขับถ่ายผิดปกติ ท้องเสียสลับท้องผูก หรือท้องอืดบ่อยๆ
    • ลักษณะอุจจาระเรียวยาวกว่าปกติ
    • อุจจาระปนเลือดสดๆ หรือเลือดสีคล้ำมาก
    • อ่อนเพลียหรืออ่อนแรง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
    • มีอาการจุกเสียด แน่น หรือปวดท้องบ่อยๆ
    • รู้สึกคลื่นไส้ อยากอาเจียน
    • ปวดเบ่งบริเวณทวารหนักคล้ายปวดอุจจาระตลอดเวลา
    • มีภาวะโลหิตจาง
  • มะเร็งตับ
    มะเร็งตับในระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการแสดง ต่อเมื่อโรคลุกลามหรือเป็นหนักขึ้นผู้ป่วยจึงสังเกตได้ ทั้งนี้คนที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี หรือมีตับแข็งจากทุกสาเหตุ ควรตรวจคัดกรองแม้ยังไม่มีอาการใดๆ แต่อาการที่พอจะสังเกตได้คือ
    • ปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณใต้ชายโครงขวา หรือบริเวณลิ้นปี่
    • ท้องบวมโตขึ้น มีน้ำในช่องท้อง
    • น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
    • รู้สึกอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
    • มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ
    • คลำพบก้อนที่บริเวณตับ
    • ตัวเหลืองและตาเหลือง
    • อาเจียนเป็นเลือด
  • มะเร็งปากมดลูก
    ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดฮิวแมนแปปปิโลมาไวรัส (Human Papillomavirus) หรือเอชพีวี (HPV) มะเร็งปากมดลูกเป็นอีกหนึ่งโรคมะเร็งที่พบมาก สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง แม้ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถติดเชื้อได้ มะเร็งปากมดลูกถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้หญิง ฉะนั้นหากมีอาการผิดปกติดังนี้ ควรรีบพบแพทย์
    • มีเลือดไหลออกจากช่องอย่างผิดปกติ อาจมีเลือดออกหลังระยะที่เพิ่งหมดประจำเดือน หรือมีเลือดออกในผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว
    • มีประจำเดือนมาก หรือนานกว่าปกติ
    • มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
    • มีของเหลวออกทางช่องคลอด หรือตกขาวที่มีลักษณะเป็นน้ำและข้น มีเลือดปน
    • ปวดท้องน้อย หรือปวดท้องบริเวณอุ้งเชิงกรานที่ไม่ใช่ปวดประจำเดือน
  • มะเร็งปอด
    หลายคนคงคาดไม่ถึงว่า “มะเร็งปอด” จะเป็นโรคมะเร็งที่พบในผู้หญิงมากจนติดอันดับเช่นกัน ที่สำคัญยังเป็นโรคที่มีความรุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากทีเดียว อาการของโรคจะเริ่มปรากฏเมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะที่ 3-4 แล้ว
    • มีอาการหอบ เหนื่อย
    • หายใจผิดปกติ หายใจสั้น หายใจมีเสียงหวีด
    • ไอเรื้อรัง ไอมีเสมหะปนเลือด
    • เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอกตลอดเวลา
    • เสียงแหบ เสียงเปลี่ยน
    • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย
    เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งของระบบเลือดที่เกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวในไขกระดูกเติบโตผิดปกติ ส่งผลให้การทำงานของระบบเม็ดเลือดเสียไป อาการที่แสดงออกจะขึ้นอยู่กับชนิดของโรคด้วย
    • รู้สึกเบื่ออาหาร น้ำหนักลด
    • มีภาวะซีด อ่อนเพลียง่าย
    • มีเลือดออกง่าย เพราะมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีเกล็ดเลือดต่ำ
    • มีไข้ หนาวสั่น
    • เหงื่ออกมากตอนกลางคืน
    • มีรอยฟกช้ำได้ง่าย
    • ปวดกระดูกและข้อ
    • ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย

จะเห็นได้ว่ามะเร็งในแต่ละอวัยวะนั้น มักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น ดังนั้นสาวๆ จึงไม่ควรชะล่าใจว่าตนเองยังปลอดภัยจากโรคมะเร็ง ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพและ “การตรวจคัดกรองมะเร็ง” ที่สำคัญอีกอย่าง คือการหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของตัวเองอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อยก็ควรรีบพบแพทย์

 

นพ. ศุภชาติ ชมภูนุช
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา
ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

 


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...