รู้หรือไม่? คนไทยเสียชีวิตโรคหลอดเลือดหัวใจเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน
รู้หรือไม่? คนไทยเสียชีวิตโรคหลอดเลือดหัวใจกว่า 37,000 คนต่อปี
รู้หรือไม่? โรคหลอดเลือดหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก
ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ เป็นเครื่องยืนยันที่ดีว่า “โรคหลอดเลือดหัวใจ” ไม่ว่าใคร เชื้อชาติใด อยู่ประเทศไหน ก็มีโอกาสเป็น! และโรคหลอดเลือดหัวใจกว่ารู้ตัวได้ก็อาจหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งสามารถพรากชีวิตคุณและคนที่คุณรักได้ภายใน 15 นาทีหลังจากที่เริ่มมีอาการ การตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้รู้เท่าทันความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจได้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีอาการ
ตรวจหลอดเลือดหัวใจ ทำได้กี่วิธี
วิธีการตรวจหลอดเลือดหัวใจ เพื่อคัดกรองความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ-ตัน ที่นิยมในปัจจุบัน คือ
- การตรวจหินปูนหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Calcium Score หรือ CAC)
เป็นการตรวจโดยใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (CT Scan)คำนวณหาปริมาณแคลเซียมที่เกาะภายในผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยบอกแนวโน้มว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจหรือไม่ หากตรวจไม่พบหินปูนที่หลอดเลือดค่า Calcium score เป็น 0 หมายความว่า คุณมีความเสี่ยงต่ำ แต่หากค่า Calcium score สูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสูงกว่า 400 คุณมีแนวโน้มที่จะเสี่ยงต่อภาวะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ภายในระยะเวลา 2-5 ปี แม้จะไม่มีอาการใดๆ เลยก็ตาม เป็นวิธีการตรวจที่ง่าย แค่นอนยกแขนสูงเหนือศรีษะ กลั้นหายใจเป็นช่วงๆ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาในการตรวจไม่เกิน 10 นาที
- ตรวจวัดการแข็งตัวของหลอดเลือด (Ankle Brachial Pressure Index หรือ ABI)
เป็นการตรวจโดยการวัดความดันในหลอดเลือดแดงที่แขนและขา อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกับเครื่องวัดความดัน ซึ่งจะถูกนำมาติดไว้ที่บริเวณต้นแขนและข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง แล้วนำค่าความดันที่วัดได้มาคำนวณหาค่าดัชนี ABI ที่จะช่วยให้รู้ได้ว่าหลอดเลือดที่เลี้ยงแขนและขามีการอุดตันหรือไม่ ซึ่งเป็นการบ่งบอกความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองได้ในอีกช่องทางหนึ่ง โดยค่า ABI ควรจะมากกว่าหรือเท่ากับ 1 ค่า ABI ที่น้อยกว่า 0.9 จะบ่งบอกว่าเกิดการอุดตัวของหลอดเลือดที่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง ยิ่งหากพบค่า ABI ต่ำกว่า 0.5 ยิ่งเป็นภาวะที่ต้องรับการรักษาอย่างเร่งด่วน
- การตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Coronary CT Angiography หรือ CTA)
วิธีการตรวจนี้จะคล้ายกับการตรวจหินปูนหลอดเลือดหัวใจ แต่แตกต่างตรงที่มีการใช้สารทึบรังสีร่วมกับการตรวจด้วยเครื่อง CT scan จึงทำให้สามารถเห็นลักษณะทางกายภาพของหลอดเลือดหัวใจได้แบบ 360 องศา สามารถเจาะลึกได้ถึงระดับความรุนแรงของการตีบตันของหลอดเลือดหัวใจ และยังสามารถเห็นความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด โดยจะมีการให้สารทึบรังสีผ่านทางเส้นเลือดที่แขน แล้วกลั้นหายใจเป็นพักๆ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ โดยทั่วไปครั้งละไม่เกิน 10 วินาที ใช้เวลาในการตรวจ 15-60 นาที แตกต่างไปตามอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นวิธีการตรวจที่แม่นยำ ง่าย และไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล
- การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Angiography หรือ CAG)
เป็นการตรวจดูหลอดเลือดหัวใจโดยการสอดสายตรวจขนาดเล็กผ่านเข้าทางหลอดเลือดแดงที่ข้อมือหรือขาหนีบ จนกระทั่งปลายสายไปถึงหลอดเลือดหัวใจ แล้วฉีดสารทึบรังสี เพื่อดูการเคลื่อนไหวของสารทึบรังสีผ่านหลอดเลือดหัวใจทั้ง 3 เส้น พร้อมทำการบันทึกภาพด้วยเครื่องเอกซเรย์ ซึ่งจะทำให้ทราบได้ว่ามีการตีบแคบของหลอดเลือดหัวใจตรงจุดใด การตรวจด้วยวิธีการนี้มีข้อดี คือ สามารถทำหัตถการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูนหรือขดลวดได้ในคราวเดียว และยังเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องใช้ยาสลบ เพียงแค่ฉีดยาชาเฉพาะที่ ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 20-60 นาที ขึ้นอยู่กับว่ามีการทำหัตถการหรือไม่ หากไม่มีการทำหัตถการพักดูอาการต่อจนเลือดหยุดไหลก็สามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน
ข้อจำกัดของการตรวจที่มีการใช้สารทึบรังสี
ปกติแล้วสารทึบรังสีที่เป็นสารไอโอดีนอาจมีผลข้างเคียงในผู้ที่แพ้อาหารทะเล ดังนั้นหากมีโรคประจำตัวอย่าง ภูมิแพ้, หอบหืด, ไทรอยด์ รวมไปถึงผู้ที่มีความเสี่ยงโรคไต หรือมีภาวะไตวายเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับการตรวจ