นอนกรน กับการผ่าตัดลดเสี่ยง “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ”

นอนกรน กับการผ่าตัดลดเสี่ยง “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ”

นอนกรนเกิดจากอะไร?
อาการนอนกรน เกิดจากทางเดินหายใจส่วนบนตีบแคบ เนื่องจากในขณะที่เรานอนหลับสนิทนั้น กล้ามเนื้อต่างๆ ในช่องปากจะผ่อนคลายและหย่อนลงมาปิดกั้นทางเดินหายใจ รวมถึงบางกรณีอาจมีการบวมของเนื้อเยื่อในช่องจมูก ทำให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านไปยังหลอดลมและปอดได้สะดวก เมื่อช่องลมถูกปิดกั้น ทางเดินหายใจส่วนบนตีบแคบลง จึงทำให้เกิดเสียงกรนจากการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่ออ่อน เช่น เพดานอ่อนและผนังช่องคอ รวมถึงฝาปิดกล่องเสียง

การนอนกรนแบบไหน? ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
อาการนอนกรน เกิดได้กับคนทั่วไป ในรายที่มีเพียงการกรน โดยไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย ผลเสียก็อาจมีแค่ทำให้เกิดความรำคาญแก่คนใกล้ชิด หรือบางคนอาจอับอายเมื่อถูกล้อเลียน

แต่หากอาการนอนกรนนั้นมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย นอกจากจะสร้างปัญหาดังกล่าวแล้ว ยังก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของผู้นอนกรนด้วย เพราะช่วงที่มีการหยุดหายใจขณะหลับนั้น ออกซิเจนในเลือดจะต่ำลง ซึ่งเราเรียกว่าภาวะนี้ว่า Hypoxia หรือภาวะพร่องออกซิเจน ทำให้เซลล์ทั่วร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ผู้ที่มีภาวะนี้มักรู้สึกว่าตนเองนอนไม่พอทั้งที่นอนหลายชั่วโมง นอกจากนี้อาจจะสังเกตได้จากมีภาวะหงุดหงิดง่าย และมีสมาธิแย่ลง

ปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ในช่วงที่ออกซิเจนในเลือดต่ำนั้นจะก่อให้ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระกับเซลล์เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดภาวะ Oxidative stress คือมีการอักเสบของผนังเส้นเลือดเล็กๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงการไหลเวียนของเลือดในอวัยวะต่างๆ ไม่ปกติ จึงเพิ่มความเสื่อมให้กับเซลล์ ทำให้แก่ก่อนวัย (Ageing) เมื่อเป็นนานวันเข้า โรคของความเสื่อมก็จะมาเร็วกว่าคนทั่วไป อาทิ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ ข้อเสื่อม ต้อหิน ต้อกระจก และอีกมากมายหลายโรค

ดังนั้นใครก็ตามที่มีอาการนอนกรน และสงสัยว่าตนเองอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจ วิเคราะห์ และวางแผนการรักษาให้ตรงจุดต่อไป

การรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ที่มีสาเหตุจากเพดานอ่อนหย่อน
จริงๆ แล้ว ความดังของเสียงกรนกว่า 80% นั้น เกิดจากการสั่นสะเทือนของเพดานอ่อน ซึ่งอาการเพดานอ่อนหย่อนก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนบน ที่อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ได้ด้วย

การรักษาอาการนอนกรน ด้วยการผ่าตัดแบบเดิม
หากสาเหตุการนอนกรนของผู้ป่วยเกิดจากการที่เพดานอ่อนหย่อนยานและลิ้นไก่ยาว สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด โดยในอดีตจะเป็นการใช้มีดผ่าตัดและเย็บตกแต่งเพดานอ่อนโดยตรง ที่เรียกว่า (Uvulopalatopharyngoplasty / UPPP) ซึ่งมีข้อเสีย คือ

  • ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน
  • เสียเลือดในการผ่าตัดมากราว 50-100 cc.
  • เจ็บแผลหลังการผ่าตัดมาก
  • ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล 2-3 คืน
  • ใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน
  • แผลในช่องคอหลังผ่าตัดไม่สวยงาม 

การรักษาอาการนอนกรน ด้วยการผ่าตัดแบบใหม่
ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาเทคนิคใหม่ที่ดีมากและเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกที่เรียกว่า Modified CAPSO technique (Modified cautery assisted palatal stiffening operation technique) ร่วมกับการเย็บตกแต่งเพดานอ่อนและลิ้นไก่ที่เรียกว่า Modified CAPSO and Uvulopalatoplasty ซึ่งมีข้อดี คือ

  • ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย
  • เสียเลือดในการผ่าตัดน้อย ไม่เกิน 1-2 cc. 
  • เจ็บแผลหลังการผ่าตัดน้อย
  • พักในโรงพยาบาลเพียง 1-2 คืน
  • ใช้เวลาในการฟื้นตัวเร็ว
  • แผลในช่องคอหลังผ่าตัดสวยงาม 

โดยการผ่าตัดนี้ เหมาะสำหรับรักษาผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่เป็นไม่รุนแรง (Mild and Moderate OSA) แต่หากนำมาใช้ร่วมกับการรักษาอื่น เช่น การใช้เลเซอร์ผ่าตัดสลายเนื้อเยื่อต่อมทอนซิลให้มีขนาดเล็กลงร่วมกับการเย็บซ่อมแซมต่อมทอนซิล (LASER Tonsilloplasty) และใส่ spring pillar implant ซึ่งเป็นนวัตกรรมของทางคลินิกที่เรียกว่า Modifiled CAPSO + spring pillar implant= Hybrid Modified CAPSO ร่วมด้วย ก็จะสามารถรักษาผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดปานกลางถึงรุนแรงได้ (Moderate to Severe OSA)

[base64_img]

 

 

นพ.สรัลชัย เกียรติสุระยานนท์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โสต  ศอ นาสิก
และศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์หู คอ จมูก
โรงพยาบาลพญาไท 3 ชั้น 4
โทร. 02-467-1111 ต่อ 4416, 4417


แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ



Loading...