โรคมะเร็งกระดูก เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์เนื้อเยื่อกระดูกมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วผิดปกติ โดยระบบในร่างกายไม่สามารถควบคุมหรือต้านทานได้ ทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้อมะเร็งหรือแผลมะเร็งในเนื้อเยื่อกระดูก โรคมะเร็งกระดูกมักพบบ่อยในเด็กโต ช่วงอายุประมาณ 10-20 ปี ซึ่งการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งกระดูกนั้น สามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่
- การตรวจวินิจฉัยด้วยการเอกซเรย์
- การตรวจชิ้นเนื้อในห้องปฏิบัติการ
อาการของโรคมะเร็งกระดูก
อาการสำคัญๆ ของโรคมะเร็งกระดูก ได้แก่ อาการปวด ข้ออักเสบ มีก้อนผิดปกติ กระดูกหักจากพยาธิสภาพ ความผิดปกติของระบบประสาท รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น น้ำหนักลด อ่อนเพลีย มีไข้ โลหิตจาง และภาวะแคลเซียมในเลือดสูง
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งกระดูก
แม้ในทางการแพทย์จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดในการก่อตัวของเซลล์มะเร็งที่บริเวณกระดูก แต่ก็มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้หลายอย่าง เช่น
- ความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือยีน
- การได้รับการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมีต่างๆ ยาฆ่าแมลง และสารรังสี
- เกิดจากการรักษามะเร็งชนิดอื่นๆ เช่น การให้เคมีบำบัด และการใช้รังสีรักษา
การรักษาโรคมะเร็งกระดูก
การรักษาโรคมะเร็งกระดูกมักใช้การผ่าตัดเป็นหลัก โดยทำร่วมกับการฉายแสงและการให้เคมีบำบัดเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งให้หมดไป โดยปัจจุบันมีการแนะนำให้ทำการผ่าตัดแบบเก็บอวัยวะ (limb-salvage/limb-sparing surgery) เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า คือสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ โดยไม่สูญเสียแขนหรือขา
เนื่องจากในบางกรณี การผ่าตัดอาจจำเป็นต้องตัดอวัยวะของผู้ป่วย ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียอวัยวะ ทำให้เกิดความพิการ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตและความสามารถในการใช้ชีวิตลดลง อีกทั้งทำให้ผู้ป่วยมีรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจนสูญเสียความมั่นใจ
แต่ในปัจจุบัน มีการใช้อุปกรณ์ทดแทนอวัยวะ (endoprosthesis) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยลดความกังวลที่ไม่ต้องตัดอวัยวะออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเด็ก โดยวิธีการผ่าตัดที่มีการใช้อุปกรณ์ทดแทนนั้น แพทย์จะทำการตัดกระดูกและเนื้อเยื่อรอบข้างออก ซึ่งโดยส่วนใหญ่นั้นสามารถผ่าตัดเอาเนื้องอกหรือมะเร็งออกได้โดยไม่ต้องตัดแขนหรือขาที่เป็นโรคออก หลังจากนั้นแพทย์จะใส่โลหะข้อเทียมชนิดพิเศษแทนกระดูกส่วนที่ถูกตัดออกไป โดยข้อโลหะเทียมชนิดพิเศษนี้มีความแข็งแรงและทนทาน ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มีอวัยวะครบถ้วน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าการผ่าตัดที่ต้องเสียอวัยวะ
ทั้งนี้ อาจมีผู้ป่วยบางรายที่จำเป็นต้องตัดแขนหรือขาออกเพราะก้อนเนื้องอกนั้นมีขนาดใหญ่มาก หรือมีการทำลายเส้นเลือดและเส้นประสาทใหญ่ข้างเคียงจนไม่สามารถผ่าตัดในแบบที่เก็บแขนหรือขาไว้ได้ ดังนั้นการจะเลือกผ่าตัดแบบใดก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของโรคที่เป็นด้วย