แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเมื่อใด?
การรักษาโรคลิ้นหัวใจ จะมี 3 วิธีหลักๆ ขึ้นอยู่กับตัวโรค คือ 1.การใช้ยา 2.การใช้เครื่องมือพิเศษ และ 3.การผ่าตัด ซึ่งแพทย์มักจะพิจารณารักษาด้วยการใช้ยาก่อนโดยทำควบคู่กับให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวต่างๆ เช่น การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนให้เพียงพอ หากรักษาด้วยวิธีนี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือยังแย่ลงเรื่อยๆ แพทย์ก็พิจารณาเปลี่ยนการรักษาเป็นแนวทางอื่น อย่างการใช้เครื่องมือพิเศษ หรือ ‘การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ’ โดยแพทย์จะสรุปจากการวินิจฉัยอาการของโรค สุขภาพร่างกายของผู้ป่วยโดยรวม และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ประกอบกัน ในกรณีที่ตัดสินใจทำการผ่าตัด หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องทราบถึงวิธีการดูแลตนเองและปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวไว กลับมาหายดีได้เร็ว
การดูแลหลังผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ประกอบด้วย
- หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะต้องพักรักษาตัวในห้อง ICU เพื่อประเมินการทำงานของหัวใจ ปอด และระบบอื่นๆ ของร่างกายเป็นเวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมง นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในระหว่างการพักฟื้นด้วย
- หลังการผ่าตัดประมาณ 7-14 วัน เมื่อแผลผ่าตัดแห้งดีผู้ป่วยจึงสามารถอาบน้ำได้ และเพื่อป้องกันอาการเหนื่อยง่าย อาจต้องอาบน้ำในท่านั่งเก้าอี้ และไม่ใช้น้ำที่ร้อนเกินไป เพราะอาจทำให้ใจหวิวและเป็นลมได้
- ในขณะที่แผลยังไม่แห้งสนิท ควรทำแผลทุกวัน และระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำ หากรู้สึกเจ็บ ตึง บวม แดง ร้อน เกิดน้ำเหลืองหรือหนองที่แผล ต้องรีบแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ผู้ป่วยสามารถทำงานเบาๆ ได้ แต่ไม่ควรทำงานที่ออกแรงมาก จนกว่าจะครบ 6 สัปดาห์ หรือให้รอจนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากแพทย์
- เลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรทานอาหารเค็มๆ หรือรสจัด งดกินของหมักดอง ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- นอนหลับพักผ่อนในเพียงพอ เฉลี่ยวันละ 8-10 ชั่วโมง
- หากทำกิจกรรมใดๆ แล้วรู้สึกเหนื่อย ควรหยุดพักอย่างน้อย 20-30 นาทีก่อน
- วางแผนการออกกำลังกาย โดยไม่ควรหักโหม หากรู้สึกเจ็บแน่นหน้าอก เวียนศีรษะ หน้ามืด จะเป็นลม ใจสั่น หรือหอบเหนื่อย ต้องหยุดพักทันที และแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย
- ผู้ป่วยสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ เมื่อได้รับการทดสอบสุขภาพแล้วว่าไม่รู้สึกเหนื่อยขณะออกแรง
- เลิกการสูบบุหรี่
- เข้าพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบหลังการผ่าตัด
โดยทั่วไปแล้ว ‘การผ่าตัดลิ้นหัวใจเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างปลอดภัย’ เพราะศัลยแพทย์จะประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยแต่ละรายก่อนเข้ารับการผ่าตัดอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยสูงอายุ เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ได้ หรือเกิดภาวะฉุกเฉิน ก็อาจเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงหลังการผ่าตัดได้ ซึ่งได้แก่
- มีเลือดออกบริเวณบาดแผล
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เกิดลิ่มเลือด
- เส้นเลือดในสมองตีบ
- ภาวะบีบรัดของหัวใจ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการผ่าตัด
- อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน และน้ำหวาน
- อาหารที่ใช้น้ำมันปรุงอาหารมาก ๆ อย่างอาหารผัด หรือทอด
- อาหารที่มีรสจัด และอาหารหมักดองทุกชนิด
- ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- การสูบบุหรี่
หลังเข้ารับการ ‘ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ’ แล้ว ผู้ป่วยต้องให้ความสำคัญในการดูแลตนเอง เพื่อการฟื้นฟูที่ดี และช่วยให้อาการของโรคหายขาด ทั้งยังต้องไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามอาการและผลการรักษา
นพ. ชยุต ชีวะพฤกษ์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด
ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์