รู้จักร่างกายลงลึกถึง DNA บอกแนวโน้มการเกิดโรคในอนาคตได้
เมื่อพูดถึงการตรวจ DNA คนส่วนใหญ่มักนึกถึงการตรวจเพื่อพิสูจน์การเป็นผู้สืบสกุล แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการนำการตรวจ DNA หรือสารรหัสพันธุกรรมนั้น มาใช้ในวงการแพทย์เพื่อการดูแลสุขภาพแบบเจาะลึกเฉพาะราย
DNA คำอธิบายภาวะสุขภาพเฉพาะตัว
เพราะ DNA ของแต่ละคนจะมีความเฉพาะเจาะจงที่บอกได้ถึงคุณภาพของระบบการเผาผลาญ การตอบสนองต่อสารอาหารแต่ละชนิด การตอบสนองต่อความเครียดและการพักผ่อนนอนหลับ การตอบสนองต่อยาบางอย่าง และอื่นๆ อีกมาก ที่สำคัญไปกว่านั้น DNA ยังบอกได้ถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม และโรคเรื้อรังต่างๆ ที่มีสุขภาพพื้นฐานเป็นตัวกำหนด
ตรวจ DNA ได้…ไม่จำเป็นต้องเจาะเลือด
การตรวจ DNA จะใช้เพียงอุปกรณ์ไม้เล็กๆ พันสำลี เข้าไปขูดเบาๆ ที่กระพุ้งแก้มเพื่อเก็บเนื้อเยื่อ โดยก่อนเก็บจะต้องงดอาหารและเครื่องดื่มประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นแพทย์จะนัดให้เข้ามาฟังผลตรวจภายใน 1 เดือน
‘การตรวจ DNA ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค
แต่เป็นการวิเคราะห์ภาวะสุขภาพจากสารพันธุกรรม
เพื่อการวางแผนสุขภาพ และป้องกันโรคเสี่ยงอย่างตรงจุดแบบเฉพาะราย
และผลที่ได้จะเป็นของเราตลอดชีวิต’
รู้จัก DNA ของตัวเอง ก็ดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น
แพทย์จะนำข้อมูลที่ได้จากการตรวจวิเคราะห์สุขภาพกายในแบบเจาะลึกถึงระดับ DNA (Circle Vital) ไปวิเคราะห์และวางแผนสุขภาพให้กับผู้เข้ารับการตรวจ ด้วยการปรับการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันและลดความเสี่ยงโรคเฉพาะบุคคล อย่างโรคมะเร็งบางชนิด โรคหลอดเลือด ภาวะกระดูกพรุน และการตอบสนองต่อยาหรือการแพ้ยา ทั้งยังช่วยแนะนำการแก้ปัญหาในผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ผิวเสีย ด้วยการปรับไลฟ์สไตล์ โดยกำหนดอาหาร วางแผนโภชนาการให้เหมาะกับการตอบสนองของระบบการเผาผลาญ การดูดซึมสารอาหาร ความอยากอาหาร รวมไปถึงการได้รับวิตามิน เกลือแร่ หรืออาหารเสริมที่เหมาะสม กำหนดรูปแบบการออกกำลังกายให้สอดคล้องกับการใช้พลังงงานของเซลล์ ซึ่งทั้งหมดเป็นการปรับพฤติกรรมเพื่อการมีสุขภาพดีอย่างตรงจุด จึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังไปในตัว เพราะโรคเรื้อรังกว่า 90% มักเกิดจากการมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมาะสม
ลดน้ำหนักเองไม่สำเร็จ DNA (Circle Vital) ช่วยได้
หลายคนอาจคิดว่า น้ำหนักตัวสามารถลดลงได้เพียงแค่กินอาหารให้น้อยลงแล้วใช้พลังงานให้มากขึ้น แต่ที่คนส่วนใหญ่ลดน้ำหนักไม่สำเร็จนั้น หนึ่งในเหตุผลก็คือ ร่างกายของแต่ละคนมีระดับฮอร์โมนที่ไม่เหมือนกัน กระบวนการเผาผลาญอาหารแต่ละชนิดก็แตกต่างกัน ซึ่งปัจจุบัน มีการตรวจที่เรียกว่า DNA (Circle Vital) ที่แบ่งออกเป็น 14 กลุ่มหลัก 125 รายการตรวจ โดยใน 4 กลุ่มแรก จะได้ข้อมูลเพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและการลดน้ำหนัก ให้เป็นไปอย่างมีประสทธิภาพมากขึ้น ดังนี้
- Diet ความไวต่ออาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน คาเฟอีน แอลกอฮอล์ เกลือ รสชาติแล็กโทสและกลูเตน
- Nutrition ความต้องการสารอาหาร เช่น กรดโฟลิก วิตามินบี 6, บี 12 วิตามินซีและดี โอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ
- Sport & Fitness ประสิทธิภาพของการใช้ออกซิเจนและการฟื้นตัวของเซลล์ ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ สมรรถนะและความทนทาน ความแข็งแกร่งต่อการออกกำลังกาย
- Well-Being องค์รวมของสุขภาพอันครอบคลุมถึงการตอบสนองต่อการเผาผลาญ การอักเสบ การควบคุมความอยากอาหาร ความเสี่ยงโรคอ้วน และการขจัดสารพิษ (Detoxification)
ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์ในการวางแผนโภชนาการและการออกกำลังกายที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล ทำให้รู้ว่าควรเลือกรูปแบบการออกกำลังกายอย่างไร หนัก-เบา มาก-น้อยแค่ไหน จึงช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสสำเร็จได้มากกว่าการกินน้อยๆ แต่ออกกำลังกายหนักๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโยโย่เอฟเฟกซ์ในอนาคต
นอกจากนี้ การตรวจ DNA (Circle Vital) ยังทำให้เรารู้จักร่างกายตัวเองมากขึ้นในอีก 10 กลุ่ม คือ
- Stress & Sleep การตอบสนองต่อความเครียดและการนอนหลับ
- Skin สุขภาพผิว เพื่อการดูแลผิวพรรณอย่างเหมาะสม
- Ancestry เชื้อสายบรรพบุรุษ ว่าสืบทอดมาจากทวีปใดบ้าง กี่เปอร์เซ็นต์
- Physical Traits ลักษณะรูปร่าง สีผม สีตา ที่ควรจะเป็น
- Gender Traits บุคลิก ความโดดเด่นทางเพศจากฮอร์โมนเพศ
- Behavioural Traits โอกาสในการติดแอลกอฮอล์ หรือการเสพติดพฤติกรรมบางอย่าง
- Personality Traits บุคลิกภาพ ความเข้าอกเข้าใจ การเข้าสังคม
- Success Traits ความสามารถและความถนัดในด้านต่างๆ ที่จะช่วยให้เห็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง
- Music & Dance ความถนัดทางดนตรีและการเต้นรำ
- Pollution ความไวต่อมลภาวะ
ใครบ้างที่เหมาะกับการตรวจ DNA (Circle Vital) ?
- ผู้ที่รักและใส่ใจในการดูแลสุขภาพ ต้องการวางแผนสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ผู้ที่มีปัญหาผิวพรรณ ต้องการดูแลสุขภาพผิวพรรณจากภายใน
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการลดน้ำหนักที่ลองมาหลายวิธีแล้วแต่ไม่สำเร็จ
- ผู้ที่รักการออกกำลังกายหรือนักกีฬาที่ต้องการพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้น
- ผู้ที่ต้องการรู้จักและเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง เพื่อการพัฒนาศักยภาพในแต่ละด้าน
- ผู้ที่มีปัญหาเครียดง่าย เครียดสะสม นอนไม่หลับ
- ผู้ที่มีปัญหาแพ้มลภาวะ แพ้ฝุ่น
การมีอายุที่ยืนยาวอย่างมีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และองค์ประกอบหนึ่งที่จะช่วยให้ไปถึงจุดนั้นได้ ก็คือการรู้จักร่างกายของตนเองเป็นอย่างดีด้วยการตรวจ DNA (Circle Vital) ซึ่งจากรายงานในวารสาร The New England Journal of Medicine ได้บอกไว้ว่า องค์รวมของสุขภาพนั้นจะสัมพันธ์กับพื้นฐานพันธุกรรมหรือ DNA ถึง 30% พฤติกรรมหรือ Lifestyle 40% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะขึ้นอยู่กับระบบสาธารณสุข สภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมของคนๆ นั้น
ทั้งนี้ นอกจากเราจะสามารถปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกับ DNA ของเราเพื่อการมีสุขภาพดีจากการแนะนำของแพทย์แล้ว เรายังสามารถใช้ผลตรวจนี้เป็นแนวทางในวิเคราะห์และพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ซึ่งจะทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อีกด้วย