ในสภาวะที่เกิดโรคระบาดอย่างหนักที่ผ่านมา ทำให้การดูแลความสะอาดมือกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ขาดไม่ได้ และแอลอฮอล์ล้างมือก็ได้กลายเป็นไอเทมสำคัญของหลายๆ คน แล้วหากแอลกอฮอล์ที่เราใช้เกิดไปปนเปื้อนในอาหาร จะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ ก่อนอื่น เราจะพาไปรู้จักกับประเภทของแอลกอฮอล์กันก่อน
ประเภทของแอลกอฮอล์ล้างมือ
แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติเป็นสารต้านจุลชีพชนิดต่างๆ ทั้งไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา และด้วยคุณสมบัติที่สามารถฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ ได้ จึงนิยมนำมาใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตามร่างกาย โดยใช้กับบริเวณผิวหนัง รวมถึงใช้กับอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ช้อน ส้อม เป็นต้น ซึ่งแอลกอฮอล์ที่ใช้นิยมมาในรูปแบบดังนี้
- สเปรย์แอลกอฮอล์ ใช้ฉีดพ่นทำความสะอาดมือแบบไม่ต้องล้างน้ำเปล่า
- แอลกอฮอล์แบบแผ่น ใช้เช็ดทำความสะอาดได้ทันทีโดยไม่ต้องล้างน้ำ มักมีขนาดเล็ก
- สำลีชุบแอลกอฮอล์ คล้ายแอลกอฮอล์แบบแผ่น แต่จะอยู่ในรูปแบบก้อนสำลี ใช้เช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เจลแอลกอฮอล์ เป็นแอลกอฮอล์ล้างมือที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะนอกจากเนื้อเจลจะทำความสะอาดได้ดีแล้ว ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีอีกด้วย มักมาในรูปแบบหลอดหรือขวด
คุณสมบัติของแอลกอฮอล์ล้างมือ
แอลกอฮอล์ที่นิยมใช้ เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์สำหรับล้างมือ คือ เอทานอล (ethanol หรือ ethyl alcohol) มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไร้สีไร้กลิ่น และสามารถระเหยได้ดี การออกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์คือการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคชนิดต่างๆ ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา โดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิว จึงใช้เพื่อฆ่าเชื้อที่ผิวหนังและพื้นผิวต่างๆ ได้ดี
โดยทั่วไปนิยมใช้สารละลายแอลกอฮอล์ที่เข้มข้น 70% เพราะไม่ระเหยเร็วเกินไป มีปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการดูดซึมของจุลินทรีย์ และสามารถออกฤทธิ์ทำลายเซลล์เชื้อโรคได้ดี ในขณะที่แอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้น 95-100% จะระเหยไปอย่างรวดเร็ว ปริมาณน้ำไม่เพียงพอที่เซลล์ของเชื้อโรคจะดูดซึมเข้าไป จึงไม่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เข้มข้นต่ำกว่า 50% ประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อโรคจะไม่ค่อยมีเช่นกัน
เมื่อแอลกอฮอล์ล้างมือปนเปื้อนลงในอาหาร…จะเป็นอันตรายหรือไม่?
หากอาหารมีการปนเปื้อนของแอลกอฮอล์ล้างมือ จะทำให้เกิดข้อเสีย ดังนี้
- อาจทำให้อาหารเสียรสชาติได้
- แอลกอฮอล์ล้างมือที่ไม่ใช่ Food grade จะมีส่วนประกอบที่ไม่สามารถรับประทานได้ เช่น สารให้ความชุ่มชื้น สี สารแต่งกลิ่น หรือสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย หากได้รับในปริมาณมากจะเป็นพิษต่อร่างกายได้ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการใช้
แอลกอฮอล์ล้างมือ เหมาะสำหรับการใช้ในกรณีเร่งด่วน หรือไม่สะดวกที่จะล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ และเหมาะกับการกำจัดเชื้อโรคเท่านั้น ซึ่งไม่เหมือนการล้างมือที่จะทำให้มือสะอาดจากทั้งเชื้อโรคและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ด้วย และที่สำคัญคือควรระมัดระวังไม่ให้แอลกอฮล์ที่ใช้ล้างมือปนเปื้อนลงไปในอาหาร เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
นพ. อุดมรัช โกวิททวิพัฒน์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม
ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์