ห้องผ่าตัดอัจฉริยะ HYBRID OR ด้วยเทคโนโลยี Flexmove

พญาไท 2

1 นาที

พ. 01/03/2017

แชร์


Loading...
ห้องผ่าตัดอัจฉริยะ HYBRID OR ด้วยเทคโนโลยี Flexmove

ห้องผ่าตัดไฮบริดเหมาะกับการรักษาแบบใด?

ห้องผ่าตัดไฮบริด เหมาะสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีสายสวนทางหลอดเลือด และมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะต้องผ่าตัดแก้ไขหากเกิดข้อผิดพลาด เช่น

  • การใช้สายสวนรักษาเส้นเลือดใหญ่โป่งพอง Endovascular aneurysmoraphy EVAR ซึ่งลดผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้มาก
  • การเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยการใช้สายสวน Tran Arterial Valvular Implantation (TAVI) โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหัวใจ สาหรับผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัดใหญ่
  • การรักษาที่ต้องใช้การรักษาร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา เช่น การรักษาการเต้นของหัวใจผิดปกติ Electrophysiology เป็นต้น

ห้องผ่าตัดไฮบริดให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าการผ่าตัดทั่วไปอย่างไร?

  1. กระบวนการในการวินิจฉัยและรักษาเกิดขึ้นได้ในครั้งเดียวกัน (one visit)
  2. หัตถการปลอดภัย (safer procedures)
  3. ระยะเวลาทำหัตถการสั้นลง (shorter procedures)
  4. ได้ภาพทางรังสีระหว่างหัตถการ (faster imaging)
  5. ผลลัพธ์การรักษาดี (better outcomes)
  6. พักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลเวลาสั้นลง (shorter hospital stays)
  7. เหมาะกับผู้ป่วยที่มีภาวะโรคซับซ้อนและมีภาวะเสี่ยงสูง

Hybrid Operating Room ถูกออกแบบรองรับการผ่าตัดอย่างไร?

  1. ห้องจะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เพื่อการทำงานร่วมกันของสหสาขาวิชาชีพอย่างเป็นระบบ เช่น ศัลยแพทย์ รังสีแพทย์ อายุรแพทย์หัวใจ วิสัญญีแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่รังสีเทคนิค
  2. Hybrid Operating Room เป็นห้องปลอดเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากการผ่าตัด
  3. อุปกรณ์ในห้องผ่าตัดออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกไม่ขัดขวางการผ่าตัดโดยทั่วไป
  4. เทคโนโลยี Flexmove ที่สามารถถ่ายภาพเอกซ์เรย์ได้ 360 องศา ช่วยให้แพทย์ทาการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยซับซ้อนได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  5. เตียงผ่าตัดสามารถปรับองศาได้ ช่วยให้การผ่าตัดรักษามีความหลากหลายมากขึ้น

เทคโนโลยีครบวงจรอย่างไร?

อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในห้องผ่าตัดไฮบริดจะต้องประกอบด้วย

1. อุปกรณ์สำหรับผ่าตัดโดยทั่วไป

    • เตียงผ่าตัด
    • เครื่องมือผ่าตัด
    • เครื่องดมยาสลบ
    • ไฟส่องผ่าตัด

2. อุปกรณ์สาหรับการทำหัตถการใช้สายสวนหลอดเลือดผ่านผิวหนัง

  • อุปกรณ์เอกซเรย์ประสิทธิภาพสูงสามารถสร้างภาพที่ละเอียดได้ทันที
  • อุปกรณ์สาหรับวัดความดันเลือดจากสายสวนทันที

3. การทำงานร่วมกับระบบเอกซเรย์

สามารถรู้ขนาดและตำแหน่งของอวัยวะ เพื่อสร้างภาพสามมิติทำให้วางแผนการรักษาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งสามารถส่งสัญญาณภาพพร้อมเสียง สื่อสารโต้ตอบกันได้จากห้องผ่าตัดไปยังห้องประชุม เพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ในอนาคต และการทำงานร่วมกันระหว่างเตียงผ่าตัด

ห้องผ่าตัดไฮบริดเหมาะสำหรับผู้ป่วยประเภทใด

ผู้ป่วยกลุ่มโรคซับซ้อนที่ใช้การรักษาผ่านทางสายสวนร่วมระหว่างการผ่าตัดด้วยหรือมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะต้องผ่าตัดแก้ไขหากเกิดข้อผิดพลาด ได้แก่

1. กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardio Vascular Thoracic Surgery)

  • coronary artery bypass surgery, CABG ร่วมกับ coronary angiogram
  • ผู้ป่วยที่มีความจาเป็นต้องใส่ขดลวดเพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจด้วย stent grafts ในผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแดงโป่งฟอง (Thoracic Aorta Aneurysm)
  • การเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านทางสายสวนหลอดเลือด (Tran Arterial Valvular Implantation :TAVI)

2. กลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือด (Vascular Surgery)

  • การใช้สายสวนรักษาเส้นเลือดใหญ่โป่งพอง Endovascular aneurysmoraphy (EVAR) ซึ่งลดผล แทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้มาก

3. กลุ่มผู้ป่วยระบบประสาทและสมอง (Neurosurgery)

  • ผิดปกติของหลอดเลือดแดงและดา เป็นการต่อกันของเส้นเลือดดาและแดงไม่สมบูรณ์ ทาให้การเดินเลือดไม่ปกติ เกิดปมเหมือนลูกโป่งที่โป่งขึ้นเรื่อยๆ และแตกในที่สุดเป็นความผิดปกติของหลอดเลือดมาแต่กาเนิด ทาให้เกิดอาการชัก (Arteriovenous malformation)
  • เส้นเลือดโป่งพองในสมอง หรือ Cerebral aneurysm เราไม่ทราบสาเหตุการเกิดแน่ชัดแต่พบว่าชั้นของเส้นเลือดในสมองที่โป่งพองมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า และในชั้นกลางมีกล้ามเนื้อน้อยกว่า ส่วนมากเส้นเลือดที่โป่งพองจะอยู่ตรงที่เส้นเลือดมีการโค้ง อยู่ตรงมุมที่เส้นเลือดมีการแยกแขนงการเสื่อมของเส้นเลือด ร่วมกับความดันโลหิตสูงอาจเป็นปัจจัยที่เสริมในการเกิดร่วมกับเส้นเลือดที่ผิดปกติแต่กาเนิด นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นอีก เช่น จากอุบัติเหตุการติดเชื้อ

แชร์

Loading...
Loading...
Loading...