สัญญาณเตือน ที่บอกว่าคุณกำลังเข้าใกล้ “มะเร็งลำไส้ใหญ่”

พญาไท พหลโยธิน

1 นาที

พ. 07/02/2024

แชร์


Loading...
สัญญาณเตือน ที่บอกว่าคุณกำลังเข้าใกล้ “มะเร็งลำไส้ใหญ่”

มะเร็งลำไส้ใหญ่ คือโรคมะเร็งอันดับ 3 ที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากขึ้นทุกปี และยังเป็นภัยเงียบที่ผู้ป่วยมักไม่ค่อยทันสังเกตตัวเอง จะมารู้อีกทีก็กลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ไปแล้ว ทั้งที่จริงๆ ถ้าลองสังเกตดีๆ จะมีสัญญาณเตือนส่งมาเป็นระยะ เพราะฉะนั้น เราควรเช็คความผิดปกติของตัวเองให้ดี จะได้ป้องกันและรักษาได้ทันท่วงที

 

 

มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากอะไร?

เป็นความผิดปกติของเซลล์ที่ก่อตัวเป็นมะเร็งบริเวณลำไส้ใหญ่ที่มีความยาวเฉลี่ย 150-180 เซนติเมตร เกิดได้ตั้งแต่ส่วนต้นที่ติดกับลำไส้เล็ก ส่วนกลางลำไส้ ไปจนถึงส่วนปลายของลำไส้ใหญ่ที่อยู่ติดกับทวารหนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มเกิดขึ้นจากจุดเล็กๆ อย่างเช่น มีติ่งเนื้อเล็กๆ เกิดขึ้นภายในลำไส้ ถ้าตรวจพบแต่เนิ่นๆ ก็มีทางที่จะหายได้

 

 

5 สัญญาณผิดปกติ เสี่ยงเป็น “มะเร็งลำไส้ใหญ่”

มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ เพราะฉะนั้น เราก็อาจมีโอกาสเกิดมากกว่าคนปกติ 2/3 แต่ก็ไม่เสมอไปทั้งหมด กว่า 80% ของคนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่กลับเป็นผู้ป่วยที่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่คนที่มีโอกาสเสี่ยงมากว่าคนอื่นก็สามารถเลี่ยงได้ด้วยการดูแลควบคุมตัวเองอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามทานอาหารที่ช่วยระบบย่อยและขับถ่าย ไม่ปล่อยให้ท้องผูกเป็นระยะเวลานานๆ เลี่ยงอาหารปิ้ง ย่าง ทอด หรือมีไขมันสูง และควรหมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี พร้อมตรวจหาความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง อย่างน้อยปีละ 1ครั้ง

 

 

ท้องผูกเป็นปกติ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของคนที่เสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หลายๆ คนคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะแค่ท้องผูกเอง หากนานๆ เป็นทีก็คงไม่เป็นอะไร แต่คนที่มีอาการท้องผูกติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ก็แปลว่าระบบขับถ่ายไม่ดี แสดงว่าอาจมีความผิดปกติบางอย่างขึ้นที่บริเวณลำไส้ เช่น ลำไส้อักเสบ ลำไส้แปรปรวน ถ้าลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและดื่มน้ำให้มากขึ้นแล้ว แต่ยังท้องผูกต่อเนื่องหรืออาการไม่ดีขึ้นเลย ก็ควรจะรีบปรึกษาแพทย์แต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยปละละเลยไว้นานจะดีที่สุด

 

 

ถ่ายอุจจาระมีมูกเลือดปะปน เวลาขับถ่ายก็ต้องหมั่นคอยสังเกต เพราะจะช่วยให้เราทราบความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ หากใครที่ขับถ่ายแล้วมีมูกเลือดปนออกมาด้วยบ่อยๆ แสดงว่าเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว และลองสังเกตต่อไปว่าอุจจาระมีขนาดเล็กผิดปกติ ก็ควรปรึกษาแพทย์และบอกอาการที่เกิดขึ้นนี้ จะได้ช่วยกันค้นหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 

 

น้ำหนักลดลงทั้งที่กินอาหารเท่าเดิม นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาการที่แสดงออกมาทางร่างกาย แต่หลายคนอาจจะคิดว่าโชคดีเหลือเกินที่กินเท่าเดิมแต่น้ำหนักกลับลดลง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำถ้าร่างกายปกติดี หากช่วงนั้นเรารับประทานอาหารเท่าเดิม ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเป็นพิเศษ แต่น้ำหนักกลับลดฮวบฮาบ หรือลดลงผิดปกติ นี่ก็เป็นอาการอย่างหนึ่งที่บอกถึงความผิดปกติของร่างกาย ที่เราควรรีบพบแพทย์เป็นการด่วน

 

 

ระบบขับถ่ายผิดปกติ เดี๋ยวท้องผูก เดี๋ยวท้องเสีย อีกหนึ่งอาการที่สังเกตได้ของคนที่เป็นมะเร็งลำไส้ในระยะเริ่มต้น ซึ่งมักจะมีอาการท้องเสียสลับกับท้องผูกแบบที่เป็นเรื้อรังไม่หายขาดสักที หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เลือกกินแต่อาหารปรุงสุกใหม่แล้วยังท้องเสีย ก็แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบขับถ่ายอย่างแน่นอน

 

 

มะเร็งลำไส้ใหญ่…ใครคือกลุ่มเสี่ยง

ปัจจุบันความเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ปัจจัยหลักๆ ยังคงเป็นเรื่องของพันธุกรรม ประมาณ 60 – 70% ของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ในปัจจุบันนี้เกิดจากพันธุกรรม ส่วนอีกประมาณ 10 – 15% สาเหตุมาจากการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารจำพวกเนื้อแดง อาหารที่มีสารหมักดอง หรือสารไนโตรซามีนก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งมากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่สังเกตได้ง่าย คือในกลุ่มที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ที่อายุน้อยกว่า 60 ปี จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าคนทั่วไป ส่วนอีกหนึ่งอาการที่มักได้ยินควบคู่มากับมะเร็งลำไส้ใหญ่นั่นคือ ประมาณ 90% เป็นภาวะลำไส้ใหญ่อุดตันที่เกิดจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ มาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบของกระเปาะลำไส้ การติดเชื้อในทางเดินลำไส้ใหญ่ หรือการบิดพับของลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อย เพราะเมื่อเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่แล้ว จะทำให้ช่อง หรือรูของลำไส้ใหญ่หดตัวเล็กลง ไปขวางทางเดินของลำไส้ทำให้เกิดภาวะลำไส้อุดตัน ทำให้ถ่ายไม่ออก หรือไม่สามารถผายลมได้ ท้องอืดมากขึ้น ปวดท้อง มวนท้อง มีอาการอาเจียน กินอาหารไม่ได้


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...