เราเชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงได้ยินคำว่า “ซีสต์” กันอยู่บ่อยๆ แต่มีใครเคยรู้ว่าซีสต์ที่ว่านี้เกิดขึ้นมาได้ยังไง แล้วมันมีอันตรายต่อร่างกายเรายังไงบ้าง
ถุงน้ำรังไข่ โรคสุดฮิตที่ต้องรีบเคลียร์
ถุงน้ำรังไข่ หรือซีสต์ที่รังไข่ หนึ่งในโรคที่สาวๆ ต้องรีบตัดสินใจเมื่อได้พบเจอ ถึงแม้ว่าถุงน้ำ หรือซีสต์นี้อาจจะเกิดขึ้นแล้วฝ่อไปเองได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่มันก็ยังมีถุงน้ำบางอย่างที่ต้องได้รับการผ่าตัด เพราะด้วยฮอร์โมนแล้วไม่สามารถยุบเองได้ อาการนั้นจะรุนแรงมาก ปวดท้องจนเดินไม่ได้ ซึ่งมักจะเกิดจากการที่ถุงน้ำแตก บิดขั้ว ถ้าถุงน้ำรังไข่แตกอาจจะทำให้มีพังผืดในท้อง ทำให้ปวดท้องน้อยเรื้อรัง ลามไปถึงการมีลูกยาก ถ้ามีการบิดขั้วเกิดขึ้นอาจทำให้ต้องเสียรังไข่ข้างนั้นไปเลยก็ได้ และถ้าปล่อยไว้นานก็มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้ในที่สุด
ซีสต์ที่รังไข่เกิดขึ้นมาได้ยังไง?
ปกติแล้วซีสต์ที่รังไข่จะสัมพันธ์กับรังไข่ เมื่อมีการไข่ตกที่ผิดปกติ มีระดับฮอร์โมนที่แปรปรวน อาจจะมีการคั่งเกิดเป็นถุงน้ำในรังไข่ หรือไข่ไม่ตกก็เกิดเป็นถุงน้ำเล็กๆ ได้หลายใบ หรือมีการแบ่งเซลล์ในรังไข่ที่ผิดปกติ จนเกิดเป็นถุงน้ำ คนอายุน้อยๆ มักจะเป็นซีสต์ธรรมดาและหายเองได้ แต่ถ้าพบในวัยที่ใกล้หมดประจำเดือน ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นมะเร็งได้
ซีสต์ในรังไข่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแสดงอาการเพราะซีสต์มักมีขนาดเล็ก แต่บางคนอาจมีอาการปวดหน่วงๆ ที่ท้องน้อย ตึงๆ แน่นๆ ในท้องน้อย หรือปวดท้องประจำเดือนผิดปกติ อาจมีอาการท้องอืด รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าในกรณีที่ถุงน้ำมีการปริหรือแตกออกก็จะมีอาการปวดท้องรุนแรงเฉียบพลัน หรือหากซีสต์ที่รังไข่มีขนาดใหญ่ ถุงน้ำเกิดการบิดตัวก็ทำให้ปวดท้องรุนแรงเฉียบพลันได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง
สัญญาณเตือนที่มาพร้อมความเสี่ยง
- มีอาการปวดท้องน้อย และชอบปวดช่วงมีประจำเดือน
- รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการที่ซีสต์โต และไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ
- หน้าท้องโตขึ้นผิดปกติ
- ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากขั้วถุงน้ำรังไข่บิด หรือแตก
- ประจำเดือนมามาก หรือมาประปริบกระปรอยผิดปกติ มีอาการปวดที่รุนแรงมากขึ้นทุกเดือน
เลือกวิธีรักษาตามสาเหตุ
ผู้ที่มีอาการดังกล่าวมาควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องจากสูตินรีแพทย์ ซึ่งการตรวจโดยส่วนใหญ่ได้แก่ การซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจภายใน การอัลตราซาวด์เพื่อดูอวัยวะในอุ้งเชิงกราน สามารถตรวจได้สองวิธีคือ ตรวจผ่านทางหน้าท้อง หรือตรวจผ่านทางช่องคลอด ซึ่งจะเห็นภาพเฉพาะบริเวณได้ชัดเจน สามารถมองเห็นรังไข่ได้อย่างละเอียด ขั้นตอนการตรวจคล้ายกับการตรวจภายในโดยไม่เจ็บปวดจึงเป็นที่นิยม ในปัจจุบันจะสามารถบอกขนาด รูปร่าง จำนวน ตำแหน่งของก้อน ลักษณะของก้อนซีสต์ สามารถตรวจดูเส้นเลือดภายในก้อน และบางกรณีอาจต้องตรวจเพิ่มเติม อาทิ เอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) จากนั้นแพทย์จะพิจารณาตามสาเหตุคือ ซีสต์ที่เกิดจากการทำหน้าที่ของรังไข่ที่ผิดปกติสามารถหายได้เอง เพียงแต่ต้องตรวจติดตามด้วยการอัลตราซาวด์ แต่ถ้าเป็นเนื้องอกปกติ ก็สามารถจัดการด้วยการผ่าตัด ในกรณีที่เป็นมะเร็งรังไข่ อาจต้องรับการผ่าตัดและให้เคมีบำบัด ซึ่งการตรวจพบตั้งแต่ในระยะแรกๆ จะทำให้เห็นผลที่ดี และทันท่วงที
ผ่าตัดผ่านกล้อง ตัวช่วยการกำจัดถุงน้ำรังไข่
การผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ผ่านกล้อง (Lap Cystectomy) เป็นการเจาะผ่านช่องท้องประมาณ 3 จุด เพื่อสอดอุปกรณ์ผ่าตัด และกล้องขนาดเล็กเข้าไปบันทึกภาพ และส่งภาพมายังจอรับซึ่งทำหน้าที่แทนตาของแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเล็กๆ ที่ช่วยในการผ่าตัด เช่นเครื่องมือจับเนื้อเยื่อ เครื่องมือจี้ห้ามเลือด เครื่องมือตัดและเย็บ การผ่าตัดผ่านกล้องนี้ยังสามารถเข้าไปถึงจุดเล็กๆ ที่มือแพทย์ไม่สามารถเข้าไปได้ เกิดความกระทบกระเทือนอวัยวะภายในน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ทำให้แผลมีขนาดเล็กประมาณ 0.5–1 เซ็นติเมตรเท่านั้น