มีหลายงานวิจัยที่ระบุว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้า เป็นวิธีที่ช่วยผู้ที่ติดบุหรี่แบบมวนได้ ไม่มีผลต่อสุขภาพจริงหรือ ? ข้อมูลจาก NASEM (National Academies of Science, Engineering and Medicine, USA) ได้รายงานว่า 80% ของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่ จะหันมาติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน บุหรี่ไฟฟ้าไม่สามารถทำให้หยุดนิโคตินแต่เป็นเพียงหันมาเสพนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าแทนเท่านั้น
โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน เป็นกลุ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก หลายคนไม่ได้สูบบุหรี่มวนมากก่อน แต่บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเหมือนเทรนด์แฟชั่น การพกพาที่สะดวก ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น และยังไม่มีกฎหมายควบคุมห้ามขายในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งทำให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ เป็นจำนวนมาก
“นพ.ชนทัต ไตรทอง อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤตทางเดินหายใจ รพ.พญาไท 2” กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการโฆษณาถึงสรรพคุณบุหรี่ไฟฟ้าที่ทำให้เลิกบุหรี่แบบมวน หรือใช้ทดแทนกันได้ ยังไม่มีงานวิจัยใดพบว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่มีงานวิจัยที่ให้ผู้ป่วยที่ทดลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่มวนผลปรากฎว่าผู้ป่วยไม่สามารถเลิกได้ และสูบบุหรี่ไฟฟ้าควบคู่กับบุหรี่มวน สรุปคือ “บุหรี่ไฟฟ้าไม่สามารถทำให้เลิกบุหรี่มวนได้ จึงเป็นความเชื่อที่ผิด”
บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีโคนิติน หรือนิโคตินน้อยกว่าบุหรี่มวนจริงหรือ ?
ผลสรุป คือ บุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคติน และมีแนวโน้มที่จะสูบมากกว่าบุหรี่มวน เพราะฉะนั้นในภาพรวมผู้สูบจะได้รับนิโคตินสูงกว่าบุหรี่ธรรมดา
จากข้อมูลการวิจัย พบว่าในบุหรี่ไฟฟ้า 1 มิลลิลิตร จะพบนิโคตินมากถึง 40 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับบุหรี่มวนถึง 1-2 ซอง งานวิจัยยังพบอีกว่าผู้ป่วยที่เลิกบุหรี่มวนและไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งสามารถสูบได้ง่ายมากขึ้น ส่งผลให้ความถี่ในการสูบต่อวันเพิ่มมากขึ้นด้วย
บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อทางเดินหายใจอย่างรุนแรงอย่างไร
บุหรี่ไฟฟ้านอกจากจะมีนิโคตินแล้ว ยังมีสารประกอบในรูปแบบสารระเหยที่สามารถจุดติดไฟได้ ส่งผลโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจในระยะเบื้องต้นอาจทำให้แสบจมูก คัดจมูก ระคายคอ ในบางรายแม้สูบครั้งแรกก็อาจมีอาการดังกล่าว ทำให้เกิดการไอต่อเนื่องยาวนาน
การส่งผลกระทบต่อปอดโดยตรง บุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้การหายใจภายในเซลล์หลอดลมและถุงลมที่มีหน้าที่ดักจับเชื้อโรคก่อนลงไปถึงปอดมีประสิทธิภาพการทำงานแย่ลง ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจได้ง่ายมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดปอดอักเสบอย่างรุนแรงทันที มีภาวะอาการหายใจลำบาก หรือล้มเหลวอย่างเฉียบพลัน (acute respiratory distress syndrome) หรือ ARDS จำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและเข้ารับการรักษาในห้อง ICU อย่างเร่งด่วน แต่ถึงแม้ว่าจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ปอดก็ไม่สามารถกลับมามีประสิทธิภาพได้ดังเดิม
แม้จะยังระบุไม่ได้ถึงผลเสียระยะยาวของบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นสิ่งใหม่ที่คนนิยมใช้กัน ต่างจากบุหรี่มวนที่เห็นผลเสียจากการสูบที่ส่งผลกระทบที่เห็นได้ชัดอย่างมะเร็งปอด ซึ่งในต่างประเทศมีการทดลองกับหนู พบว่า หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเวลานาน ก็จะทำให้เป็นมะเร็งปอดและมะเร็งกระเพาะอาหารได้
กลุ่มเด็กและเยาวชน เมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไป จะเกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างไร
บุหรี่ไฟฟ้ามีปริมาณนิโคตินที่สูงในเด็กที่เป็นวัยเจริญพันธุ์ พัฒนาการด้านสมองยังโตได้ไม่เต็มที่ หากเริ่มสูบตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะทำให้พัฒนาการของสมองลดลง ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่มวน หรือบุหรี่ไฟฟ้าก็จะส่งผลโดยตรงต่อสมองของเด็ก ในส่วนของสารระเหยก็จะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้เรื้อรังในอนาคตได้
ผู้ป่วยกลุ่มโรคใด เสี่ยงต่อบุหรี่ไฟฟ้า
จริง ๆ แล้วบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงต่อสุขภาพของคนทุกกลุ่ม แต่กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด คือ ในกลุ่มที่มีโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เช่น ถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หลอดลมโป่งพอง โรคเหล่านี้มีความเสียหายของเซลล์ที่ระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว เมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปก็จะส่งผลให้อาการแย่มากขึ้น หรือในกรณีที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ เมื่อสูบเข้าไปก็จะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้กำเริบขึ้น
การหยุดสูบที่มีประสิทธิภาพ
การเลิกบุหรี่ที่ดีที่สุด คือ ความมุ่งมั่นของจิตใจที่หยุดสูบ หากิจกรรมทำเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นไม่ให้กลับไปสูบอีก ในแง่ของสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีการสูบก็จะทำให้เลิกยากมากยิ่งขึ้น และหากจัดอยู่ในกลุ่มที่ติดบุหรี่มากควรปรึกษาแพทย์ เข้ารับการรักษา โดยใช้ยาเลิกบุหรี่เป็นตัวช่วย เนื่องจากในช่วงแรกการเลิกอาจมีอาการหงุดหงิด กระวนกระวายใจ
