ข้อเท้าและเท้าของคนเราถือเป็นอวัยวะที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นใดในร่างกาย เพราะช่วยให้เราสามารถเดินไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย และนับว่าเป็นอวัยวะหนึ่งที่ถูกใช้งานบ่อย ในระหว่างที่เราเดินนั้นเท้าและข้อเท้าจะต้องรับน้ำหนักตัวในการเคลื่อนไหวต่างๆ ของเรา ปีหนึ่งๆ จะมีผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเท้าและเท้าเป็นจำนวนมาก
ปวดข้อเท้าและเท้ามีสาเหตุและอาการดังนี้
- ข้อเท้าพลิก หรือแพลง เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกครั้งที่เราทำกิจกรรมต่างๆ พบมากในหมู่นักกีฬา หรือแม้แต่การใส่รองเท้าส้นสูงก็ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการข้อเท้าพลิกได้ทั้งสิ้นสาเหตุที่เท้าพลิกหรือแพลงนั้นเนื่องจากเอ็นและเนื้อเยื่อรอบข้อเท้าฉีกขาด อาจจะเป็นเพียงบางส่วนหรือทั้งเส้น ทำให้ข้อเท้าไม่มั่นคง ผู้ป่วยจะมีอาการบวมและปวดบริเวณข้อเท้า เป็นรอยเขียวๆ รอบข้อเท้าเนื่องจากการฉีกขาดของเส้นเลือด ควรประคบน้ำแข็งบริเวณข้อเท้าทันทีที่ได้รับอุบัติเหตุเพื่อช่วยลดอาการอักเสบ อย่านวดหรือรักษาด้วยวิธีการอื่นหากยังไม่ได้รับการวินิจฉัย เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายโดยเฉพาะบริเวณที่มีอาการปวด อาจมีการตรวจทางรังสีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีกระดูกหัก อาการนี้ใช้เวลารักษาประมาณ 6-8 สัปดาห์ แต่ภาวะบวมจะหายก่อน แพทย์จะให้พักเท้ามากที่สุดโดยอาจจะใส่เฝือก ใช้ผ้าพันเพื่อลดอาการบวมหรือใช้ไม้เท้าช่วยพยุงน้ำหนัก เมื่ออาการดีขึ้นให้เริ่มต้นบริหารโดยการขยับข้อเท้าทุกทิศทาง เช่น หมุนเข้าเท้า กระดกเท้า เหยียดเท้า บริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเท้าโดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ใช้กระดกเท้า ข้อสำคัญของการบริหารต้องไม่ทำให้เกิดการเจ็บของข้อ
- เอ็นร้อยหวายอักเสบ มักจะเกิดกับกีฬาที่ต้องใช้กล้ามเนื้อน่องมากเช่น บาสเกตบอล กระโดดสูงจะมีอาการปวดบริเวณเอ็นร้อยหวาย ผู้ป่วยจะมีอาการปวดที่เอ็นร้อยหวายระหว่างการออกกำลังกาย และจะปวดมากขึ้นเมื่อหยุดออกกำลังกาย เมื่อกดบริเวณเอ็นร้อยหวายจะเกิดอาการปวด หรือเมื่อตรวจรองเท้าจะพบรอยสึกที่ผิดปกติ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือหยุดออกกำลังโดยทันที ช่วงที่ปวดใหม่ๆ ให้ประคบด้วยน้ำแข็งประมาณ 20 นาที ทุก 4 ชั่วโมง ใส่รองเท้าที่หนุนส้นให้สูงขึ้นเพื่อลดแรงกดดันที่เอ็นร้อยหวาย ใช้ผ้าพัน ให้ยกเท้าสูง อย่าใส่รองเท้าที่พื้นราบและไม่ควรเดินเท้าเปล่า
- เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ เนื่องจากการออกกำลังที่ไม่ถูกต้อง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดฝ่าเท้าในตอนเช้า เริ่มต้นด้วยอาการปวดฝ่าเท้าเล็กน้อย แรกๆ จะปวดหลังออกกำลังกาย ต่อมาจะปวดเวลาเดินหลังจากตื่นนอน เมื่อเดินไปสักพักอาการปวดจะดีขึ้น ในการตรวจร่างกายพบว่าถ้ากดบริเวณกระดูกส้นเท้าจะทำให้เกิดอาการปวด หากไม่รักษาอาจจะมีผลกับข้อเท้า เข่า หรือหลัง เนื่องจากทำให้การเดินผิดปกติ เมื่อมีอาการปวดให้พักการใช้งานหนัก ลดน้ำหนักจนอาการปวดดีขึ้น ประคบน้ำแข็งครั้งละ 20 นาทีวันละ 3 ครั้งเพื่อลดอาการอักเสบ ใส่รองเท้าที่มีแผ่นรองรับการกระแทก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นใน 2-3 เดือน
การป้องกันการได้รับบาดเจ็บบริเวณเท้าและข้อเท้า
พยายามอบอุ่นร่างกายก่อนการออกกำลังกายทุกครั้ง สังเกตร่างกายตนเองหากมีอาการปวดข้อเท้าหรือปวดฝ่าเท้าให้หยุดวิ่ง จัดหาเครื่องป้องกันมาใส่ให้เหมาะสมกับกีฬา เลือกรองเท้าและถุงเท้าอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม นอกจากเหนือจากสาเหตุดังกล่าวมาข้างต้น อาการปวดข้อเท้าอาจเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุมากๆ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของกระดูก โดยเฉพาะคนที่ขาดแคลเซียมมาตั้งแต่วัยเด็กและวัยรุ่น เมื่อแก่ตัวจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูกได้ง่าย