การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ในปี 2024 ยังนิยมอยู่ไหม? มีข้อดีอะไรบ้าง ?

พญาไท 3

2 นาที

จ. 04/11/2024

แชร์


Loading...
การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ในปี 2024 ยังนิยมอยู่ไหม? มีข้อดีอะไรบ้าง ?

การปลูกผมเป็นวิธีการรักษาภาวะผมบางและศีรษะล้านที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านอย่างถาวร การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นหนึ่งในวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ใครที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน อยากรู้ข้อดีการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE มีอะไรบ้าง ? ทำแล้วคุ้มค่าแค่ไหน ? สามารถปลูกผมถาวรได้จริงหรือไม่ ? หาคำตอบทั้งหมดได้ในบทความนี้

 

การปลูกผมคืออะไร?

การปลูกผมเป็นวิธีการศัลยกรรมที่ใช้แก้ไขปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน (Hair Restoration Surgery ) โดยการย้ายเส้นผมจากบริเวณที่มีผมหนาแน่น (โดยทั่วไปคือบริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างของศีรษะ) ไปยังบริเวณที่ผมบางหรือไม่มีผม วิธีการนี้ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาผมบางสามารถมีผมที่ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามได้อีกครั้ง

 

การปลูกผม มีกี่วิธี?

การปลูกผมหลัก ๆ จะ มี 2 วิธีคือ FUT และ FUE

  • การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) FUT หรือที่เรียกว่า ” Strip Method ” เป็นวิธีการปลูกผมแบบดั้งเดิม วิธีนี้ศัลยแพทย์จะตัดแถบหนังศีรษะที่มีเส้นผมออกมาจากบริเวณด้านหลังของศีรษะ จากนั้นจึงแยกเส้นผมออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ วิธีนี้สามารถย้ายเส้นผมได้จำนวนมากในครั้งเดียว แต่จะทิ้งรอยแผลเป็นเส้นยาวไว้บริเวณที่เก็บเส้นผม จึงไม่ค่อยได้รับความนิยม
  • การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) FUE เป็นวิธีการปลูกผมที่ทันสมัยมากขึ้น ศัลยแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษเจาะเก็บเส้นผมทีละเส้นหรือกลุ่มเล็ก ๆ จากบริเวณอื่นที่มีผม (donor area) แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยหัวเจาะเก็บเส้นผมมีขนาดเล็กเพียง 0.8-1.2 มม. เท่านั้น ถือเป็นการปลูกผมถาวรเทคนิคมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่ให้ผลเรื่องความสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ และมีระยะเวลาฟื้นตัวที่สั้นกว่า FUT แบบเดิม

 

ข้อดีการปลูกผมเทคนิค FUE ที่ทำให้ได้รับความนิยม

ปัจจุบันเทคนิคปลูกผม FUE ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะเป็นวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหตุผลที่ FUE ยังคงเป็นที่นิยมเพราะมีข้อดีที่ทำแล้วคุ้มค่ามีดังนี้

 

1. การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ให้ผลลัพธ์ดี เจ็บตัวน้อย

ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่นำมาใช้ในการปลูกผมแบบ FUE ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระบวนการปลูกผมมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดี เช่น

  • การใช้เครื่องมือเจาะรากผมที่ทันสมัย (Smart FUE) ทำให้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น
  • เทคนิค Non-Shave FUE ที่ไม่จำเป็นต้องโกนผมทั้งศีรษะ
  • การใช้หัวเจาะที่ถูกออกแบบมาอย่างมีประสิทธิภาพ (Smart designed punch) ทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อน้อยลง รวมถึงความเจ็บปวดก็น้อยลงด้วย

วิธีการการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE จะมีความคล้ายกับการปลูกถ่ายอวัยวะ เนื่องจากเป็นการนำเซลล์รากผมที่มีความแข็งแรง ซึ่งรวมถึงเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) มาปลูกถ่ายบนหนังศีรษะในตำแหน่งใหม่ที่ต้องการ จากนั้นรากผม และเซลล์ที่ทำการปลูกถ่ายจะค่อยๆ งอกขึ้นมาใหม่ เป็นวิธีปลูกผมถาวรที่มีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเนื่องจากเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของคนไข้เอง

 

2. FUE ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เปลี่ยนทรงผมได้

การปลูกผมเทคนิค FUE จะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เนื่องจากสามารถเลือกเก็บและปลูกเส้นผมได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถสร้างเส้นผมบริเวณขอบผมที่ดูเป็นธรรมชาติได้ ข้อสำคัญผู้เข้ารับการปลูกผมสามารถเลือกทรงผมได้ เนื่องจาก FUE ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ ผู้เข้ารับการปลูกผมจึงมีอิสระในการเลือกทรงผมได้มากกว่า รวมถึงสามารถไว้ผมสั้นหรือโกนผมได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น

 

3. หลังปลูกผมเทคนิค FUE สามารถฟื้นตัวได้รวดเร็ว

ผู้เข้ารับการปลูกผมด้วยวิธี FUE สามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจกรรมปกติได้เร็วกว่า FUT แผลหายเร็วขึ้นและลดโอกาสการเกิดแผลเป็น โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด ในกรณีต้องการกลับมาปลูกผมเพิ่มเติมในอนาคตก็สามารถทำ FUE ซ้ำได้โดยมีข้อจำกัดเรื่องแผลเป็นน้อยกว่า

 

4. สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้

เทคนิคการปลูกผม FUE สามารถทำร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เช่น การฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือการใช้ยารักษาผมบาง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้

 

ระยะเวลาเห็นผลหลังการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE

การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE สามารถเห็นผลได้ชัดเจน ในช่วง 6 เดือน -1 ปี โดยจะสังเกตเห็นว่ามีจะผมงอกขึ้นมาใหม่ แต่ทั้งนี้ระยะเวลาการเห็นผลหลังจากการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE จะแตกต่างกันตามแต่ละบุคคล

 

ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE คุ้มค่าแค่ไหน ?

การปลูกผม FUE สามารถเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ผมใหม่ที่งอกขึ้นมาเป็นผมที่แข็งแรงกว่าเดิม ไม่หลุดร่วงง่าย ตำแหน่งและทิศทางผมใหม่ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งการปลูกผม FUE เป็นการปลูกผมแบบแผลเล็ก จึงทำให้การปลูกผม FUE มีความคุ้มค่าแม้จะราคาสูงกว่าการปลูกผมแบบปกติ เนื่องจากต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูงของแพทย์ผู้ทำการรักษา สรุป การปลูกผม FUE ช่วยเสริมความมั่นใจ ได้มากยิ่งขึ้น มาถึงตรงนี้จะเห็นว่าการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้อดีหลายประการ ตามที่กล่าวมา เช่น ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ การฟื้นตัวที่รวดเร็ว และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ถือเป็นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ

 

“ปลูกผมถาวร FUE เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ”

อย่างไรก็ตามการปลูกผมเทคนิค FUE จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูงของแพทย์ผู้ทำการรักษา ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์เส้นผมและหนังศีรษะ โรงพยาบาลพญาไท 3 โทร.02-467-1111 ต่อ 1432

 

พญ. กุลกานต์ อมรพัฒนา

ศูนย์เส้นผมและหนังศีรษะ โรงพยาบาลพญาไท 3

โทร.02-467-1111 ต่อ 1432


แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...