หน้ากระตุกครึ่งซีกเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่วัยกลางคน พบได้ทั้งเพศชายและหญิงในอัตราเท่าๆ กัน เกิดขึ้นจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อใบหน้า ได้แก่ กล้ามเนื้อหน้าผาก กล้ามเนื้อรอบดวงตา กล้ามเนื้อบริเวณแก้ม และกล้ามเนื้อบริเวณคาง
สาเหตุหลักของหน้ากระตุกครึ่งซีก
- กลุ่มที่มีรอยโรค ซึ่งรอยโรคเหล่านี้จะอยู่ที่ก้านสมอง อาจเป็นเนื้องอก หรือมีการอักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุ นอกจากนี้อาจมีเรื่องของอุบัติเหตุที่ทำให้มีเส้นเลือดตีบ หรือเส้นเลือดแตกในสมองที่ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทเหล่านี้
- มีความเชื่อกันว่าเกิดจากมีหลอดเลือดแดงที่ไปพาดผ่าน และมีการกระตุ้นเส้นประสาทเฟเชียล (Facial Nerve) ทำให้เส้นประสาทจุดนี้ทำหน้าที่ผิดปกติ ส่งผลต่อสัญญาณประสาทที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อผิดปกติไป จึงเกิดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการกระตุก
การอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ภาวะความเครียดทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความกังวลมาก ความหงุดหงิด โมโห เป็นต้น บางรายมีการหดเกร็งค้าง หรือเรียกว่าโรคดิสโทเนีย () ซึ่งถือเป็นอีกโรคหนึ่ง ไม่ใช่โรคกล้ามเนื้อกระตุกใบหน้า
การตรวจวินิจฉัย
การตรวจเพื่อหารอยโรค ได้แก่ การทำ MRI หรือการตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อจะดูรอยโรคที่ก้านสมอง ซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยโรคนี้โดยพิจารณาจากอาการผู้ป่วยเป็นหลัก และรักษาตามอาการ เช่น หากพบเนื้องอกก็รักษาตามระยะ แต่หากไม่ทราบสาเหตุสามารถรักษาได้ 2 แบบ คือ
- การรับประทานยา ซึ่งช่วยให้การกกระตุกของหน้าลดลงได้ และยังมียาฉีดเพื่อระงับการกระตุกของกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลง
- การผ่าตัดแยกหลอดเลือดแดงออกจากเส้นประสาท ซึ่งช่วยให้อาการกระตุกหายขาดได้ ในผู้ป่วยบางราย