ทำความรู้จักบทบาทและหน้าที่ของไต

พญาไท 2

1 นาที

อ. 27/02/2024

แชร์


Loading...
ทำความรู้จักบทบาทและหน้าที่ของไต

ไตของคนเรามี 2 ข้าง อยู่ด้านหลังใต้ชายโครงบริเวณบั่นเอว มีรูปร่างคล้ายถั่ว มีขนาดประมาณ 10 – 13 เซนติเมตร ในผู้ใหญ่ มีหน้าที่ในการขจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากเลือด และออกไปเป็นน้ำปัสสาวะภายในไตประกอบไปด้วย หน่วยไต หรือ เนฟรอน (nephron) จำนวนมากมายกล่าว คือ มีข้างละ 1 ล้านหน่วยไต หน่วยไตจะเสื่อมไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น และไม่สามารถสร้างเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนในส่วนที่เสียไปได้ไตมีหน้าที่สำคัญ 3 ประการ คือ

  1. กำจัดเองเสียต่าง ๆ ผ่านทางปัสสาวะ ได้แก่ ยูเรีย (บียูเอ็น) ครีเอตรีนีน กรดยูริค ยาและสารแปลกปลอมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถดูดกลับสารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายไว้ เช่น น้ำตาล โปรตีน เป็นต้น
  2. รักษาสมดุลของน้ำและเกลือแในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เกลือแร่ต่าง ๆ ประกอบด้วยเกลือโซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสเฟต และกรดในร่างกาย
  3. สร้างฮอร์โมนหลายชนิด เช่น
    1. สารที่ช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น สารอีริโทรโพอิติน (erythropoietin)
    2. สารที่เสริมสร้างกระดูก ได้แก่ วิตามินดี ทำให้มีการดูดซึมแคลเซียมที่ลำไส้และไตมากขึ้น
    3. สารที่ควบคุมความดันโลหิต เช่น เรนิน ซึ่งทำให้มีระดับความ ดันโลหิตสูงขึ้น

โรคไตเสื่อม หรือไตวายคืออะไร

โรคไตเสื่อม หรือไตวาย คือ ภาวะที่มีการทำงานของไตลดลง สามารถแบ่งภาวะไตวายได้เป็น 2 แบบ คือ

  1. ไตวายฉับพลัน คือ ภาวะที่มีการทำงานของไตลดลงอย่างรวดเร็ว บางรายอาจจะรุนแรงถึงขั้นต้องได้รับการฟอกไตชั่วคราว เมื่อได้รับการดูแลและรักษาที่ถูกต้อง ไตจะสามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติ
  2. ไตวายเรื้อรัง หรือในปัจจุบันเรียกว่าโรคเรื้อรัง คือ ภาวะที่ไตมีการทำงานลดลงไปเรื่อย ๆ โดยจะเป็นมานานมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ถึงแม้จะให้การรักษาที่ถูกต้องแล้วก็ตาม ไตก็ไม่สามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติ เปรียบโรคไตเรื้อรังเสมือนขั้นบันได มีหลายระดับขั้น โดยสามารถแบ่งระยะต่าง ๆ ของโรคไตเรื้อรังได้เป็น 5 ระยะ เริ่มตั้งแต่ระยะที่ 1-5 เมื่อมีการเสื่อมของไตมากขึ้น จนเข้าสู่ระยะที่ 5 หรือไตวายระยะสุดท้าย ซึ่งเป็นระยะที่ต้องได้รับการบำบัดทดแทนไต ได้แก่ การฟอกเลือดอย่างถาวร การล้างไตทางช่องท้องแบบถาวร หรือได้รับการปลูกถ่ายไต ผู้ป่วยในระยะนี้จะมาด้วยอาการต่าง ๆ ดังนี้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อย เพลีย ซีด เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอีริโทรโพอิติน (erythropoietin) บวมมากขึ้น ปัสสาวะออกน้อยลงนอนราบไม่ได้ น้ำท่วมปอด ชัก เป็นต้น ทำอย่างไรจะสามารถรู้ได้ว่าเริ่มมีไตเสื่อม และเป็นไตเสื่อมในระยะที่เท่าไร เมื่อไหร่ต้องมีการเตรียมตัวเพื่อที่จะฟอกเลือดหรือล้างไต คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่มักจะถูกถามเสมอ คงเริ่มต้นให้คำตอบที่ว่าไตวายมีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง และจะเริ่มให้การวินิจฉัยได้อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ไตเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว

 

ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลพญาไท 2 ชั้น 14 อาคาร A โทร. 02-617-2444 ต่อ 1683, 1684

อ้างอิง

คู่มือ สำหรับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง

ที่ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
จัดทำโดย
สาขาวิชาโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หน่วยโรคไต ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

แชร์

Loading...
Loading...
Loading...