ตับ vs ตับอ่อน...รีบดูแลก่อนสาย

พญาไท พหลโยธิน

1 นาที

พ. 07/02/2024

แชร์


ตับ vs ตับอ่อน...รีบดูแลก่อนสาย

“ตับไตไส้พุง” เรื่องที่คุณ (หรือใคร) อาจไม่เคยสนใจ แต่อาจต้องคิดใหม่ หลังจากที่ข้อมูลของกรมการแพทย์ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผยว่ามะเร็งตับ พบมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งทั้งหมดในคนไทย โดยแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิต ราว 16,000 ราย ทำให้ต้องหันมาดูแลตับ และตับอ่อนก่อนจะสายเกินไป…

 

 

ตับ VS ตับอ่อน ทำหน้าที่เหมือนกันไหม

แม้ชื่อจะดูเหมือนเป็นสิ่งเดียวกัน แต่การทำงานของทั้งสองอวัยวะนี้กลับเป็นคนละส่วนโดยสิ้นเชิง โดยตับทำหน้าที่หลายอย่าง หน้าที่หลักคือ การสร้างน้ำดี และยังมีส่วนช่วยในกระบวนการเมตาบอลิซึมไขมันและคาร์โบไฮเดรต ที่ช่วยควบคุมกลูโคสทั้งระบบของร่างกาย รวมทั้งขจัดสารพิษไม่ว่าจะมาจากยา หรือสารพิษต่างๆ พร้อมทั้งสร้างกลไกโปรตีนบางชนิด เพื่อช่วยในการหยุดเลือด

 

 

ด้านความสำคัญของ ตับอ่อน เป็นอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร เป็นต่อมขนาดใหญ่ ใกล้กับลำไส้เล็กส่วนต้น ยาวทอดตัวติดกับม้าม ตรงกลางมีหลอดเลือดใหญ่ ตับอ่อนนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตับ เป็นคนละอวัยวะไม่เกี่ยวข้องกัน ตับอ่อนทำหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับการผลิตเอนไซม์ย่อยอาหาร โดยหลั่งน้ำย่อยเข้าไปในลำไส้เล็ก ผ่านทางท่อตับอ่อน น้ำย่อยจัดเป็นเอนไซม์ที่ย่อยสลายไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตในอาหาร โดยปกติน้ำย่อยที่สร้างจากตับอ่อนจะยังไม่ออกฤทธิ์ จนกระทั่งเมื่อถูกหลั่งเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนดูโอดินัม จึงจะเริ่มทำหน้าที่ย่อยสารอาหารไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต พร้อมทั้งมีหน้าที่สร้างฮอร์โมนหลายชนิด อาทิ อินซูลินและกลูคากอน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ซึ่งช่วยให้ร่างกายสามารถใช้น้ำตาลในร่างกายได้เป็นปกติ

 

 

อะไรเกิดขึ้นได้กับตับ และตับอ่อน

ปกติแล้วตับเป็นอวัยวะที่อดทนสูงพอสมควร หากเริ่มมีปัญหาก็มักจะเสียหายไปเยอะแล้ว โดยตัวเหลืองก็เป็นหนึ่งอาการที่สามารถแบ่งประเภทปัญหาของตับได้ เช่น ตัวเหลืองจากตับมีปัญหา กับตัวเหลืองจากการอุดตันของท่อน้ำดี ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน ดังนั้นต้องดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ส่วนใหญ่พบโรคตับแข็งได้บ่อยตอนเป็นเยอะแล้ว เช่น มีน้ำในท้อง ตัวบวม มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือในผู้ชายที่ยังไม่ทันได้สังเกตก็อาจมีเต้านมคล้ายกับผู้หญิง ทั้งหมดนี้คือลักษณะของโรคตับเรื้อรัง

 

 

อาการเริ่มแรกของตับอ่อน มาจาก 2 กรณี คือเกิดการอักเสบ โดยเฉพาะจากแอลกอฮอล์ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีอาการเตือน มักเกิดแบบเฉียบพลัน แต่โดยมากก็จะเกิดกับคนไข้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่องยาวนาน หรือในกรณีอักเสบเรื้อรังก็จะมาด้วยเรื่องหลักๆ ของการเป็นเบาหวาน หรือถ่ายเป็นมัน เป็นมูก ในกรณีที่เป็นมะเร็งซึ่งพบได้บ่อยในประเทศไทยเช่นกัน อาการแสดงเริ่มแรกของกลุ่มนี้มีไม่มาก คนไข้จึงไม่ทันได้สังเกต ที่พบคือ ท้องอืด แน่นท้อง จุกเสียดร้าวไปหลัง ดังนั้น หากเกิดความสงสัยร่างกายตัวเอง ไม่ระมัดระวัง บางทีจะรู้ตัวก็ตอนเป็นรุนแรงแล้ว

 

 

พฤติกรรมที่ (อาจ) ทำให้มีปัญหา

  • ตับพังเพราะกินยามาก แม้พอจะได้ยินคำเตือนเรื่องการกินยามาบ้าง แต่ก็ใช่ว่ายาทุกตัวจะทำให้ตับพัง ขึ้นอยู่กับยาชนิดนั้นๆ ด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วยามักถูกขับออกทางตับ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับกระบวนการทำงานของตับกับยาแต่ละชนิด หากใช้มากและเหลือตกค้างมากก็เป็นไปได้ว่าอาจเกิดเซลล์อักเสบตามมา ยกตัวอย่างยาพาราเซตตามอล ที่แม้จะขับออกทางตับ แต่หากว่าต้องได้รับอย่างต่อเนื่องยาวนาน จำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
  • นิ่วอุดตัน ทำตับอ่อนอักเสบ สาเหตุหลักของการเกิดตับอ่อนอักเสบที่พบบ่อย คือ นิ่วในถุงน้ำดีที่ตกลงมาแล้วอุดตันในท่อน้ำดี หากนิ่วมาอุดตรงปลายท่อก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบได้
  • ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทำตับอ่อนอักเสบ การดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตับอ่อนอักเสบได้พอๆ กับนิ่ว

 

 

ในบางกรณีก็อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทราบสาเหตุ คือภาวะตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ทั้งที่ไม่มีนิ่ว และไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ในลักษณะนี้ต้องระวังเรื่องมะเร็ง เพราะถึงแม้ว่าระยะแรกจะมีการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ไปแล้ว แต่ผลอาจไม่ชัดเพราะการอักเสบของตับอ่อนอาจเข้ามาบดบัง ซึ่งต้องมีการติดตามเฝ้าระวังอาการถึงแม้จะหายแล้วก็ตาม

 

 

เนื้องอกที่ตับอ่อน (Pancreatic tumors) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามชนิดของเซลล์ เนื้องอกของเซลล์ที่ผลิตน้ำย่อยส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อร้าย ส่วนที่ไม่ใช่เนื้อร้ายมักเป็นถุงน้ำที่เกิดจากการอักเสบของตับอ่อนด้วยสาเหตุต่างๆ ส่วนเนื้องอกของเซลล์ไอส์เล็ตพบได้ค่อนข้างน้อย ซึ่งเนื้องอกตับอ่อนพบได้ทั้งชนิดที่ไม่ใช่เนื้อร้ายซึ่งมีเป็นส่วนน้อย และเนื้องอกตับอ่อนที่พบโดยส่วนใหญ่จะเป็นมะเร็งตับอ่อน

 

 

การตรวจวินิจฉัยทำได้หลายวิธี

  • การตรวจอัลตราซาวด์
  • การตรวจด้วยเครื่อง CT scan
  • การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI
  • ส่องกล้องตรวจเนื้องอกตับอ่อน (ERCP) ร่วมกับการอัลตราซาวด์ เพื่อการตรวจประเมินแนวทางการจัดการ พร้อมกับนำชิ้นเนื้อส่งตรวจเพื่อตรวจยืนยันมะเร็งตับอีกครั้ง
  • การดูดเซลล์เพื่อตรวจหามะเร็งตับอ่อน มักทำร่วมกับการตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็ง

 

 

มะเร็งตับอ่อนจะไม่แสดงอาการในช่วงแรก เมื่อเกิดอาการจะเป็นค่อนข้างมาก อาการที่พบบ่อย เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด อึดอัดซูบผอม ผิวและตาเป็นสีเหลือง ปัสสาวะเปลี่ยนเป็นสีส้มเข้ม อุจจาระเป็นสีแดง สีดำ หรือปนเลือด ท้องผูกและท้องเสีย ปวดท้องเป็นระยะ ในบริเวณหลังเอว

 

 

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งตับอ่อน ได้แก่ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันสัตว์ในปริมาณสูง โรคเบาหวาน รวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคได้ การผ่าตัดเอามะเร็งออกเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทำได้ในกรณีตรวจพบเร็วและมะเร็งยังไม่แพร่กระจาย แต่ในทางกลับกันเมื่อคนไข้มีอาการและมาพบแพทย์ ส่วนใหญ่จะเป็นมากแล้ว จึงไม่สามารถรักษาด้วยวิธีผ่าตัดได้ การตรวจสุขภาพประจำปีอย่างละเอียดจึงเป็นอีกช่องทางในการดูแลสุขภาพที่ดี เพื่อให้ห่างไกลจากเนื้องอกตับอ่อน


แชร์

error