ไมเกรน โรคยอดฮิตคนทำงาน

พญาไท พหลโยธิน

2 นาที

พ. 10/01/2024

แชร์


Loading...
ไมเกรน โรคยอดฮิตคนทำงาน

ไมเกรน คือโรคของระบบการรับความรู้สึกของเส้นเลือดไวผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวด้านใดด้านหนึ่ง ไมเกรนมีลักษณะอาการเฉพาะตัว ที่สำคัญคือ ปวดหัว ไมเกรนตุ๊บๆ ปวดรุนแรง ปวดติดต่อกัน 472 ชม. มักปวดศีรษะข้างเดียว หรือย้ายข้างไปมา บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย มักมีอาการมากขึ้นเมื่อมีสิ่งเร้า เช่น การขยับศีรษะ การมองเห็นแสงจ้า อยู่ในที่อากาศร้อนหรือเย็นจัด มีเสียงดังรบกวน ชีวิตคนทำงานบางคนมียาพาราเซตามอลเป็นยาประจำตัว เนื่องจากปวดหัว ไมเกรนเป็นประจำ บางรายปวดเรื้อรัง และในบางรายยาพาราเซตามอลก็ไม่ช่วยให้อาการปวดศีรษะดีขึ้น เพราะร่างกายชินกับยาไปแล้ว ต้องเพิ่มความรุนแรงของการออกฤทธิ์เพื่อให้บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนที่เกิดขึ้น

 

สาเหตุของไมเกรนเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อในระหว่างวัน หรืออาจเกิดจากโรคร้ายที่ซ่อนอยู่ภายในสมอง เช่น หลอดเลือดสมองตีบ เนื้องอกในสมอง เลือดออกในสมอง เป็นต้น

 

ปวดศีรษะไมเกรน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม

  • กลุ่มที่ไม่มีอาการเตือน (Migraine without aura) ซึ่งเป็นกลุ่มที่พบได้มากที่สุดในผู้ป่วยปวดศีรษะไมเกรน
  • กลุ่มที่มีอาการเตือน (Migraine with aura) ในผู้ป่วยไมเกรนกว่า 1 ใน 3 จะมีอาการเตือนก่อนจะเกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน โดยมักจะกินระยะเวลาประมาณ 5 นาที ถึง 1 ชั่วโมง

 

อาการเตือน (aura) แบบนี้ มักเกิดขึ้นก่อน “ปวดศีรษะไมเกรน”

  • การมองเห็นผิดปกติ เห็นแสงไฟกระพริบ มองเห็นภาพต่างๆ เป็นจุดหรือเป็นเส้นซิกแซก หลับตาแล้วยังเห็นได้อยู่
  • ในผู้ป่วยไมเกรนบางราย จะมีอาการชา รู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ มาจิ้ม ประสาทสัมผัสไม่สามารถรับรู้ได้ชั่วคราว อาจมีอาการจากส่วนปลายนิ้ว เคลื่อนไปยังแขนหรือใบหน้า อาจมีอาการชาที่มือ-แขน หรือชารอบปาก
  • มีการศึกษาของ Cephalalgia Magazine พบว่าผู้ป่วยไมเกรนกว่า 36% มีอาการหาวบ่อยๆ อาจจะทุกๆ 23 นาที ก่อนที่จะมีอาการไมเกรนเกิดขึ้น

 

ปวดหัวลักษณะแบบไหนที่เรียกว่า “ปวดหัวไมเกรน”

ลักษณะอาการปวดศีรษะที่จำเพาะกับปวดศีรษะไมเกรน คือจะมีอาการปวดศีรษะข้างเดียว อาจย้ายข้างได้ มีอาการปวดศีรษะแบบตุ้บๆ (คล้ายเส้นเลือดเต้น) ตามจังหวะการเต้นของหัวใจ มักปวดศีรษะด้านใดด้านหนึ่ง และอาจมีอาการอื่นร่วม เช่น มีอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยผลสำรวจของ American Migraine Study พบว่า ผู้ป่วยไมเกรนกว่า 3,700 ราย จะมีอาการคลื่นไส้ 73% และ มีอาการเจียน 29% หรือมีอาการปวดโพรงตาร่วมด้วย หรือมีอาการไซนัสร่วมด้วย โดยมีการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการปวดไซนัสกว่า 90% มักมีอาการไมเกรนร่วม

 

ผู้ป่วยไมเกรน…กับภาวะ “ตาไม่สู้แสง” พบว่าผู้ป่วยไมเกรนกว่า 80% มีอาการไวต่อแสง โดยภาวะนี้จะเริ่มจากประสาทตาส่งสัญญาณไปยังสมอง ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถทนต่อแสงได้ โดยเฉพาะแสงจ้า เช่น แสงแดด หรือแสงแฟลช ซึ่งผู้ป่วยสามารถหลีกเลี่ยงแสงจ้าได้ด้วยวิธีนี้

  • ใช้ผ้าม่านกันแสงปิดหน้าต่าง เพื่อป้องกันแสงแดดลอดผ่านเข้ามาในห้อง
  • ไม่ใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดนีออน เพราะแสงจากหลอดไฟชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการไมเกรนในผู้ป่วยบางรายได้
  • ปรับความสว่างของจอคอมพิวเตอร์ไม่ให้สว่างเกินไป และปรับมุมองศาของจอเพื่อลดการสะท้อนของแสง
  • ติดตั้งไฟให้ห่างจากบริเวณที่อาจเกิดการสะท้อนของแสงจ้าได้ เช่น กระจก

 

การรักษาปวดศีรษะไมเกรน

การรักษาไมเกรนให้หายขาดยัง ปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ จึงเป็นการรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน ในรูปแบบของการควบคุมด้วยการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง และการใช้ยาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่เป็นบ่อยๆ เช่นเดือนหนึ่งเป็น 2 ครั้ง หรือมากกว่า แพทย์มักจะแนะนำให้รับประทานยาป้องกัน ยากลุ่มนี้เป็นยาที่ต้องรับประทานทุกวัน รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดหรือลดความถี่ ความรุนแรงของอาการปวดศีรษะ

 

เลี่ยงปัจจัยกระตุ้น…ช่วยลดการเกิดไมเกรน

ไม่เพียงแค่แสงจ้าที่ผู้ป่วยไมเกรนควรหลีกเลี่ยง แต่ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ดังๆ เช่น คอนเสิร์ต รวมทั้งให้ความสำคัญกับการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีน เช่น กาแฟ, น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเกิดอาการไมเกรนถี่ๆ และรุนแรงมากยิ่งขึ้น

 

หากมีอาการปวดไมเกรน ผู้ป่วยควรหยุดพักในห้องที่มืดอากาศเย็นและเงียบสงบ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 10-20 นาที ควรทานยาแก้ปวด แต่ควรเป็นยาที่จ่ายโดยแพทย์ ไม่ใช่ยาที่ซื้อทานเอง เพราะการซื้อยาไมเกรนทานเองติดต่อกันไปนานๆ อาจก่อให้เกิดภาวะปวดศีรษะจากการใช้ยา ซึ่งส่งผลให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

 

ตัวช่วยหลีกเลี่ยงไมเกรน

  • หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด อย่างเช่น นมวัว เนย ชีส ช็อคโกแลต ไวน์แดง เบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถั่วบางชนิด กล้วยสุก ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน น้ำตาลเทียม ผงชูรส หรือพวกไส้กรอก เซซามิ แฮม พวกนี้ก็มีส่วนกระตุ้นอาการปวดไมเกรนได้ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะช่วยลดความถี่ของอาการปวดได้
  • ประคบน้ำแข็ง แช่เท้าในน้ำอุ่น ใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งประคบบริเวณที่เกิดอาการปวดหัวไมเกรน และให้เเช่เท้าด้วยน้ำอุ่นไปพร้อมกันประมาณ 20 นาที ก็จะช่วยลดอาการปวดหัวให้ลดน้อยลง
  • น้ำมันกลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นธรรมชาติของลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ ลองนำน้ำมันกลิ่นลาเวนเดอร์หยดลงไปในน้ำร้อนสัก 23 หยด จากนั้นก็สูดดมไอระเหย ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้เยอะเลย
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ก็อย่านอนให้มากจนเกินไป อยู่ที่ประมาณ 68 ชมต่อวัน และพยายามเข้านอน และตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน
  • ออกกำลังกายให้ได้เป็นประจำ ออกกำลังกายให้ได้วันละ 30 นาทีเป็นประจำ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน จะช่วยให้ร่างกายโดยรวมของเราแข็งแรงขึ้น และลดความเครียด ก็จะช่วยลดความถี่ของอาการปวดไมเกรนได้
  • ดื่มน้ำขิงร้อน ขิงมีฤทธิ์ในการลดกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดในร่างกาย ลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (prostiglandins) ที่ทำให้ปวดและอักเสบได้ เพราะฉะนั้นเมื่อเวลามีอาการให้ดื่มน้ำขิงร้อนๆ สักแก้ว แล้วนอนหลับพักผ่อนก็จะช่วยลดอาการปวดได้เยอะเลย

แชร์

Loading...
Loading...
Loading...