ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza Virus) ตัวการร้ายก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ

พญาไท 2

1 นาที

พฤ. 06/02/2025

แชร์


Loading...
ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza Virus) ตัวการร้ายก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ

ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza Virus) เป็นหนึ่งในกลุ่มไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับไวรัสพาราอินฟลูเอนซา รูปแบบการแพร่กระจาย อาการที่พบ วิธีการวินิจฉัยและการรักษา ตลอดจนแนวทางการป้องกันการติดเชื้อ

 

ไวรัสพาราอินฟลูเอนซาเป็นไวรัสที่มีลักษณะเป็น RNA และอยู่ในตระกูล Paramyxoviridae ซึ่งมีหลายชนิดที่สามารถติดเชื้อในมนุษย์ได้ เช่น HPIV-1  HPIV-2 HPIV3 และ HPIV4  มักเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคคอหอยอักเสบและการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน

 

การแพร่กระจายและการติดเชื้อ

ไวรัสพาราอินฟลูเอนซามักแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับละอองน้ำลายหรือสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจของผู้ติดเชื้อ เมื่อผู้ติดเชื้อไอหรือจาม ละอองไวรัสจะถูกปล่อยออกมาในอากาศและสามารถติดเชื้อผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ นอกจากนี้ การสัมผัสพื้นผิวหรือวัตถุต่าง ๆ ที่มีไวรัสติดอยู่แล้วจากนั้นนำมือไปสัมผัสใบหน้า ก็สามารถเป็นเส้นทางการติดเชื้อได้เช่นกัน ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 2-6 วัน และการติดเชื้อมักเกิดที่เซลล์เยื่อบุของระบบทางเดินหายใจเท่านั้น

 

อาการและผลกระทบของการติดเชื้อ

อาการของการติดเชื้อไวรัสพาราอินฟลูเอนซามีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับชนิดของไวรัสและภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อ

  • อาการทั่วไป : ได้แก่ ไข้หวัด, ไอ, น้ำมูกไหล, เจ็บคอ และบางรายอาจมีอาการปวดเมื่อยตามตัว
  • ในเด็กเล็ก : สามารถทำให้เกิดอาการ ปอดบวมหลอดลมอักเสบรุนแรง
  • ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ : อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หรือภาวะหายใจล้มเหลวซึ่งต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด

 

การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะสำหรับไวรัสพาราอินฟลูเอนซา การรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการบรรเทาอาการ และสนับสนุนการฟื้นตัวของร่างกายโดยแพทย์จะดูแลแบบประคับประคองเช่น การให้สารน้ำ อย่างเพียงพอพักผ่อนให้เพียงพอ และการใช้ยาลดไข้หรือบรรเทาอาการไอ ในกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องให้การรักษาในโรงพยาบาล 

 

แนวทางการป้องกัน

การป้องกันการติดเชื้อไวรัสพาราอินฟลูเอนซาสามารถทำได้ดังนี้

  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อมือที่มีแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า โดยเฉพาะดวงตา จมูก และปาก เมื่อมือไม่สะอาด
  • การรักษาระยะห่างในที่ชุมชน  เมื่อมีการระบาดของโรคหรือในช่วงที่มีผู้ติดเชื้ออยู่ใกล้เคียง
  • การฉีดวัคซีน แม้ว่าจะไม่มีวัคซีนเฉพาะสำหรับไวรัสพาราอินฟลูเอนซาในปัจจุบัน แต่การได้รับวัคซีนป้องกันโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อหลายชนิดที่อาจมีผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

 

ไวรัสพาราอินฟลูเอนซาเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคในระบบทางเดินหายใจที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง การเข้าใจถึงลักษณะการแพร่กระจาย อาการที่อาจเกิดขึ้น และวิธีการดูแลรักษาเบื้องต้นจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพหากมีอาการผิดปกติหรือสงสัยว่าติดเชื้อควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...