ระบบประสาทส่วนปลายเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว และการรับความรู้สึก ภาวะปลายประสาทอักเสบ คือ อาการบวม แดง อ่อนแรงและชาที่แขนและขา ปลายมือ ปลายเท้า พบมากในผู้สูงวัย แต่ในคนที่อายุน้อยพบได้เช่นกัน ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการติดเชื้อ
ผู้ป่วยที่เป็นโรคปลายประสาทอักเสบแบ่งได้ 3 กลุ่ม
- กลุ่มแรก มีการอักเสบจริงๆ ที่ระบบประสาทส่วนปลาย อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ เช่น เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน หรืออาจพบในกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนแรง ชา แต่ยังสามารถไปไหนมาไหนได้ ทำงานได้ หรือในผู้ป่วยที่เป็นรุนแรงจนถึงกล้ามเนื้อสำคัญๆ เช่น กล้ามเนื้อเกี่ยวกับการหายใจ อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเป็นการอักเสบที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ตัวเองของร่างกาย ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะสามารถฟื้นได้ โดยการให้ยาบางชนิดเป็นยากลุ่มที่เป็นเซรั่มแก้อาการแพ้เข้าไปช่วย ซึ่งค่อนข้างมีราคาแพง หรือหากติดเชื้อรุนแรงบริเวณกล้ามเนื้อสำคัญบริเวณแขน ขา อาจมีอาการอ่อนแรง บางรายอาจต้องทำกายภาพบำบัด
- กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่ขาดวิตามิน หรือสารบางชนิด เช่น วิตามินบี ซึ่งพบผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้น้อย เนื่องจากปัจจุบันมีการบริโภคอาหารที่ดีขึ้น
- กลุ่มที่สาม เป็นผลมาจากสารพิษต่างๆ เช่น พิษจากตะกั่ว โลหะหนัก พิษเหล่านี้จะทำให้ระบบประสาทส่วนปลายเสียไปมักจะเป็นที่ปลายมือปลายเท้า เพราะมีเส้นประสาทจำนวนมาก ควรระมัดระวังไม่ให้เกิดบาดแผลที่ปลายมือปลายเท้า หากพบว่ามีบาดแผลหรือฟกช้ำที่ปลายมือปลายเท้า ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะถ้าปล่อยไว้แผลอาจทำให้ลุกลามและรักษายาก
นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่คล้ายจะเป็นที่ระบบประสาทส่วนปลาย แต่เป็นความผิดปกติที่ระบบประสาทส่วนกลางคือ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับไขสันหลัง เช่น มีเนื้องอกหรือมีอะไรไปกดที่เส้นประสาท หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทบริเวณบั้นเอวซึ่งพบได้บ่อย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการชา อ่อนแรง และมีอาการปวด เสียการทรงตัวเนื่องจากขาอ่อนแรง ผู้ป่วยที่มีปัญหาหมอนรองกระดูกจะมีท่าเดินลักษณะเฉพาะ หรือบางครั้งอ่อนแรง รวมทั้งกรณีที่เป็นโรคเบาหวานสามารถทำให้เกิดปลายประสาทอักเสบได้เช่นกัน