ช่วงหลังคลอด จะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับคุณแม่ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจคุณแม่มือใหม่จึงควรเตรียมความพร้อมและรับมือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการให้นมบุตร และการเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงก่อนการตั้งครรภ์ การมีสมาชิกคนใหม่ในครอบครัวก็จะมีผลทางด้านจิตใจของคุณพ่อและคุณแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจจะมีผลต่อคุณแม่เป็นอย่างมาก หากมีการเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ก็จะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้อย่างราบรื่น สิ่งที่ควรทราบ และควรปฏิบัติตัวหลังคลอดเมื่อกลับบ้านมีอะไรบ้าง
แผลฝีเย็บ
ทำความสะอาดทุกครั้งหลังปัสสาวะ หรืออุจจาระด้วยสบู่และน้ำสะอาด แล้วซับแผลให้แห้ง แผลเย็บด้วยไหมละลายไม่ต้องตัดไหม แผลจะหายเป็นปกติประมาณ 5 วัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ไฟอบแผล
แผลผ่าตัด
สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ถ้าปิดแผลด้วยแผ่นปิดกันน้ำ หลังอาบน้ำควรซับแผ่นปิดแผลให้แห้ง และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลแผลก่อนกลับบ้าน แผลจะหายเป็นปกติประมาณ 7 วัน
การรับประทานอาหาร
หลังคลอดบุตรควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อช่วยเสริมสร้างร่ายกาย และสารอาหารให้เพียงพอที่จะสร้างน้ำนมให้ลูก นอกจากนี้ การรับประทานผัก ผลไม้จะช่วยไม่ให้ท้องผูก ซึ่งส่วนมากแล้วคุณแม่จะมีอาการท้องผูก ในสัปดาห์แรกเพราะกลัวเจ็บแผล ไม่กล้าเบ่งอุจจาระ มารดาที่ให้นมบุตรควรรับประทานอาหารให้ครบถ้วน และควรดื่มน้ำ หรือนมเพิ่มมากขึ้น
เมื่อแม่คลอดบุตรแล้ว แม่จะต้องใช้พลังงานในการเลี้ยงดูลูกอย่างหนัก ทำให้น้ำหนักของแม่ลดลง และต้องพยายามลดอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน ขนมหวาน ผลไม้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้คุณแม่อ้วนขึ้นและลดได้ยาก เนื่องจากติดพฤติกรรมการรับประทานขณะตั้งครรภ์ ควรหมั่นออกกำลังกายเบาๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้แม่มีสุขภาพแข็งแรงและมีรูปร่างเหมือนเดิมได้ไม่ยาก อย่างไรก็ดีหากแม่ปล่อยตัวเองให้อ้วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่เกี่ยวกับความอ้วนได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น
“อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง อาหารประเภทหมัก ดอง อาหารรสจัด ชา กาแฟ ยาดองเหล้า และอาหารที่มีแอลกอฮอล์ผสม เนื่องจากสารเหล่านี้อาจถูกขับออกทาง น้ำนม”
การพักผ่อน
ระยะหลังคลอด คุณแม่ยังคงอ่อนเพลียจากการสูญเสียเลือดและพลังงานในขณะคลอด ดังนั้น ควรได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ อย่างน้อย วันละ 6-8 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์แรก
การทำความสะอาดร่างกาย
คุณแม่สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ โดยการตักน้ำอาบ หรืออาบฝักบัว ไม่ควรอาบน้ำแบบแช่ในอ่างน้ำ หรือว่ายน้ำเนื่องจากปากมดลูกยังปิดไม่สนิท อาจทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในน้ำเข้าทางช่องคลอดแล้วลุกลามสู่โพรงมดลูก ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ การสระผมสามารถทำได้ตามปกติ หรือตามความเหมาะสม ภายหลังอุจจาระ หรือปัสสาวะควรล้างให้สะอาดและซับให้แห้งแล้วจึงใส่ผ้าอนามัย ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยเมื่อเปียกชุ่ม หรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
ในระยะ 6 สัปดาห์หลังคลอด สามารถทำกิจกรรมที่ไม่ต้องออกแรงมาก เช่น ทำอาหาร กวาดบ้าน ฯลฯ ไม่ควรยกของหนักหรือทำงานที่ต้องใช้กำลังของกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพราะอาจเจ็บแผลผ่าตัดและมดลูกเคลื่อนต่ำลงได้ เนื่องจากเส้นเอ็นที่ยึดมดลูกมีการขยายตัว ในช่วงนี้สามารถขึ้นลงบันไดได้ แต่ควรระมัดระวังเรื่องการลื่นหกล้ม หรืออาการหน้ามืดเป็นลมอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุพลัดตกได้
นอกจากนี้ สามารถขับรถยนต์ได้ ยกเว้นในรายที่มีอาการเจ็บ เกร็งบริเวณแผลผ่าตัด หรือแผลฝีเย็บควรงดการขับรถ รอจนกว่าแผลจะหายดีประมาณ 4 สัปดาห์หลังคลอดปกติ หรือ 6 สัปดาห์หลังผ่าตัดคลอด และสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
ปัญหาที่พบบ่อยสำหรับคุณแม่หลังคลอดคือ บรรดาคุณแม่ส่วนใหญ่ต้องใช้ทุกช่วงเวลาอยู่กับลูก ซึ่งเป็นงานที่ทั้งเหนื่อย หนักและต้องทุ่มเทเวลาให้อย่างมาก กระทั่งส่งผลให้คุณแม่ไม่ได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ ไม่ได้ออกกำลังกาย และต้องนอนดึก เพราะคอยห่วงสุขภาพการกินอยู่ของลูกมากกว่าตัวเอง หากผู้เป็นแม่หันมาให้ความสำคัญกับตัวเองบ้างก็จะไม่เจ็บป่วย ขณะเดียวกันในเวลาเช่นนี้สุขภาพจิตของแม่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น สามีจึงควรเอาอกเอาใจภรรยาด้วยการช่วยแบ่งเบาภาระร่วมกัน หากคุณแม่ตั้งใจจะมีลูกหลายคนก็ไม่ควรตั้งท้องถี่เกินไป เพราะสุขภาพจะทรุดโทรม ควรจะมีการเว้นระยะในการตั้งครรภ์ 1-2 ปีก่อนการตั้งครรภ์ใหม่ ซึ่งจะช่วยให้แม่มีเวลาใส่ใจทั้งสุขภาพของลูกน้อยและสุขภาพของตัวเองได้ ที่สำคัญหากคุณแม่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์และมีสุขภาพจิตที่ดี ก็จะส่งผลให้ลูกน้อยเติบโตเป็นเด็กที่แข็งแรง สมบูรณ์ มีอารมณ์ดี และมีความสุขด้วย