ไวรัส RSV เชื้อไวรัสอันตราย

พญาไท พหลโยธิน

1 นาที

อ. 20/08/2024

แชร์


Loading...
ไวรัส RSV เชื้อไวรัสอันตราย

เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว มีความชื้นมากแบบนี้เด็กๆ มักป่วยง่าย ป่วยบ่อยเพราะอากาศเปลี่ยนแปลง และโรคยอดฮิตที่แวะเวียนเข้ามาทำร้ายลูกน้อยของคุณทุกปี หนีไม่พ้นการติดต่อของไวรัส RSV ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดแต่ส่งผลรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบติดเชื้อได้

 

ไวรัส RSV คืออะไร?

RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เด็กเป็นโรคหลอดลมฝอยอักเสบ และโรคปอดบวม ติดต่อกันได้ง่ายๆ เพียงโดนละอองน้ำมูกของผู้ป่วยที่ไอ จามออกมาก รวมทั้งสัมผัสเชื้อนี้ ผ่านสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน เช่น ของเล่น ภาชนะ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

 

อาการต้องสงสัยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง

ไวรัส RSV ค่อนข้างมีอาการที่รุนแรงโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ขณะเดียวกันผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็สามารถเป็นได้เช่นกัน แต่ความรุนแรงไม่มากนักคล้ายไข้หวัดธรรมดาคือ ไอ มีน้ำมูกเล็กน้อย ไม่มีไข้ สำหรับเด็กเล็กผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตอาการเนื่องจากไวรัสชนิดนี้มีอาการคล้ายไข้หวัดจนแทบจะแยกไม่ออก แต่มีวิธีสังเกตง่ายๆ หากเด็กมีอาการซึมลง เช่น เคยกินนมเก่งแล้วอยู่ๆ กินน้อยลง อารมณ์ไม่ดีเหมือนปกติ หายใจแรงจนหน้าอกบุ๋ม ควรรีบพาไปพบแพทย์ หรือมีอาการตัวเขียว ไอ มีเสมหะมาก หอบเหนื่อย หายใจ เร็ว แรง

 

การรักษาแพทย์มักให้การพ่นยาหรือบางรายอาจจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าติดตามอาการ ส่วนเด็กที่คลอดก่อนกำหนด ผู้ป่วยที่มีโรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจเรื้อรัง ก็จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงด้วยเช่นกัน

 

ไวรัส RSV ติดต่อกันอย่างไร?

การติดต่อของเชื้อ RSV นี้สามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่งต่างๆ ในร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ละอองจากการไอ จาม โดยเฉพาะการติดต่อจากการสัมผัส

 

การติดต่อของไวรัส RSV มีลักษณะคล้ายการติดต่อของไข้หวัด ซึ่งหากเด็กได้รับเชื้อ ระยะฟักตัวของโรคจะอยู่ที่ประมาณ 5 วัน โดยในช่วง 2-4 วันแรก มักมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล เมื่อการดำเนินโรคมีมากขึ้น ส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนล่างมีการอักเสบตามมา

 

ความรุนแรงของไวรัส RSV ที่ไม่ควรมองข้าง

เชื้อไวรัส RSV ส่งผลกับหลอดลมอาจทำให้เกิดการอักเสบ ปอดบวม หรือปอดอักเสบได้ ในบางรายเกิดอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ไอแรง หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงครืดคราด มีเสมหะในลำคอมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการที่ต้องพึงระวังคือ หากมีอาการไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส ไอมากจนอาเจียน หายใจเร็วหอบจนชายโครงหรือหน้าอกบุ๋ม หายใจมีเสียงวี้ด  ทานอาหารหรือนมได้น้อยลง มีอาการซึมลง หากมีอาการหนัก มีโอกาสเสียชีวิตเนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้สูง

 

ป้องกันไวรัส RSV ได้อย่างไร?

วิธีที่ง่ายที่สุดรักษาความสะอาด หมั่นล้างมือบ่อยๆ หากมีลูกป่วยควรแยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติเพื่อป้องกันการไอจามแพร่เชื้อให้กับผู้คนที่อยู่รอบข้าง หยุดเรียนลดการแพร่เชื้อ เข้ารับการรักษาจนกว่าหายเป็นปกติ อย่างไรก็ดี ในเด็กบางรายถึงแม้จะหายแล้วก็ยังอาจมีอาการไอต่อเนื่องไปเป็นเดือนได้


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...