โรคกระดูกงอกบริเวณกระดูกสันหลัง

พญาไท 2

1 นาที

จ. 12/06/2023

แชร์


โรคกระดูกงอกบริเวณกระดูกสันหลัง

เมื่ออายุมากขึ้นหรือเข้าสู่การเป็นผู้สูงวัย ร่างกายจะสร้างกระดูกใหม่มาทดแทนในส่วนที่สึกหรอได้ไม่ทันและไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูให้ดีดังเดิม เมื่อเป็นเช่นนั้น ร่างกายอาจมีการสร้างแคลเซียมขึ้นมาเพื่อหุ้มกระดูกที่สึกหรอ ซึ่งจะกลายเป็นส่วนเกินของกระดูกในที่สุด

สำหรับกระดูกสันหลังซึ่งเป็นแหล่งรวมเส้นประสาท เมื่อมีแคลเซียมงอกขึ้นมาเกาะ แม้จะมีขนาดเล็กเพียง 1-2 มิลลิเมตร ก็อาจกระทบต่อเส้นประสาท โดยในระยะแรกมักทำให้เส้นประสาทอักเสบจนรู้สึกปวดหรือชาได้

ทั้งนี้ โรคกระดูกงอกเกิดได้กับกระดูกทุกส่วนในร่างกาย แต่จะพบบ่อยบริเวณกระดูกสันหลัง 

อาการโรคกระดูกงอกบริเวณกระดูกสันหลัง

  • ปวดเมื่อยบริเวณท้ายทอย หรือแนวกระดูกสันหลัง
  • เมื่อหันหน้าซ้าย-ขวาจะรู้สึกปวดคล้ายนอนตกหมอน
  • ปวดร้าวมาถึงสะบัก ข้อศอก แขน ขา หรือปลายนิ้ว
  • ปวดร้าวลงแขน ชาปลายนิ้วจนถึงขั้นอ่อนแรง

ใครก็ตามที่มีอาการดังกล่าว ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยืนยันว่าเป็นโรคกระดูกงอกบริเวณกระดูกสันหลังหรือเป็นโรคอื่นๆ จะได้รักษาให้ถูกโรคและตรงจุดต่อไป

การตรวจวินิจฉัยโรคกระดูกงอกบริเวณกระดูกสันหลัง

เมื่อแพทย์ซักประวัติอาการของผู้ป่วยแล้ว หากสงสัยว่าจะเป็นโรคกระดูกงอกบริเวณกระดูกสันหลัง ก็มีความจำเป็นต้องได้รับการตรวจด้วยการเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อให้เห็นภาพกระดูกสันหลังอย่างชัดเจน และเห็นการกระจายตัวของแคลเซียมในบริเวณกระดูกสันหลัง การตรวจนี้จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างละเอียดและแม่นยำ

กระดูกงอก…หากไม่ทับเส้นประสาทจะเป็นอันตรายหรือไม่?

ในกรณีที่กระดูกงอกหรือมีแคลเซียมมาเกาะบริเวณกระดูกสันหลังแต่ไม่ทับเส้นประสาท ทั้งยังไม่มีอาการปวดร้าวหรือชาใดๆ เลยแม้จะปล่อยไว้นาน ก็ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ควรหมั่นสังเกตอาการและติดตามการดำเนินโรคอย่างสม่ำเสมอ 

การรักษาโรคกระดูกงอกบริเวณกระดูกสันหลัง

  • หากอาการไม่รุนแรง สามารถรักษาด้วยการกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการและระงับการอักเสบ
  • ทำกายภาพบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์และนักกายภาพบำบัด
  • ฉีดยาเพื่อลดการอักเสบ
  • หากกระดูกงอกทับเส้นประสาทจนส่งผลเสียต่อร่างกาย มีความเจ็บปวดมาก ชามาก หรือรักษาด้วยยาและทำกายภาพบำบัดแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด 

เราจะป้องกันการเกิดกระดูกงอกได้อย่างไร?

การป้องกันหรือลดความเสี่ยงการเกิดกระดูกงอก ทำได้ด้วยการกินอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูก กล้ามเนื้อและข้อต่างๆ ให้แข็งแรง เช่น อาหารแคลเซียมสูง โปรตีนจากเนื้อสัตว์ และอาหารที่มีไขมันโอเมก้า3 ทั้งยังควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยให้ข้อต่อต่างๆ ยังคงแข็งแรงให้ได้มากที่สุด เมื่อกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อแข็งแรง โอกาสในการเกิดแคลเซียมมาเกาะกระดูกหรือเป็นกระดูกงอกก็จะลดลงได้นั่นเอง


แชร์

error