อาการแบบนี้…ใช่เนื้องอกในมดลูกหรือเปล่า?

พญาไท พหลโยธิน

1 นาที

พฤ. 11/01/2024

แชร์


Loading...
อาการแบบนี้…ใช่เนื้องอกในมดลูกหรือเปล่า?

เนื้องอกในมดลูกเกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกจนกลายเป็นก้อนเนื้องอก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่สร้างความกังวลและคุกคามผู้หญิงทุกคน แม้ว่าในทางการแพทย์ยังไม่สามารถหาคำตอบที่แน่ชัดของสาเหตุที่แท้จริงการเกิดเนื้องอกในมดลูก แต่พบว่ามีความสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ในช่วงอายุระหว่าง 2050 ปี ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมดลูกมีการเจริญเติบโตมากขึ้นจนผิดปกติ

 

 

กว่า 50% ของผู้หญิงส่วนใหญ่อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นโรคนี้อยู่ เพราะเมื่อเป็นแล้วจะไม่แสดงอาการผิดปกติอย่างเด่นชัด จะทราบอย่างแน่ชัดได้ก็ต่อเมื่อมีการตรวจภายในอย่างละเอียดเท่านั้น สาวๆ จึงควรเฝ้าระวังและไม่ควรมองข้ามอาการที่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคนี้

 

 

เนื้องอกในมดลูกพบได้ทุกบริเวณในมดลูก เรียกแตกต่างกันตามตำแหน่งที่พบดังนี้

  • เนื้องอกที่กล้ามเนื้อ เป็นก้อนเนื้องอกที่โตขึ้นภายในกล้ามเนื้อมดลูก พบได้บ่อยที่สุด
  • เนื้องอกมดลูกที่ผิวด้านนอกมดลูก เป็นก้อนเนื้องอกที่โตขึ้นและดันออกมาที่ผิวด้านนอกมดลูก
  • เนื้องอกมดลูกที่โพรงมดลูก เป็นก้อนเนื้องอกที่โตขึ้นและดันเข้ามาในโพรงมดลูก
  • เนื้องอกในมดลูกชนิดมีก้านยื่น เป็นก้อนเนื้องอกที่โตขึ้น และอาจดันพ้นออกมาที่ผิวด้านนอกของมดลูก หรืออาจดันเข้ามาในโพรงมดลูก แต่ก้อนเนื้องอกจะยึดติดกับมดลูกด้วยก้าน

 

 

สัญญาณผิดปกที่บ่งชี้ว่าคุณอาจมีเนื้องอกในมดลูก

  • ปวดท้องประจำเดือนมากหรือนานกว่าปกติ และปวดรุนแรงมากขึ้นทุกเดือน หากไม่เคยมีก้อนเลือดออกมาระหว่างมีประจำเดือนมาก่อน แต่ระยะหลังพบก้อนเลือดออกมามาก อาการเหล่านี้เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ประจำเดือนออกมากและนานกว่าปกติ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดกะปริบกะปรอยนานเกิน 1 สัปดาห์
  • ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ลักษณะแบบนี้เกิดจากการอักเสบของเนื้องอกภายใน
  • มีอาการปวดหน่วงๆ ที่ท้องน้อย หรือปวดหลังส่วนล่างแบบเรื้อรัง อาการนี้มักเกิดจากการที่มีก้อนเนื้ออยู่ตรงตำแหน่งช่วงหลังของท้อง และเข้าไปเบียดอวัยวะภายใน
  • ปัสสาวะบ่อยขึ้นแต่ออกแบบกะปริดกะปรอย กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ รวมถึงอาการปัสสาวะขัด เกิดจากการที่ก้อนเนื้อไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ จึงส่งผลให้เก็บปัสสาวะได้น้อยลง
  • ท้องผูกผิดปกติและเรื้อรัง รวมถึงอาจมีอาการปวดหน่วงบริเวณทวารหนัก ถ่ายอุจจาระแล้วมีอาการเจ็บ เกิดจากการที่เนื้องอกไปกดทับลำไส้ใหญ่
  • มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะก้อนเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่จะทำให้อึดอัด แน่นท้อง ท้องบวม ท้องโตบริเวณท้องน้อย หรืออุ้งเชิงกราน
  • คลำพบก้อนที่ท้องน้อย หากก้อนโตมากๆ ท้องอาจใหญ่จนดูเหมือนมีการตั้งครรภ์
  • มีอาการเจ็บปวดในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าก้อนเนื้องอกที่โตอาจยื่นเข้าไปในช่องคลอด หรืออาจเป็นเนื้องอกตรงปากมดลูก
  • อยู่ในภาวะมีบุตรยากและแท้งบุตรง่าย เนื่องจากเนื้องอกที่โตเข้าไปในโพรงมดลูก อาจทำให้ท่อนำไข่อุดตันและขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์มีน้อย

 

หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจภายในโดยละเอียด เพื่อหาแนวทางจัดการในขั้นต่อไป เพราะการตรวจพบในระยะเริ่มแรกย่อมเป็นผลดีต่อการรักษา มากกว่าปล่อยไว้ให้ส่งผลอันเป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว 

 

 

การตรวจวินิจฉัยและการรักษาเนื้องอกในมดลูก

สูตินรีแพทย์จะทำการตรวจภายใน ร่วมกับการตรวจอัลตราซาวด์ สำหรับการรักษาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุของผู้ป่วย ขนาดของเนื้องอกในมดลูก ความต้องการมีบุตร อาการ ภาวะแทรกซ้อน และสุขภาพของคนไข้ หากพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นคุณผู้หญิงอย่าเพิ่งกังวล เนื่องจากเนื้องอกในมดลูกเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง มีโอกาสเปลี่ยนแปลงเป็นเนื้อร้ายได้ค่อนข้างน้อย แนวทางการรักษาสำหรับผู้ที่มีก้อนเนื้องอกไม่โตมากและไม่มีอาการผิดปกติ อาจใช้วิธีติดตามการเปลี่ยนแปลงของขนาดเนื้องอก ส่วนผู้ที่มีเนื้องอกในมดลูกขนาดใหญ่หรือมีอาการผิดปกติ สูตินรีแพทย์จะพิจารณาผ่าตัดมดลูกออกทั้งหมด หรือเลาะเฉพาะก้อนเนื้องอกกรณีที่ผู้ป่วยต้องการมีบุตร สำหรับการเลือกวิธีผ่าตัดสูตินรีแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละราย


แชร์

Loading...
Loading...
Loading...