การจัดฟัน คือ การทำให้ฟันที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบ เช่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันขึ้นออกนอกแนวการเรียงตัวปกติ หรือขึ้นผิดตำแหน่งให้กลับมาเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งนอกจากจะมีผลทำให้ฟันเรียงตัวดูสวยงามแล้ว ยังสามารถใช้งานได้ดีขึ้น รูปหน้าก็ยังดูสวยงามขึ้นอีกด้วย
จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องจัดฟัน
หากการเรียงตัวของฟันจะทำให้การสบฟันดีขึ้น ความสัมพันธ์ของฟันและขากรรไกรดีขึ้น รวมทั้งสามารถทำความสะอาดเหงือกและฟัน ดูแลสุขภาพช่องปากได้ดีขึ้น การจัดฟันก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าจำเป็น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเรื่องเวลา ความรับผิดชอบในการรักษาความสะอาด และค่าใช้จ่ายว่าสามารถรับผิดชอบได้หรือไม่ หากไม่สามารถมีเวลามารับการรักษา ไม่รับผิดชอบดูแลความสะอาด หรือไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้อาจต้องพิจารณาถึงทางเลือกอื่นๆ ต่อไป
ต้องเตรียมตัวอย่างไรหากต้องการจัดฟัน
หากต้องการจัดฟัน ควรมาพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อรับคำปรึกษาถึงความจำเป็น และความเป็นไปได้ในการจัดฟัน หากพิจารณาแล้วพบว่าสามารถจัดฟันได้ ก็ควรตรวจดูสุขภาพช่องปากโดยทั่วไปว่ามีสภาพดีหรือยัง อาจจะต้องมีการขูดหินปูน อุดฟัน หรือรักษารากฟันแล้วแต่กรณี ส่วนฟันที่ทันตแพทย์จัดฟันสั่งให้ถอนเพื่อการจัดฟัน ก็ควรต้องถอนก่อนแล้วค่อยเข้าสู่กระบวนการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันต่อไป
โดยทั่วไป การจัดฟันจำเป็นต้องมีการเคลื่อนตัวของฟัน หากในช่องปากมีเนื้อที่ไม่พอให้ฟันเคลื่อนที่ไปได้อาจใช้การถอนฟัน หรืออาจเป็นการกรอลดขนาดของฟันลงเล็กน้อยโดยที่ไม่ต้องถอนฟันเลยก็ได้ แต่หากในช่องปากมีมีเนื้อที่มากพออยู่แล้ว เช่น เคยมีการถอนฟันไปแล้ว หรือฟันห่างอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องถอนฟันออกก็เป็นไปได้
วิธีการจัดฟัน แบ่งได้เป็น 2 วิธี ดังนี้
1. แบบติดแน่น แบ่งออกเป็น
- เครื่องมือจัดฟันชนิดติดด้านหน้า มีทั้งชนิดที่เป็นโลหะ และแบบเซรามิค เป็นการใช้เครื่องมือที่มีสีกลืนกับฟันธรรมชาติเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการให้เห็นเหล็กจัดฟัน การจัดฟันแบบเซรามิคยางสีขาวหรือสีใสอาจจะติดสีอาหารทำให้เห็นชัด แต่มีการปรับเปลี่ยนยางทุกเดือนอยู่แล้วจึงไม่ค่อยมีปัญหา การจัดฟันแบบเซรามิคไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องการสบฟัน และการจัดฟันแบบนี้ราคาจะแพงกว่า และเวลาในการจัดจะมากกกว่าแบบโลหะ 2-3 เดือน
- เครื่องมือจัดฟันแบบดามอน (Damon) เป็นแบบโลหะไม่ต้องใช้ยางสี มีความฝืด (Friction) น้อยและมีความเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันชนิดติดแน่นทั่วไป แต่การจัดฟันแบบดามอนผู้จัดจะไม่ได้ใช้ยางสี และการจัดฟันแบบนี้จะมีราคาแพงกว่าการจัดฟันแบบติดแน่นทั่วไป แต่จะใช้เวลาจัดฟันน้อยกว่าแบบโลหะ รวมทั้งมีการนัดพบแพทย์ จัดฟัน เพื่อปรับเครื่องมือห่างกัน 6-8 อาทิตย์ ซึ่งน้อยกว่าการจัดฟันแบบติดแน่นทั่วไป
- เครื่องมือจัดฟันโลหะ (รูปดาว, รูปหัวใจ) เป็นการจัดฟันโดยจะคล้ายแบบโลหะ แต่จะมีแบรคเก็ตรูปดาว หรือรูปหัวใจติดอยู่ที่ฟัน เพื่อความแปลกใหม่ในการจัดฟัน
- เครื่องทอจัดฟันชนิดด้านในช่วยในเรื่องความสวยงาม จะมองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟันเมื่อยิ้ม ผู้ที่ติดเครื่องมือส่วนใหญ่จะสามารถปรับตัวให้คุ้นเคยกับเครื่องมือได้ภายใน 1 เดือน และมีปัญหาเรื่องการออกเสียงเล็กน้อย อาจจะใช้เวลามากกว่าการจัดฟันด้านนอกประมาณ 6 เดือน
2. แบบถอดได้ เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดใสไม่ติดเครื่องมือ มักใช้สำหรับการเคลื่อนฟันในบางรูปแบบโดยไม่ติดเครื่องมือลงบนตัวฟัน ตัวเครื่องมือทำจากพลาสติก แข็งใส ใช้สวมครอบทับบนฟันเอาไว้ให้ความสวยงามเหมือนธรรมชาติมาก นอกจากนี้ ยังสามารถถอดได้เวลาจะรับประทานอาหาร และทำความสะอาดทำได้ง่าย แบ่งออกเป็น 2 แบบ
- Essix เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดใส สามารถใช่ได้ในบางกรณีเท่านั้น เช่น ฟันห่าง (โดยเฉพาะฟันหน้า) ฟันซ้อนเกพอประมาณ การจัดฟันแบบนี้จะใช้เวลาในการจัดฟันประมาณ 2-8 เดือน และมีการนัดเข้ามาปรับเครื่องมือ 1-2 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งจะน้อยกว่าการจัดฟันแบบติดแน่นทั่วไป
- Invisalign เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดใสเหมือน Essix จะทำสำหรับกรณีซับซ้อน แต่ก็ยังเป็นการใช้งานในบางกรณีเท่านั้น โดยใช้เครื่องมือประมาณ 20-40 คู่ คนไข้จะใส่คู่ละประมาณ 2 สัปดาห์
ในกรณีที่คนไข้มีความผิดปกติของขากรรไกรร่วมด้วยจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดร่วมกับการจัดด้วยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางศัลกรรม (Oral & Maxillofacial Surgeon) รักษาร่วมการจัดฟัน เช่น ขากรรไกรบนยื่นออกมามาก คางยื่นออกมามาก คางถอยหรือคางเล็กมาก ขากรรไกรล่างหรือฟันหน้าล่างคร่อมฟันบนมาก หน้าเบี้ยว ยิ้มแล้วเห็นเหงือกเยอะ
การแก้ไขนอกจากจะใช้การจัดฟันแล้วต้องอาศัยการผ่าตัดกระดูกขากรรไกรร่วมด้วยซึ่งบางรายอาจจะผ่าตัดแค่ขากรรไกรเดียว (บนหรือล่าง) หรือในบางรายอาจจะต้องผ่าตัดทั้ง 2 ขากรรไกรพร้อมๆ กันขั้นตอนในการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดคือ
1. การจัดฟันก่อนผ่าตัด ซึ่งเป็นการแก้ไขการเรียงตัวของฟันให้เป็นระเบียบให้สัมพันธ์กับขากรรไกรแต่ละอันโดยส่วนใหญ่จะใช้เวลา 1 ปีครึ่ง – 2 ปี
2. ขั้นตอนการผ่าตัด หลังทำการจัดฟันให้ได้ตำแหน่งที่ควรจะเป็นแล้ว ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดขากรรไกรในห้องผ่าตัดให้มาอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นให้ได้เค้าโครงหน้าที่สวยงามซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนขากรรไกรที่ต้องผ่าและความยากง่ายของเคส หลังจากนั้นผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 2 วัน และกลับไปฟักฟื้นต่อที่บ้าน ช่วงแรกผู้ป่วยจะรับประทานอาหารลำบากสักนิด ต้องรับประทานอาหารอ่อนๆ หลังจาก 6-8 สัปดาห์ผู้ป่วยก็จะสามารถรับประทานอาหารได้เป็นปกติ
3. การจัดฟันหลังการผ่าตัด ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทันตแพทย์จัดฟันจะแก้ไขรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ส่วนมากมักจะใช้เวลาเพียง 6 เดือน การจัดฟันก็จะสิ้นสุดลง ผู้ป่วยจะต้องใส่รีแทรนเนอร์ต่อเพื่อคงสภาพฟันเหมือนคนไข้จัดฟันปกติ
เนื่องจากแต่ละวิธี มีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ในแง่ของข้อบ่งใช่ ข้อห้าม เรื่องของราคา และเวลาที่ใช้ในการรักษา ดังนั้น อาจมีหลายวิธีที่ดีและเหมาะสมกับตัวคนไข้แต่ละคน ขึ้นอยู่อีกหลายปัจจัยซึ่งต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบรอบครอบก่อนเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง