นิ่วทอนซิล (Tonsilliliith, Tonsil stone)
ต่อมทอนซิล (Tonsils) เป็นต่อมน้ำเหลืองในคอ ทำหน้าที่เป็นระบบภูมิคุ้มกัน จับและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายทางลำคอ
ต่อมทอนซิลพบได้ 3 ตำแหน่ง
- ต่อมทอนซิลข้างช่องปาก เรียกว่า Palatine tonsil
- ต่อมทอนซิลบริเวณโคนลิ้น เรียกว่า Lingual tonsil
- ต่อมทอนซิลบริเวณช่องหลังโพรงจมูก เรียกว่า Adenoid tonsil ปกติต่อมทอนซิลจะมีร่องหรือซอก (Crypts) ซึ่งเศษอาหารอาจเข้าไปติดในร่อง บางรายอาจมีสารแคลเซียมมาเกาะ ทำให้มีลักษณะคล้ายก้อนแคลเซียม (Tonsilolith) หรือก้อนหิน (Tonsil stone) อยู่ในร่องต่อมทอนซิลได้
นิ่วทอนซิลสามารถทำให้เกิดอาการในช่องปากได้ ดังนี้
- มีกลิ่นปาก
- รู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอตลอดเวลา
- มีการระคายเคืองที่ลำคอ รู้สึกเจ็บคอ และไอเรื้อรัง
- มีอาการปวดร้าวไปถึงหูเวลากลืนน้ำลาย
- มีอาการทอนซิลอักเสบบ่อยขึ้นจากเชื้อโรคที่หมักหมมบริเวณร่องที่ผิวทอนซิล
สาเหตุของนิ่วทอนซิล
การศึกษาพบว่าผู้ที่มีอาการทอนซิลอักเสบบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงสูงในการเกิดนิ่วทอนซิล เนื่องจากการติดเชื้อของทอนซิลทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อส่วนเกินมากขึ้น และเนื้อเยื่อเหล่านี้อาจก่อตัวเป็นก้อนและร่องในต่อมทอนซิล จึงทำให้เซลล์ที่ตายแล้วและเศษอาหารต่างๆ ติดอยู่จนเกิดการรวมตัวของแบคทีเรียและเชื้อราที่ส่งกลิ่นเหม็น สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะค่อยๆ จับตัวกันเป็นก้อนแข็งที่เรียกว่านิ่ว ซึ่งสาเหตุของนิ่วทอนชิล จึงเกิดจาก
- ต่อมทอนซิลมีการอักเสบบ่อย
- ต่อมทอนซิลที่มีขนาดใหญ่หรือมีร่องค่อนข้างลึก
- การรักษาความสะอาดช่องปากไม่เพียงพอ
การรักษา มี 2 วิธี คือ
1. วิธีไม่ผ่าตัด ได้แก่
- การกลั้วคอแรงๆ จะช่วยให้ขี้ไคลทอนซิลหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น
- การใช้ไม้พันสำลี (Cotton bud) เขี่ย หรือกดบริเวณต่อมทอนชิล เพื่อเอาขี้ไคลทอนชิลดังกล่าวออก
- การใช้นิ้วล้วงเข้าไปในช่องปาก แล้วกดบริเวณต่อมทอนซิล เพื่อให้ขี้ไคลทอนซิลหลุดออกมาได้
- การใช้ที่พ่นน้ำทําความสะอาดช่องปาก. ฟัน และลิ้น (Water pick) ฉีดบริเวณต่อมทอนชิล อาจทำให้ขี้ไคล ทอนซิลหลุดออกได้
2. วิธีผ่าตัด ได้แก่
ผ่าตัดต่อมทอนซิลออก (tonsillectomy) เป็นการรักษาที่หายขาด มักจะทำในกรณีที่ใช้วิธีดังกล่าวข้างต้นแล้วยังไม่ได้ผลการผ่าตัดต่อมทอนชิล (Tonsillectomy) โดยการนำเนื้อเยื่อของทอนซิลออกเพื่อลดการก่อตัวของนิ่ว วิธีการนี้แพทย์ต้องวางยาสลบผู้ป่วย และผู้ป่วยจะมีอาการกลืนอาหารลำบากและเจ็บคอประมาณ 7-14 วันภายหลังการผ่าตัด โดยระยะเวลาในการฟื้นตัวหลังผ่าตัดจะมีความแตกต่างกันไป ตามเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดทอนซิล
นิ่วทอนซิลสาเหตุของกลิ่นปากที่หลายคนอาจไม่รู้ตัวสามารถรักษาให้หายขาดได้โดยใช้คลื่น Ultrasonic (Harmonic scalpel)
ปัจจุบันนวัตกรรมทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก วันนี้ นพ.อุทัย ประภามณฑล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมศีรษะ ลำคอ หลอดลมและกล่องเสียง ศูนย์หู คอ จมูก โรงพยาบาลพญาไท3 จะแนะนำเทคนิคการผ่าตัดนิ่วทอนซิลให้หายขาด โดยการใช้คลื่น Ultrasonic ซึ่งเป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงในการผ่าตัดทอนซิล (Radiofrequency tonsillectomy)
Check list! นอกจากการผ้าตัดนิ่วทอนซิลแล้ว การผ่าตัดทอนซิลโดย Ultrasonic, Harmonic scalpel ยังใช้ผ่าทอนซิลในกรณีที่ผู้ป่วย มีอาการดังต่อไปนี้
- ทอนซิลอักเสบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ (7 ครั้ง/ปี หรือ 5 ครั้ง/ปี 2 ปีติดต่อกัน, หรือ 3 ครั้งต่อปี 3 ปีติดต่อกัน)
- การเกิดฝีรอบๆ ต่อมทอนซิล หลังรักษาอาการฝีรอบๆ ทอนซิลหายแล้ว ประมาณ 1-2 เดือน ค่อยมาผ่าตัดทอนซิลออก
- สงสัยว่าเป็นมะเร็งที่ต่อมทอนซิล
- ทอนซิลมีขนาดใหญ่มากจนทำให้เกิดอาการอุดกั้นทางเดินหายใจหรือนอนกรน
Ultrasonic, Harmonic scalpel
นพ.อุทัย อธิบายถึงนวัตกรรมนี้ว่า เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่ในการทำให้หัวจี้เกิดการสั่นสะเทือน ระดับความถี่ 55,000 Hz ซึ่งเครื่องมือดังกล่าว ทำให้เกิดความดันภายในเซลล์ (Intracellular pressure) แรงที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเซลล์ขึ้น (Intracellular cavities) กว้างจนทำให้เนื้อเยื่อฉีกจากกัน
นอกจากนี้ หัวจี้ตัวนี้มีความร้อนต่ำ มีความร้อนประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส จึงทำให้ขณะตัดเนื้อทอนซิลเนื้อเยื่อบาดเจ็บน้อย อีกทั้งความร้อนที่เกิดขึ้นนี้ทำให้โปรตีนในเนื้อเยื่อแข็งตัว (Protein coagulation) บริเวณที่ผ่าตัดก็จะไม่ค่อยมีเลือดไหลขณะผ่าตัด เครื่องมือนี้สามารถตัดเส้นเลือดที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 6 mm.
โดยสรุปแล้ว Ultrasonic, Harmonic scalpel ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลผ่าตัดบาดเจ็บลดลงกว่าการผ่าตัดแบบเก่า และยังสามารถห้ามเลือดในขณะผ่าตัดได้ดีอีกด้วย
ข้อดี ของการผ่าตัดนิ่วทอนซิลและโรคของต่อมทอนซิลโดยใช้ Ultrasonic, Harmonic scalpel คือ
- การผ่าตัดใช้เวลาสั้น ประมาณ 15-20 นาที ทำให้ลดระยะเวลาในการดมยาลง เพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัด
- เครื่องมือสามารถตัดเนื้อเยื่อและห้ามเลือดได้ภายในเวลาเดียวกัน การผ่าตัดจึงเสียเลือดน้อย โดยทั่วไปประมาณ 1-2 ซีซี
- ไม่ต้องใช้ไหมเย็บแผลในขณะผ่าตัด ลดโอกาสการระคายเคืองคอหลังผ่าตัดได้
- อาการเจ็บแผลหลังผ่าตัดน้อยกว่าวิธีอื่นๆ โดยเฉพาะในช่วง 3-7 วันหลังผ่าตัด
- ระยะเวลาที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง โดยทั่วไปนอนโรงพยาบาลหลังผ่าตัดประมาณ 1 วันก็สามารถกลับบ้านได้
ตัดทอนซิลออกไปแล้ว ทำให้ป่วย เจ็บคอบ่อย ใช่หรือไม่???
ต่อมทอนซิลที่โตหรืออักเสบบ่อยๆ เนื้อเยื่อของต่อมทอนซิล จะถูกแทนที่ด้วยผังฝืด ซึ่งจะเกิดตามหลังจากการอักเสบติดเชื้อ จึงทำให้หน้าที่ดักจับเชื้อโรคของต่อมทอนซิลลดลง กลายเป็นที่เก็บสะสมเชื้อโรคภายในต่อมแทน อีกทั้งภายในร่ายกายยังมีต่อมน้ำเหลืองอีกมากมายในคอทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกัน และดักจับเชื้อโรคแทน ดังนั้นการผ่าตัดทอนซิล จึงไม่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ กลับกัน ทำให้เจ็บป่วย คออักเสบลดลง หรือถ้าเป็นก็หายเร็วขึ้น
สรุปความเชื่อที่ว่าตัดต่อมทอนซิลไปแล้ว ทำให้ป่วยบ่อย ไม่มีตัวดักจับเชื้อโรค จึงเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง