รักษาต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ (REZUM) โดยไม่ต้องผ่าตัด
โรคต่อมลูกหมากโต หรือ BPH (Benign Prostate Hyperplasia) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ชายที่มีอายุมากขึ้น เป็นภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยทั่วไปขนาดของต่อมลูกหมากจะอยู่ที่ 20-25 กรัม เนื่องจากเนื้อต่อมที่โตขึ้นอยู่ด้านในสุดล้อมรอบท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดการบีบท่อปัสสาวะทำให้แคบลง จนทำให้เกิดอาการปัสสาวะขัด รวมทั้งอาการอื่น ๆ ของโรค ได้แก่
- ปัสสาวะบ่อยหรือต้องการปัสสาวะทันที
- ปัสสาวะนาน ปัสสาวะอ่อน ปัสสาวะสะดุด (ขัดเบา) ปัสสาวะเป็นหยด ๆ
- รู้สึกปวดขณะถ่ายปัสสาวะ
- ปัสสาวะหลายครั้งในตอนกลางคืน
- มีเลือดปนออกมาในปัสสาวะ
- ปัสสาวะไม่ออกฉับพลัน
ร้อยละ 40-50 ของผู้ป่วยเท่านั้นที่แสดงอาการ และผู้ป่วยกลุ่มที่เหลืออาจแสดงอาการได้ตั้งแต่น้อยไปถึงอาการมากจนเกิดภาวะแทรกซ้อนหากไม่ได้รับการรักษา
ปัจจุบัน มีการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตที่มีประสิทธิภาพหลายวิธีตั้งแต่ในผู้ป่วยที่แสดงอาการไม่มาก อาจให้การรักษาด้วยยาช่วยคลายการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อต่อมลูกหมาก ได้แก่ ยากลุ่มอัลฟ่าบลอคเกอร์ ( Alpha Blocker ) และยากลุ่มยับยั้งการสร้างฮอร์โมน DHT และในผู้ป่วยที่มีอาการมากมักเลือกวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันมีเทคนิคการผ่าตัดหลากหลายวิธี
- การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อขูดต่อมลูกหมาก (TURP)
- การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อขยายท่อปัสสาวะ (TUIP)
- การผ่าตัดด้วยการใช้คลื่นไมโครเวฟ (TUMT)
- การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Therapy)
- การผ่าตัดต่อมลูกหมากโดยใช้หุ่นยนต์
- การรักษาต่อมลูกหมากด้วยไอน้ำ (Water vapor therapy for benign prostate hyperplasia)
เปรียบเทียบการรักษาต่อมลูกหมากโตแต่ละเทคนิค
Rezum | TUR-P | PVP Laser | |
คืออะไร | หัตถการใหม่ ใช้ไอน้ำร้อนทำลายเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากที่กดทับท่อปัสสาวะ | การผ่าตัดผ่านกล้อง โดยสอดกล้องเข้าไปทางท่อปัสสาวะ พร้อมเครื่องมือที่สามารถตัดและจี้เนื้อเยื่อส่วนที่กดทับออกได้ | ใช้เลเซอร์สีเขียว (Greenlight Laser) ยิงเข้าไปที่ต่อมลูกหมากเพื่อทำให้เนื้อเยื่อส่วนเกิน “ระเหย” หายไป |
วิธีการรักษา | สอดเข็มเล็กทางท่อปัสสาวะ ปล่อยไอน้ำเฉพาะจุด ใช้เวลาประมาณ 15–30 นาที ไม่ต้องนอน รพ. | ใช้กล้องผ่านท่อปัสสาวะ + ตัดเนื้อเยื่อ ใช้เวลาประมาณ 60–90 นาที นอน รพ. 1–3 วัน | ใช้กล้องยิงเลเซอร์พลังสูงเพื่อระเหยเนื้อเยื่อ ใช้เวลาประมาณ 60–90 นาที บางรายไม่ต้องนอน รพ. |
จุดเด่น | ✅ ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ✅ เจ็บตัวน้อย ✅ ฟื้นตัวไว (3–7 วัน) ✅ ไม่กระทบสมรรถภาพเพศ ✅ ปลอดภัย เหมาะกับผู้มีโรคร่วม ✅ ไม่ต้องรอให้มีอาการเยอะก็สามารถทำได้ |
✅ ผลการรักษาชัดเจน ✅ ใช้มานาน มีความน่าเชื่อถือ ✅ เหมาะกับต่อมลูกหมากโตขนาดใหญ่ |
✅ เจ็บน้อย ✅ เลือดออกน้อย ✅ ฟื้นตัวเร็วกว่าผ่าตัดปกติ |
ข้อจำกัด | – ใช้กับต่อมลูกหมากขนาดเล็ก–กลาง |
– ฟื้นตัวช้า (2–4 สัปดาห์) – มีผลข้างเคียง เช่น น้ำอสุจิย้อนกลับ – ไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ, โรคเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง, ไตวายเรื้อรัง – จะทำในกรณีที่ปัสสาวะเป็นเลือดไม่หยุด หรือปัสสาวะไม่ออกจนกระทั่งต้องใส่สายสวนปัสสาวะ หรือจนกระทั่งเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ รวมไปถึงเกิดภาวะไตบวมน้ำจากภาวะต่อมลูกหมากโตจึงจะทำการผ่าตัด |
– ไม่เหมาะกับต่อมลูกหมากใหญ่มาก – ผลการรักษาอาจแปรผันตามบุคคล (แม้จะใช้เทคนิคเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ทั้งในแง่ของความรู้สึกอาการดีขึ้น ระยะเวลาฟื้นตัว หรือโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ) |
อย่างไรก็ตาม การที่จะเลือกวิธีรักษาที่ดีที่สุดได้นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยหลายอย่าง อาทิ
- ขนาดของต่อมลูกหมาก
- อายุของผู้ป่วย
- สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
- จำนวนครั้งที่ผู้ป่วยปัสสาวะแล้วรู้สึกปวดหรือทำให้รู้สึกปัสสาวะไม่สะดวก
โดยแพทย์จะพูดคุยกับผู้ป่วยเพื่อประเมินอาการของโรค และเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุด โดยประเมินจากอาการ ขนาดของต่อมลูกหมาก และสุขภาพร่างกายของผู้ป่วย ในบทความนี้จะกล่าวถึงเทคนิคการรักษาด้วยวิธีใหม่คือ การรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ (Water vapor therapy for benign prostate hyperplasia)
การรักษาต่อมลูกหมากด้วยไอน้ำ (Water vapor therapy for benign prostate hyperplasia) เป็นวิธีการรักษาต่อมลูกหมากโตที่เรียบง่าย ปลอดภัยเพราะใช้เพียงไอน้ำในการรักษาและใช้เวลาไม่นานประมาณ 10-15 นาที ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ และมักสามารถทำได้ในรูปแบบการรักษาแบบผู้ป่วยนอก ใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด
การรักษาด้วยเทคโนโลยีไอน้ำเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป และมีขนาดต่อมลูกหมาก 30 – 80 กรัม ( มีรายงานจากต่างประเทศทำในขนาด 120 กรัม)
- ผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
- ผู้ที่มีผลข้างเคียงจากการใช้ยา
- ผู้ที่ไม่ต้องการทานยาในระยะยาว
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดที่ต้องวางยาสลบนานๆ
- ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาเรื่อง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หลังการผ่าตัดหรือการทานยา
ข้อดีของการรักษาด้วยเทคโนโลยีไอน้ำ
- ไม่ต้องผ่าตัด เนื่องจากการรักษานี้ใช้กล้องส่องที่นำเข้าท่อปัสสาวะตามช่องทางธรรมชาติ
- ไม่ต้องใช้ยาสลบ ใช้เพียงแค่ยาระงับความปวดเฉพาะจุด
- ขั้นตอนการรักษาใช้เวลาไม่นาน 10 – 15 นาที
- ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องนอนค้างโรงพยาบาล
- ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว
- ไม่ต้องรักษาซ้ำภายใน 5 ปี
ข้อจำกัดของการรักษาด้วยเทคโนโลยีไอน้ำ ไม่เหมาะกับผู้ป่วยดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีการใส่หูรูดปัสสาวะเทียม (urinary sphincter implant)
- ผู้ที่มีการใส่อวัยวะเพศชายเทียม (penile prosthesis)
- ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะอยู่
- ผู้ที่มีภาวะความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
ขั้นตอนการทำหัตถการ
(เครื่องมือที่ใช้ทำหัตถการ)
(เครื่องมือที่ใช้ทำหัตถการ)
แพทย์จะใช้เครื่องมือและกล้องสอดผ่านท่อปัสสาวะ เข้าไปยังต่อมลูกหมาก หลังจากนั้นแพทย์จะฉีดไอน้ำที่มีอุณหภูมิ 103 องศาเซลเซียสเข้าไปในต่อมลูกหมากประมาณ 4-6 ครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของต่อมลูกหมาก โดยการฉีดแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 9 วินาที ไอน้ำจะกระจายเข้าไประหว่างเซลล์ของต่อมลูกหมาก ทำให้เซลล์ที่อุดตันท่อทางเดินปัสสาวะตายไป (Apoptosis) และร่างกายจะกำจัดเซลล์ที่ตายออกไปตามธรรมชาติ ในที่สุดต่อมลูกหมากจะหดตัวมีขนาดเล็กลงและท่อปัสสาวะจะกว้างขึ้น ทำให้ปัสสาวะได้เป็นปกติ
(ผลก่อนและหลังการรักษา)
การดูแลหลังการผ่าตัด
หลังการรักษาแพทย์จะใส่สายสวนปัสสาวะแบบคาสายปัสสาวะชนิดโฟเลย์ (Foley’s catheter) ให้กับผู้ป่วยไว้ประมาณ 3-5 วัน ช่วยให้ผู้ป่วยไม่ต้องถ่ายปัสสาวะเอง ทำให้อาการบวมหายเร็ว และการฟื้นตัวเร็วขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
การรักษาด้วยเทคโนโลยีไอน้ำ อาจมีความเสี่ยงที่พบได้บ้างในระยะสั้น ๆ และมักมีอาการไม่รุนแรง เช่น
- ปัสสาวะลำบาก
- มีเลือดปนในปัสสาวะหรืออสุจิ
- ปัสสาวะบ่อย
- ปัสสาวะไม่ออก
- ปริมาณการหลั่งน้ำอสุจิลดลง
- ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
ซึ่งโดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์และส่วนใหญ่หายเป็นปกติภายใน 6 สัปดาห์
นับว่าการรักษาด้วยไอน้ำ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีผลงานวิจัยรองรับว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย และถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต ซึ่งเป็นโรคที่ผู้ชายไม่ควรมองข้าม เพราะหากมีอาการแทรกซ้อนจะยิ่งทำให้การรักษายากขึ้น ดังนั้น จึงควรหมั่นสังเกตตัวเอง หากมีอาการเบื้องต้นให้รีบปรึกษาแพทย์โดยทันทีเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและอาการของแต่ละบุคคล
สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาต่อมลูกหมากโต แนะนำให้มาพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการตรวจร่างกาย และวินิจฉัยโรค ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลพญาไท 2 มีการรักษาที่หลากหลายทั้งการให้ยา การผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน และการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่างการรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ (REZUM) ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี และมีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับวิธีการรักษาแบบเดิม ๆ
พ.ต.อ. สุรัติ กิตติศุภพร
แพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะ
ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลพญาไท 2