ไฟดูด ไฟช็อต ทำร้ายหัวใจ อาการแบบไหนต้องตรวจและเฝ้าระวัง

ไฟดูด ไฟช็อต ทำร้ายหัวใจ อาการแบบไหนต้องตรวจและเฝ้าระวัง

เมื่อถูกไฟดูด หรือไฟช็อต ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจมีตั้งแต่แค่สะดุ้ง ชา บาดเจ็บเล็กน้อย ไปจนถึงอวัยวะต่างๆ ได้รับความเสียหาย ที่นำไปสู่ความพิการ หรือทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น แรงดัน ปริมาณ ระยะเวลาที่ร่างกายสัมผัส เส้นทาง และจุดที่กระแสไฟฟ้าไหลเข้าออก โดยอวัยวะที่ได้รับผลกระทบอาจรวมไปถึง ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ ตลอดจนผิวหนัง และอวัยวะภายใน

 

เมื่อโดนไฟดูดจะเกิดผลกระทบอย่างไร?

เมื่อถูกไฟดูด ระบบการทำงานของร่างกาย และอวัยวะสำคัญต่างๆ อาจได้รับผลกระทบ ดังนี้

  • ระบบหัวใจและหลอดเลือด อาจรบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ จนเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น
  • ระบบประสาท ทำให้เกิดอาการมึนงง สูญเสียความทรงจำ หรือถึงขั้นเป็นอัมพาตถาวร
  • ศูนย์ควบคุมการหายใจเสียหาย ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และนำไปสู่การเสียชีวิต
  • ระบบกล้ามเนื้อเกิดการเกร็ง หรือหดตัวอย่างรุนแรง ชัก กระดูกหัก อวัยวะภายในเสียหาย
  • ผิวหนัง และเนื้อเยื่อเกิดแผลไหม้จากความร้อนของกระแสไฟฟ้า

 

ไฟดูดส่งผลกระทบต่อหัวใจอย่างไรบ้าง?

หัวใจ เป็นอวัยวะที่ไวต่อกระแสไฟฟ้ามาก เนื่องจากระบบการทำงานของหัวใจอาศัยกระแสไฟฟ้าธรรมชาติในการควบคุมจังหวะการเต้น เมื่อได้รับกระแสไฟฟ้าจากภายนอก อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เต้นเร็วเกินไป ช้าลงอย่างผิดปกติ หรือหยุดเต้นโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ถูกไฟดูดเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว โดยผลกระทบที่มักพบได้ มีดังนี้

  • คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Heart Electrical Conduction System) : ทำให้การควบคุมจังหวะการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ จนเกิดภาวะต่างๆ
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) ส่งผลต่อการสูบฉีดเลือด และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
  • หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (Tachycardia) หรือหัวใจเต้นช้าผิดปกติ (Bradycardia) โดยภาวะเหล่านี้ อาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน หรือหมดสติ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นได้
  • หัวใจเต้นพลิ้ว(Atrial Fibrillation; AF) เป็นภาวะที่หัวใจห้องบนเต้นเร็ว และมีจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้เลือดไม่สามารถไหลไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
  • หัวใจห้องล่างเต้นแผ่วระรัว (Ventricular Fibrillation; VF) อย่างไม่สัมพันธ์กัน ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้ตามปกติ
  • หัวใจหยุดเต้นฉับพลัน (Cardiac Arrest) จากการได้รับกระแสไฟฟ้าแรงสูง ทำให้หัวใจหยุดเต้นทันที เพราะคลื่นไฟฟ้าหัวใจถูกขัดจังหวะอย่างรุนแรง
  • กล้ามเนื้อหัวใจหดเกร็ง (Sustained contraction of myocardium) : ทำให้หัวใจไม่

สามารถสูบฉีดเลือดได้ตามปกติ เลือดจึงไปเลี้ยงสมองและอวัยวะต่างๆ ไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่อาการหมดสติ หรือภาวะหัวใจหยุดเต้น

  • เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย (Heart muscle damage) : จากความร้อนสะสมภายในกล้ามเนื้อหัวใจ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะเรื้อรัง

 

ทำไมไฟดูดถึงส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ?

โดยปกติ หัวใจมีระบบควบคุมการเต้นด้วยสัญญาณไฟฟ้าที่เกิดขึ้นเองภายใน โดยเริ่มจากจุดที่เรียกว่า ปุ่มไซโนเอเทรียล (Sinoatrial Node; SA Node) ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปยังหัวใจห้องบนและห้องล่าง เพื่อควบคุมจังหวะการบีบตัวและการสูบฉีดเลือด แต่เมื่อถูกไฟดูด กระแสไฟฟ้าจากภายนอกจะเข้าไปรบกวนสัญญาณไฟฟ้าธรรมชาติของหัวใจ ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เต้นเร็ว หรือช้ากว่าปกติ หากเป็นไฟฟ้าแรงดันสูง (High-voltage) อาการจะรุนแรงขึ้น อาจทำให้เซลล์หัวใจห้องล่างทำงานผิดปกติ จนไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้ หรือคลื่นไฟฟ้าหัวใจหยุดทำงานทันที ผู้ป่วยในกรณีนี้มักหมดสติ และเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่นาที

 

การตรวจสุขภาพหัวใจหลังโดนไฟดูด

หลังจากถูกไฟดูด นอกจากการตรวจร่างกายโดยรวม เช่น การฟังเสียงหัวใจ ตรวจชีพจร และการวัดความดันโลหิต เพื่อประเมินการทำงานของหัวใจและอวัยวะอื่นๆ แพทย์อาจพิจารณาให้ตรวจเพิ่มเติมตามความเสี่ยง หรืออาการที่พบ เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เพื่อประเมินรูปแบบการเต้นของหัวใจ ภาวะหัวใจเต้นเร็ว เต้นช้า หรือเต้นผิดจังหวะ หากพบอาการที่น่าสงสัย แพทย์อาจตรวจหาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่รุนแรง เช่น หัวใจห้องล่างเต้นแผ่วระรัว (Ventricular Fibrillation) เพื่อประเมินความเสี่ยงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง

 

การฟื้นฟูสุขภาพหัวใจหลังถูกไฟดูด

การฟื้นฟูสุขภาพหัวใจหลังถูกไฟดูด ต้องใช้เวลา และการดูแลที่ละเอียดรอบคอบ เพื่อให้หัวใจกลับมาทำงานได้อย่างปกติ และแข็งแรงอีกครั้ง ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้

  • ติดตาม และตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)
  • การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ด้วยการควบคุมอาหารเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เช่น การลดปริมาณเกลือ ไขมัน น้ำตาล และอาหารคอเลสเตอรอลสูง
  • การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ด้วยการออกกำลังกายภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
  • การใช้ยา และการรักษาที่เหมาะสม หากมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือโรคหัวใจอื่นๆ อาจต้องใช้ยาเพื่อควบคุมภาวะเหล่านี้ เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาปรับการเต้นของหัวใจ หรือยาลดไขมันในเลือด ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

 

นอกจากการฟื้นฟูสุขภาพหัวใจ ยังอาจต้องฟื้นฟูสุขภาพจิตด้วย จึงควรให้ความสำคัญกับการพักผ่อน การลดความเครียด เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และมีความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ในระหว่างการฟื้นฟู

 

การถูกไฟดูด อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน รวมถึงระบบไฟฟ้าหัวใจ กล้ามเนื้อ และหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน การได้รับการตรวจรักษาอย่างทันท่วงที จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน เรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านหัวใจ พร้อมทั้งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย คอยให้บริการดูแล รักษา และฟื้นฟูสุขภาพหัวใจของคุณ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว และช่วยให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง

 

รศ.นพ. ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์
ศัลยแพทย์เฉพาะทางผ่าตัดผ่านกล้อง
โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน


นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...