“อาจารย์ นพ.สังกาศ ทองบริสุทธิ์ เคยบอกกับหมอว่า ‘การรักษาคนไข้ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราคิดว่าเขาเป็นญาติของเรา’ เมื่อเราดูแลคนไข้ด้วยความเข้าใจอย่างจริงใจ เราจะใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นอาการเล็กน้อย หรือความเจ็บปวดที่ยังไม่สามารถระบุโรคได้ชัดเจน เราจะทุ่มเทเต็มกำลังเพื่อวินิจฉัยอย่างรอบคอบ เลือกวิธีรักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุดเสมอ นั่นคือหัวใจสำคัญของการเป็นแพทย์ที่หมอเชื่อมั่นและปฏิบัติมาโดยตลอด”

 

จากความศรัทธา สู่แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา (ENT) ที่รักษาคนไข้มาหลายทศวรรษ

เส้นทางการเป็นแพทย์ของ นพ.ภิญโญ เปลี่ยนรังษี เริ่มจากการเรียนเตรียมแพทย์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างปี พ.ศ. 2509–2511 ท่ามกลางบรรยากาศแห่งแรงบันดาลใจจากกลุ่มเพื่อนที่มีความฝันเดียวกัน ต่อมาได้ศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โดยสำเร็จเป็นแพทยศาสตรบัณฑิต ในปี พ.ศ. 2515

 

จากนั้นคุณหมอได้เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่โรงพยาบาลศิริราช และศึกษาต่อเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาโสต ศอ นาสิกวิทยา ในปี พ.ศ. 2518-2521 ด้วยความชื่นชอบในศาสตร์ที่ผสมผสานระหว่างการรักษาด้วยยา และการผ่าตัด ซึ่งอาจารย์แพทย์ของคุณหมอได้แนะนำว่า บริเวณหู คอ จมูก เป็นบริเวณที่เล็กเฉพาะจุดของร่างกาย จึงต้องอาศัยความละเอียดในการรักษา และอวัยวะส่วนนี้ยังมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก

 

“การเข้าศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ ไม่ได้เป็นเพียงความฝันของตัวหมอเอง แต่ยังมีแรงสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทางที่มีเป้าหมายเดียวกัน และเมื่อได้สัมผัสกับการทำงานจริง หมอค้นพบว่าตนเองมีความชื่นชอบในการทำหัตถการ ซึ่งสอดคล้องกับโรคต่างๆ ในสาขาโสต ศอ นาสิกวิทยา ที่นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว ยังต้องอาศัยการตรวจรักษาด้วยเครื่องมือเฉพาะทางที่ต้องฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ เนื่องจากเป็นอวัยวะมีขนาดเล็ก และซับซ้อน จึงต้องการความละเอียดสูงในการรักษา ทั้งยังมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย”

 

 

เจ็บป่วยบ่อยอาจเพราะพฤติกรรมที่คุ้นชิน นพ.ภิญโญ เปลี่ยนรังษี มีคำแนะนำ

นพ.ภิญโญ เปลี่ยนรังสี เป็นแพทย์ที่ใช้ความละเอียดในการตรวจ วินิจฉัย ตั้งแต่การซักประวัติ ไปจนถึงการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ร่วมกับการสังเกตและเข้าใจผู้ป่วยอย่างลึกซึ้ง สำหรับผู้ป่วยโรคหู คอ จมูก โดยเฉพาะกลุ่มอาการที่พบบ่อย เช่น โรคภูมิแพ้อากาศ ไซนัสอักเสบ เจ็บคอ เสียงแหบ กลืนลำบาก และหูอื้อ ซึ่งมักเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งทางร่างกาย สิ่งแวดล้อม และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน

 

แนวทางในการรักษาที่คุณหมอให้ความสำคัญ คือการส่งเสริมให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมร่วมกับการรักษา เพราะจากประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน คุณหมอพบว่า การดูแลตนเองที่ดีสามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้ถึง 70% ขณะที่การใช้ยามีบทบาทประมาณ 30% เพื่อช่วยควบคุมอาการเฉียบพลันในช่วงแรก

 

“แนวทางสำคัญในการดูแลผู้ป่วยของหมอ จะไม่ใช่แค่การให้ยา แต่ต้องเริ่มต้นที่การวินิจฉัยให้ถูกต้อง และให้คำแนะนำที่เหมาะสมในการปรับพฤติกรรม เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรค เมื่อหายแล้วจะได้ไม่เป็นซ้ำบ่อย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพายา และส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว”

 

การรักษาผู้แบบองค์รวมกับทีมสหสาขาวิชาชีพที่แข็งแกร่ง

ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีในอาชีพแพทย์ ที่โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน นพ.ภิญโญ เปลี่ยนรังษี ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ รวมถึงสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งนับเป็นความร่วมมือแบบทีมเวิร์คที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล นักกายภาพบำบัด เภสัชกร เป็นระบบการดูแลที่ครบถ้วน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่เหมาะสมที่สุด

 

“หมอเชื่อมั่นเสมอว่า การรักษาที่ดีต้องอาศัยทั้งความพิถีพิถันในหลักวิชาการ ควบคู่กับจริยธรรมวิชาชีพ รวมถึงการทำงานร่วมกับทีมแพทย์และสหสาขาวิชาชีพอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ปลอดภัย และครบถ้วนที่สุด นี่คือมาตรฐานสำคัญที่หมอยึดถือและใช้มาตลอด”