“โรคภูมิแพ้ทางจมูกและไซนัสอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยในกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจตอนบน และกลุ่มหู คอ จมูก ซึ่งมักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยเฉพาะไซนัสอักเสบเรื้อรัง แม้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอยู่ตลอดเวลา การตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นแล้ว ยังสามารถควบคุมโรคไม่ให้ลุกลามหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ในระยะยาว”
พญ. สุวิดา รัตนเกษตรสิน สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ในปี พ.ศ. 2552 โดยในขณะที่เป็นนักศึกษาแพทย์ คุณหมอมีความสนใจในโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และโรคทางหู คอ จมูก เป็นพิเศษ จึงเลือกศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก โสต ลาริงซ์วิทยา ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ในปี พ.ศ. 2555-2556 ก่อนจะศึกษาต่อยอดวุฒิบัตรโสต ศอ นาสิกวิทยา ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามด้วยประกาศนียบัตรอนุสาขานาสิกวิทยาและโรคภูมิแพ้ ในปี พ.ศ. 2558-2559 เพื่อเพิ่มพูนความรู้เฉพาะทางในด้านนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“หมอเริ่มสนใจในสาขาโสต ศอ นาสิกวิทยา ตั้งแต่ช่วงที่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์ เพราะมองเห็นความน่าสนใจของศาสตร์นี้ ที่ผสมผสานทั้งการรักษาด้วยยาและการผ่าตัดเข้าไว้ด้วยกัน โดยต้องอาศัยทั้งความรู้ที่ลึกซึ้งในการตรวจ รักษา และความแม่นยำในการใช้เครื่องมือเมื่อต้องทำหัตถการ เพราะเป็นอวัยวะที่ค่อนข้างเล็กและอยู่ในบริเวณที่จำกัด เมื่อมีโอกาสศึกษาต่อจึงเลือกเรียนด้านนี้ และเลยไปถึงสาขานาสิกวิทยาและโรคภูมิแพ้ เพื่อให้ดูแลผู้ป่วยได้อย่างครอบคลุมและตรงจุดมากยิ่งขึ้น”
รักษาด้วยความรู้เฉพาะทาง พร้อมสร้างคุณค่าให้สังคมในคราวเดียวกัน
พญ. สุวิดา รัตนเกษตรสิน มีความมุ่งมั่นในพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างรอบด้านในสาขาที่เล่าเรียนมา ทั้งยังตั้งใจที่จะ “ทำงานและสร้างคุณค่าให้สังคมไปพร้อมๆ กัน” คุณหมอจึงได้ให้เวลาทั้งในการรักษาคนไข้ และแบ่งเวลาไปเป็นอาจารย์พิเศษ ที่คณะแพทยศาสตร์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์สู่แพทย์รุ่นใหม่ๆ
ซึ่งความชำนาญในการรักษาไซนัสอักเสบเรื้อรัง ด้วยเทคนิคการผ่าตัดไซนัสผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (Functional Endoscopic Sinus Surgery: FESS) ที่คุณหมอใช้รักษาผู้ป่วยอยู่เสมอ เป็นวิธีการผ่าตัดที่ทันสมัยและปลอดภัย โดยไม่ต้องกรีดแผลภายนอก เนื่องจากเป็นการผ่าตัดผ่านรูจมูก โดยใช้กล้องขยายขนาดเล็กที่ให้ความละเอียดสูง ช่วยให้เห็นบริเวณที่เกิดปัญหาได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถตัดเนื้อเยื่อที่อักเสบหรือสิ่งอุดตันในโพรงไซนัสออกได้ทั้งหมดอย่างแม่นยำ ผู้ป่วยจึงฟื้นตัวได้เร็ว เจ็บแผลน้อย และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ทั้งยังช่วยฟื้นฟูการทำงานของไซนัสให้เป็นปกติ ลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ และช่วยให้การใช้ยาพ่นจมูกหรือยาอื่นๆ เช่น ยาพ่นสเตียรอยด์ หรือยาต้านการอักเสบ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ คุณหมอยังเชี่ยวชาญการรักษาด้วยเทคโนโลยีการจี้โพรงจมูกด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency Turbinoplasty) เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูกเรื้อรังในผู้ป่วยที่มีโพรงจมูกบวมจากภูมิแพ้ โดยวิธีนี้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ และช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างชัดเจน ด้วยการลดขนาดของเนื้อเยื่อโพรงจมูกที่บวมโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง